ปาย สบายดีก่เจ้า

โดย นภาพร ไชยขันแก้ว
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( ธันวาคม 2552)



กลับสู่หน้าหลัก

ได้ยินได้ฟังเรื่องราวของธนาคารกสิกรไทยเปิดสาขาปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ก่อนที่จะไปเห็นด้วยตาของตัวเองว่าเป็นสาขาที่ไม่เหมือนสาขาทั้งหมดกว่า 800 แห่ง ความแปลกใหม่ของสาขาจึงทำให้มีภาพถ่ายถูกโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ตอยู่บ่อยครั้ง

"เราใช้เวลาตัดสินใจถึง 2 ปี ในการสร้างสาขากสิกรไทยที่ปาย สาขาที่นี่ต้องเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นโดยไม่แปลกแยก เพราะเป้าหมายของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมา ปรารถนามาเสพสุนทรียธรรมชาติ" วีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร ผู้บริหารหนุ่ม ในฐานะผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทยเล่าให้ฟัง

พวกเรา 9 ชีวิตออกเดินทางจากสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ในวันศุกร์ 6 พฤศจิกายน เวลาบ่าย 3 โมงด้วยเครื่องบินขนาดเล็กจำนวน 12 ที่นั่งของสายการบิน SGA พันธมิตรนกแอร์ ใช้เวลาเดินทางเพียง 30 นาที ก็เริ่มเห็นป้ายที่ทำจากไม้ขนาดเล็กเขียนไว้ว่า "ท่าอากาศยานปาย"

จุดหมายปลายทางคือการเยี่ยมชมธนาคารกสิกรไทย สาขาปาย ซึ่งขณะนั้น เป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินพอดี

ธนาคารกสิกรไทยสาขาปาย เป็นสาขาที่ 734 จากสาขาทั้งหมดทั่วประเทศกว่า 800 แห่ง เป็นสาขาที่ฉีกรูปแบบอย่างไม่เคยมีมาก่อนในธนาคารกสิกร และยังแตกต่างจากธนาคารทั่วไปที่ออกแบบด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยม ก่อสร้างด้วยปูนทาสีขาว หรือบางธนาคารก็แต่งแต้มสีจนฉูดฉาด

ธนาคารที่ตั้งอยู่บนถนนรังสิยานนท์ อำเภอปาย ไม่ได้มีเพียงธนาคารกสิกรไทยเท่านั้น ทว่ามีธนาคารอื่นๆ มาตั้งรกรากอยู่บนถนนเดียวกันล่วงหน้าก่อนแล้ว 2-3 ปี เช่น ธนาคารกรุงเทพที่ตั้งอยู่ตรงกันข้ามห่างออกไปไม่ถึง 50 เมตร และยังมีธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงศรีอยุธยาก็มาเปิดให้บริการแล้วในอำเภอนี้ แต่กสิกรไทยมาทีหลังก็เลยต้องสร้างความแตกต่าง

สำหรับที่นี่แม้แต่ชื่อธนาคารก็ยังแตกต่าง โดยใช้คำภาษาอังกฤษว่า Smile Pai by KBank ตัวอักษรสีขาวติดไว้ด้านหน้าอย่างชัดเจน และเหตุที่เลือกคำว่า Smile เพราะสำเนียงสอดคล้องกับคำว่าปายจึงลงตัวพอดี

ด้วยสาขานี้เป็นสาขาที่เกิดจากไอเดียใหม่ จึงใช้เวลาในการขบคิดและออกแบบนาน 2-3 เดือน แต่ใช้เวลาเพียง 1 เดือนในการก่อสร้าง

ธนาคารกสิกรไทยเลือกเช่าบ้านไม้ สูง 2 ชั้น ความกว้างใกล้เคียงกับอาคารพาณิชย์ทั่วไปจำนวน 2 ห้อง ลักษณะภายนอกของตัวบ้านคงสภาพเหมือนเดิม การตกแต่งภายในปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดแต่ยังคงใช้วัสดุที่ทำจากไม้ โดยเฉพาะเสาต้นใหญ่ 2 ต้นที่อยู่หน้าธนาคารเป็นรูปแกะสลักช้างต้นละ 59 เชือก สั่งผลิตจากช่างฝีมือจังหวัดเชียงใหม่

ช้าง แสดงให้เห็นสัญลักษณ์ของธนาคารกสิกรไทยได้เป็นอย่างดี เพราะช้างตัวใหญ่ของธนาคารก็ตั้งตระหง่านอยู่บนบริเวณล็อบบี้สำนักงานใหญ่ บนถนนราษฎร์บูรณะ และสาขาเมืองทองธานีถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร

เมื่อช้าง 59 เชือกจากเสา 2 ต้นรวมกันเป็น 118 เชือกที่ลงท้ายด้วยเลข 8 ก็เป็นความเชื่อเกี่ยวกับโชคลางของบัณฑูร ล่ำซำ อีกด้วย

โต๊ะ เก้าอี้ พื้น ระเบียง ประตู หน้าต่าง แม้แต่ป้ายชื่อบริการส่วนบริการลูกค้า และแลกเปลี่ยนเงินก็ทำจากไม้ทั้งหมด

สีเขียวที่เป็นสัญลักษณ์ของธนาคารที่นี่อาจจะมีน้อยกว่าที่อื่น ซึ่งวีรวัฒน์บอกว่า "มีสีเขียวแบบปะแล่ม" และเป็นสีเขียวเข้มใช้ทาประตูบางส่วนและด้านนอกของธนาคารที่เป็นปูน พร้อมกับเก้าอี้สีขาวและตู้ไปรษณีย์สีแดงที่ตั้งอยู่ใกล้ บรรยากาศช่างละม้ายคล้ายร้านกาแฟเสียนี่กระไร

การตกแต่งเช่นนี้ทำให้นักท่องเที่ยวอดไม่ได้ที่จะแวะเวียนมาถ่ายรูป โดยเฉพาะในเวลากลางคืนที่แสงไฟช่วยให้ธนาคารดูสะดุดตายิ่งนัก

ธนาคารกสิกรไทยสาขาปายใช้งบประมาณตกแต่ง 5 ล้านบาทและจ่ายค่าเช่าบ้านเดือนละ 25,000 บาท ทว่าการให้บริการด้านการเงินยังไม่ครบถ้วน ขณะนี้รองรับการให้บริการฝาก-ถอน แลกเปลี่ยนเงิน บริการสินเชื่อ และมีตู้เอทีเอ็มเพียง 1 ตู้

สาขาปายมีพนักงาน 5 คน พนักงานดูแลลูกค้า 4 คน แต่ที่นี่ออกจะแปลกอยู่สักหน่อยตรงที่ผู้จัดการสาขาไม่มีโต๊ะทำงาน เพราะวิฑูรย์ ร่มโพธิ์ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายประจำ จังหวัดเชียงใหม่บอกว่า ผู้จัดการสาขาปายต้องออกไปพบปะลูกค้า

ทั้งนี้อาจเป็นเพราะสมเกียรติ สุดดีพงษ์หัวหน้าส่วนชาวเหนือที่เข้ามาดูแลสาขาปาย เป็นผู้บริหารที่โยกย้ายมาจากเชียงใหม่ และสาขานี้เริ่มเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2552 ที่ผ่านมา ทำให้เขาต้องออกไปแนะนำตัวเองและทำความรู้จักลูกค้า เพราะไม่ใช่คนท้องถิ่น ที่อาศัยอยู่ที่ปาย หรือจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ธนาคารกสิกรไทยมีแผนจะขยายสาขาให้กว้างขึ้น โดยเช่าพื้นที่ห้องข้างๆ อีก 1 คูหาที่จะหมดอายุสัญญาเช่าเร็วๆ นี้ และส่วนที่ขยายใหม่จะนำเครื่องรับ-ฝากเงินอัตโนมัติมาติดตั้ง พร้อมกับเพิ่มส่วนแลกเปลี่ยนเงินให้บริการในช่วงเวลากลางคืนให้กับนักท่องเที่ยว

ทั้งหมดทั้งปวงที่ทำให้ธนาคารกสิกรไทยลงเงินลงแรงไม่มากกับสาขานี้ น่าจะมีเหตุผลหลายๆ อย่าง

หากวิเคราะห์เศรษฐกิจของอำเภอปาย จะพบว่ารายได้ของคนท้องถิ่นหลักๆ มาจากเกษตรกรรม ปลูก กระเทียม ถั่วเหลือง ข้าวเหนียวและข้าวเจ้าเป็นหลักมาตั้งแต่ในอดีต ส่วนการโปรโมตการท่องเที่ยวปายมาเริ่มต้นในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้เท่านั้น

การโปรโมตจากปากต่อปากที่กล่าวขานถึงความสวยงามของธรรมชาติ เป็นเมืองดิบที่มีวัฒนธรรมท้องถิ่น ทำให้หน่วยงานการท่องเที่ยวภาครัฐเริ่มเห็นโอกาสและเข้ามาช่วยสนับสนุนอย่างจริงจังเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติหลั่งไหลเข้ามา โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว ในเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคมของทุกปี

โรงแรม ร้านค้า ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดในช่วง 2-3 ปีนี้ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเพิ่มขึ้นทุกปี จากปี 2550 มี 3 แสนคน ตัวเลขกระโดดขึ้นไปเป็น 5 แสนคนในปี 2551 และคาดว่าในปี 2552 จะเพิ่มเป็น 6 แสนคน ส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวของอำเภอปายในปี 2551 มีรายได้ประมาณ 1,100 ล้านบาท และในปีนี้จะเพิ่มเป็น 1,500 ล้านบาท

มีห้องพักรองรับจำนวน 1,700 ห้อง ราคาเริ่มตั้งแต่ 200 บาทไปจนถึง 1 หมื่นกว่าบาทต่อหนึ่งคืน ปัจจุบันมีผู้ประกอบการ 135 ราย

ที่น่าสนใจกว่านั้น เมื่อวรเทพ กันทาดีประธานชมรมท่องเที่ยว อำเภอปาย เล่าให้ฟังว่าเมื่อปีที่ผ่านมาในช่วงวันที่ 5-6-7 ของเดือนธันวาคม มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการถอนเงินผ่านเอทีเอ็ม ของธนาคารกรุงเทพจำนวน 12 ล้านบาท ในช่วงระยะเพียง 3 วัน เท่านั้น คงคาดเดาไม่ยากว่างานนี้ธนาคารกรุงเทพเก็บค่าธรรมเนียม ได้มากโข

หากพิจารณาการเติบโตของอำเภอปายที่แท้จริงจะพบว่าเป็นการเติบโตจากผู้ประกอบการที่เป็นนักลงทุนรายใหญ่ รายเล็กรวมไปจนถึงรายย่อยมาจากภายนอกเป็นส่วนใหญ่ แม้แต่ประธานชมรมท่องเที่ยวก็เป็นคนพื้นเพจังหวัดเชียงใหม่

ว่ากันว่าเมืองใด จังหวัดใดที่เริ่มส่อแววการเจริญเติบโตให้สังเกตการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม เช่น มีโรงพยาบาล ธนาคาร แม้แต่ร้านค้าสะดวกซื้ออย่าง 7-11 แต่ที่นี่มีศาลว่าความคดีต่างๆ ยิ่งแสดงให้เห็นความเปลี่ยนไปของเมืองนี้มากยิ่งขึ้น

การก่อตั้งชมรมท่องเที่ยวปายทำให้มีการสร้างกิจกรรมเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะปลายปีนี้จะมีการจัดคอนเสิร์ตแจ๊ซใหญ่จากศิลปินค่ายแกรมมี่ร่วมมือกับบีอีซี ในวันที่ 25-26 ธันวาคมนี้ รวมถึงมีการสร้างภาพยนตร์เรื่อง In Love at Pai และในปี 2553 มีโครงการจัดพิธีสมรสหมู่ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์

จุดไฮไลต์ที่ชมรมท่องเที่ยวพยายาม นำเสนอนักท่องเที่ยวมี 4 แห่งคือ coffee in love สะพานประวัติศาสตร์ น้ำพุร้อน และศูนย์วัฒนธรรมจีน-ยูนนาน

ความเจริญเริ่มขยายเป็นวงกว้าง ทำให้มีการพัฒนาระบบโทรคมนาคม ปัจจุบันการเดินทางสามารถไปได้ 2 ทาง ทางรถยนต์ที่ห่างจากเชียงใหม่ 140 กิโล เมตร ใช้เวลาเดินทาง 3-4 ชั่วโมง หรือเดินทางโดยเครื่องบินลำเล็กที่มี 12 ที่นั่ง ของสายการบิน SGA พันธมิตรของนกแอร์ ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที

ในอนาคตกระทรวงคมนาคมมีแผนที่จะนำเครื่องบินลำใหญ่มารองรับผู้โดยสารได้ 40-60 ที่นั่ง และขยายลานจอด เครื่องบินให้ใหญ่ขึ้นจากปัจจุบันที่ลานจอดเครื่องบินมีความยาวเพียง 700 เมตร

นอกจากนั้นระบบไฟฟ้าในปัจจุบันยังมีปัญหาติดๆ ดับๆ เพราะไฟฟ้าถูกส่งมาจากแม่ฮ่องสอนที่มีระยะทางไกลถึง 110 กิโลเมตร ขณะนี้ได้มีการวางระบบเสาไฟฟ้าใหม่เพื่อนำไฟฟ้าจากเชียงใหม่เข้ามาอีกช่องทางหนึ่ง

แน่นอนว่าความเจริญเกิดขึ้นราคาที่ดินจะสูงเป็นเงาตามตัวในอำเภอปายโดยเฉพาะ พื้นที่ศูนย์กลาง อย่างเช่นถนนคนเดิน ถนนรังสิยานนท์ ราคาในพื้นที่ปรับตัวสูงขึ้นหลายเท่าตัว ปัจจุบันพื้นที่ 1 ตารางวา มีราคา 60,000 บาท หรือ 1 ไร่ มีราคา 24 ล้านบาท

โอกาสทั้งหมดเหล่านี้ ธนาคารกสิกรไทยเริ่มมองเห็นจึงทำให้ตัดสินใจมาตั้งสาขาปายในที่สุด ถึงแม้วีรวัฒน์ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ผู้ดูแลสาขาจะบอกว่าเป้าหมายการเปิดสาขาที่ปายเน้นให้บริการด้านการเงินกับคนในพื้นที่ก็ตาม แต่ผู้ประกอบการจากต่างถิ่นก็เป็นกลุ่มเป้าหมายหนึ่งที่ไม่ได้มองข้าม

ดูเหมือนว่าวีรวัฒน์ค่อนข้างพึงพอใจเป็นอย่างมากหลังจากที่เปิดให้บริการเพียง 1 เดือน มีลูกค้ามาเปิดบัญชี 600 บัญชี โดยเฉลี่ยลูกค้าเข้ามาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 50 คน เลือกใช้บริการหลากหลาย แลกเงิน เปิดบัญชี ทำบัตรเอทีเอ็ม บัตรเดบิต

นอกจากการทำธุรกิจของธนาคารกสิกรไทยเพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงสุดแล้ว ธนาคารก็ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมด้วยการซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ให้กับโรงเรียนปายวิทยาทานจำนวน 20 เครื่อง โดยมีเงื่อนไขว่าลูกค้าที่เปิดบัตรเอทีเอ็ม และบัตรเดบิต จะหัก 50 บาทเป็นค่าซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์จากค่าธรรมเนียม 300 บาทต่อหนึ่งบัตร หรือบัตรเคแม็กซ์ พ่วงประกันอุบัติเหตุเสียค่าธรรมเนียม 500 บาท

ความเจริญที่กำลังถาโถมเข้าสู่อำเภอปายอย่างรวดเร็ว ทำให้คนในท้องถิ่นต้องเร่ง ปรับตัวตาม เพราะในใจส่วนหนึ่งก็ยอมรับว่าการท่องเที่ยวช่วยทำให้ปายพัฒนาขึ้น แต่สิ่ง ที่ต้องตั้งรับการพัฒนาต้องมีขอบเขตและไม่ล่วงล้ำวิถีชีวิตท้องถิ่นแต่เดิมที่อยู่กันอย่างสงบ ไม่เคยมีคดีอาชญากรรมรุนแรง

กฎระเบียบควบคุมการก่อสร้างจึงก่อเกิดขึ้นเมื่อปี 2551 ห้ามตึกสูงเกินกว่า 7 เมตร ห้ามสร้างเป็นอาคารพาณิชย์หรือตึกแถว และสีที่ใช้ทาบ้านหรืออาคารต้องไม่ฉูดฉาด และคาดว่าจะมีการประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป

เสน่ห์ของปายไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเจริญเติบโตทางด้านวัตถุเพียงอย่างเดียว ทว่าธรรมชาติที่สวยงามปกคลุมด้วยไอหมอก อากาศเย็นเกือบตลอดทั้งปี รวมไปถึงน้ำจิตน้ำใจ ของคนท้องถิ่นที่ต้อนรับขับสู้อย่างจริงใจต่างหากที่เป็นเสน่ห์แท้จริง


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.