อควาฯรุกสื่อทีวี-ดาวเทียม ควบรวมมีเดียฯ-ผนึกจีทีเอช


ASTVผู้จัดการรายวัน(4 ธันวาคม 2552)



กลับสู่หน้าหลัก

“อควา มีเดีย” ควบรวม “มีเดีย 360” สู่ อความีเดีย 360 พร้อมเล็งเข้าตลาดอีก 2 ปี หวังระดมทุนผุดช่องใหม่ในเคเบิลทีวี ล่าสุดลุยฟรีทีวีเต็มที่ 5รายการ ล่าสุดจับมือ จีทีเอช ร่วมทุน ผลิตรายการซิทคอม “เนื้อคู่ อยากรู้ว่าใคร” สิ้นปีตั้งเป้ารายได้ 80ล้านบาท ส่วนปีหน้า โตพรวด ทะลุ 250 ล้านบาท

นายอภิเทพ ธรรมเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท อควา มีเดีย 360 จำกัด เปิดเผยว่า เดิม อควา เทเลวิชั่น เปิดดำเนินธุรกิจมากว่า 1ปี ด้านผู้ผลิตคอนเท้นท์รายการโทรทัศน์ มีทั้งผลิตเองและร่วมทุนผลิต กับทาง บริษัท มีเดีย 360 จำกัด และบริษัท ลักษ์ 666 จำกัด โดยมีรายการที่ออกอากาศรวม 5 รายการ คือ ลิฟวิ่ง มันตรา, ครัวอินดี้, สาระแน, เจอร์นี่ ไทยแลนด์ และบางจะเกร็ง

ล่าสุดบริษัทได้มีการรวมกับ มีเดีย 360 ด้วยงบประมาณ 30 ล้านบาท พร้อมทั้งจะมีการเปลี่ยนชื่อบริษัท เป็น บริษัท อวา มีเดีย 360 จำกัด

ดังนั้นจึงส่งผลให้ ปัจจุบัน บริษัทมีรายการที่ผลิตเพื่อออกอากาศเอง 3รายการ คือ ลิฟวิ่ง มันตรา, ครัวอินดี้ และเจอร์นี่ ไทยแลนด์ และอีก 2 รายการเป็นร่วมผลิต คือ สาระแน กับ บางจะเกร็ง โดยสิ้นปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 80 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หลังมีการควบรวมกิจการแล้ว ทิศทางการดำเนินธุรกิจในปีหน้า บริษัทยังคงผลิต 3รายการ ออกอากศทาง ททบ.5 อยู่ โดยในส่วนรายการ เจอร์นี่ ไทยแลนด์ จะเปลี่ยนชื่อเป็น เจอร์นี่ คลับ ออกอากาศทุกเสาร์เวลา 23.15-00.10น. ส่วนลิฟวิ่ง มันตรา ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 10.10-11.00น. ทางช่อง5 และรายการครัวอินดี้ ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 10.00-11.00 ทางช่อง5 เช่นกัน

โดยมีอีก 2 รายการที่เป็นรายการร่วมผลิต คือ สาระแน กับทาง ลักษ์ 666 ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 15.55-16.35น. ทางช่อง5 และอีกรายการคือ ละครซิทคอมเรื่อง เนื้อคู่ อยากรู้ว่าใคร ร่วมผลิตกับทาง จีทีเอช ด้วยงบลงทุนกว่า 40 ล้านบาท มาจากทั้ง2บริษัทเท่าๆกัน จะออกอากาศทาง ช่อง5 ทุกวันจันทร์ เวลา 22.20-23.15น.แทนเวลาเดิมของรายการ บางจะเกร็ง ที่บริษัทได้หยุดร่วมผลิตกับทางลักษ์ 666

เชื่อว่าสิ้นปี 2553 บริษัทน่าจะมีรายการเติบโตสูงถึง 250 ล้านบาท หรือกว่า 3เท่าตัว สาเหตุการเติบโตมาจาก เอเจนซี่โฆษณามั่นใจลงทุนซื้อสื่อมากขึ้น

นายอภิเทพ กล่าวต่อว่า นอกจาก 5 รายการนี้ที่จะออกอากาศในปีหน้าแล้ว บริษัทยังได้มีการขอเวลากับทางโมเดิร์นไนน์ อีก 1 รายการ เป็นรายการวาไรตี้ ขณะนี้กำลังรอฟังผลอยู่ โดยมองว่าการเข้าสู่ธุรกิจผลิตคอนเท้นท์รายการโทรทัศน์ครั้งนี้ ต้องการผลิตรายการทั้งหมดราว 7 รายการ ดังนั้นขณะนี้จึงยังมีแผนในการขอเวลาเพิ่มเพื่อนำมาผลิตรายการอยู่

อย่างไรก็ตามเคเบิลทีวี ถือเป็นอีกธุรกิจที่น่าสนใจ ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาแนวทางให้รอบคอบมากที่สุด โดยมองว่าอีก 2ปีข้างหน้า จะเข้ามารุกตลาดเคเบิลทีวีได้ โดยวางตัวเองเป็นคอนเท้นท์โพไวเดอร์ ผลิตช่องรายการในเคเบิลทีวีอย่างน้อย 1 ช่อง ในลักษณะวาไรตี้ที่ถนัด ไม่เน้นรายการรีรัน ซึ่งการเข้าสู่ธุรกิจเคเบิลทีวีนี้ มองว่าต้องใช้เม็ดเงินค่อนข้างสูงเพราะเราจะมุ่งผลิตรายการมากขึ้น ดังนั้นถือเป็นอีกเหตุผลสำคัญที่ บริษัท เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอีก 1-2 ปีหลังจากนี้ด้วย


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.