คลื่นลงทุน “บ้านหลังที่สอง” กำลังโหมกระหน่ำเวียดนาม

โดย เจษฎี ศิริพิพัฒน์
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( ธันวาคม 2552)



กลับสู่หน้าหลัก

ชายฝั่งทะเลเวียดนามกำลังถูกพัฒนาให้เป็นสถานที่ตากอากาศระดับหรูของโลก ทำให้มีโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ราคาแพงผุดขึ้นตลอดแนวชายฝั่ง

เว็บไซต์ "บ๋าวเม้ย" (หนังสือพิมพ์ใหม่) ของเวียดนาม รายงานเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า เขตพักผ่อนตากอากาศที่ผุดขึ้นเป็นแถว ตามชายฝั่งทะเลทุกแห่งตั้งแต่เหนือ-กลาง-ใต้ของเวียดนาม กำลังได้รับการต้อนรับด้วยความยินดีจากลูกค้า โดยไม่สนใจว่าคลื่นวิกฤติการณ์ทาง เศรษฐกิจของโลกกำลังเป็นเช่นไร

เว็บไซต์แห่งนี้ระบุว่า ด้วยราคาขายตั้งแต่หน่วยละ 200-300 จนถึงนับล้านดอลลาร์สหรัฐ โครงการใหม่จำนวนหนึ่งที่ถูกชักชวนให้ซื้อ เช่น Ocean View Villas หรือ Hyatt Regency (นครด่าหนัง) มีลูกค้ามาจองซื้อจนหมดอย่างรวดเร็ว

ดูเหมือนลูกค้าที่มีเงินในเวียดนาม กำลังนิยมเลือกบ้านพักตากอากาศชายทะเล

Marc Townsend ผู้อำนวยการใหญ่บริษัท CBRE เวียดนาม กล่าวว่าการที่บรรดานักลงทุนเริ่มดำเนินโครงการอสังหาริมทรัพย์ด้านการท่องเที่ยว (Resort และบ้านพักตากอากาศชายทะเล) เป็นแถว ตั้งแต่ภาคเหนือ ภาคกลาง ถึงภาคใต้เมื่อเร็วๆ นี้ แสดงให้เห็นสัญญาณที่ดีของตลาด อสังหาริมทรัพย์และสถานการณ์เศรษฐกิจของเวียดนามโดยรวม

จุดนี้ทำให้พวกเขาสามารถเชื่อมความสัมพันธ์ของคลื่นการลงทุน "บ้านหลังที่สอง" (second home) เหมือนใน ประเทศพัฒนาทางฟากตะวันตก ลูกค้าของการลงทุนรูปแบบนี้พร้อมจะจ่ายเงินก้อนโต เพื่อให้ได้กรรมสิทธิ์อพาร์ตเมนต์ชั้นสูงในเขตท่องเที่ยวที่มีการบริการเต็มรูปแบบ

"บ้านหลังที่สอง" มีลักษณะพิเศษ ไม่ใช่เป็นสถานที่อยู่อาศัยหลักของเจ้าของ แต่ยังสามารถสร้างเป็นแหล่งรายได้โดยการให้เช่าเมื่อเจ้าของไม่ใช้หรือเมื่อโอน ใน ลักษณะของไทม์แชริ่ง

การลงทุนใน "บ้านหลังที่สอง" นัก ลงทุนอาจบรรลุเป้าหมายอื่นในเวลาเดียวกัน เช่น เป็นการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ การกระจายความเสี่ยงและเพื่อพักผ่อนเมื่อปลด เกษียณ

จากคลื่นการลงทุน "บ้านหลังที่สอง ในเวียดนาม Marc Townsend ได้นำเสนอ รายชื่อโครงการบ้านพักตากอากาศรูปแบบเช่นนี้ทุกแห่งตั้งแต่ภาคเหนือ-ภาคกลาง-ภาคใต้ที่กำลังได้รับการตอบรับจากนักลงทุน

ปลายไตรมาสที่ 3 ปี 2552 โครง การ Ocean Villas บนแหลมเซินตร่า (เขตหงูห่าญเซิน นครด่าหนัง) เจ้าของการลงทุนคือบริษัท Vinacapital Real Estate ได้มีการเปิดบ้านตัวอย่าง

บรรดาบ้านตัวอย่างมีเนื้อที่ตั้งแต่ 714 ตร.ม. ถึง 1,106 ตร.ม. เป็นบ้าน 2-4 ห้องนอน หลังจากเปิดบ้านตัวอย่าง Vinacapital Real Estate สามารถขายบ้านได้ทั้งหมดเกือบ 115 หลังในโครงการนี้

ที่นครด่าหนัง โครงการบ้านพักตาก อากาศต่างๆ ต้องกล่าวถึงเขตพักผ่อน Hyatt Regency Danang Resort & Spa (นครด่าหนัง) โดย Indochina Land (สังกัดกลุ่ม Indochina Capital) เป็นเจ้าของทุน

ด้วยราคาขายบ้านสองชั้นหันหน้าออกสู่ทะเลตั้งแต่หลังละ 180,000 ดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่หลัง 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นไป ลูกค้าหลายคนยังรู้สึกเสียใจที่มาช้า พลาดกรรมสิทธิ์ในบ้านพักที่นี่

ปัจจุบันที่ภาคเหนือสามารถพูดว่าโครงการเหล่านี้กำลังขยายตัว เช่น เตวิ่นเจิว Residences (หง็อกหวึ่ง กว๋างนิญ), ซงย้า Resort & Spa, เขตในเมืองก๊ายย้า-ก๊าตบ่า (นครไฮฟอง)

ภาคใต้สามารถบอกชื่อบรรดาโครง การบ้านพักท่องเที่ยวพักผ่อน เช่น Best Western ญาตราง Plaza (นครญาตราง), Sanctuary โห่ตร่าม, Laguna ลองหาย (จ.บ่าเหรียะ-หวุงเต่า), Evason Hideaway เกาะโกนด๋าว), ลองถ่าญ Golf (จ.โด่งนาย) ก็กำลังมีการขยายตัวอย่างมาก

ตริญ หว่าย ยุย ประธานกรรมการบริหารบริษัท Vinconex ITC เจ้าของโครงการเขตเมืองท่องเที่ยวก๊ายย้า-ก๊าตบ่า กล่าวว่ากำลังมีคลื่นผู้สูงอายุในชาติที่พัฒนาแล้ว มีเบี้ยบำนาญมาก สภาพอากาศหนาว มีความต้องการมายังหลายประเทศที่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าเพื่อหลีกเลี่ยงความหนาแน่น ในช่วงเวลา 2-3 เดือน

นี่ก็เป็นโอกาสเพิ่มรายได้ให้เจ้าของอพาร์ตเมนต์พักผ่อนในช่วงเวลาที่บ้านถูกทิ้งว่าง นักลงทุนหลายคนจากชาติต่างๆ ที่มีเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ใต้ ออสเตรเลีย หรือบรรดาราชาเหมืองน้ำมันจากอาหรับก็สนใจในโครงการเหล่านี้

ด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจ และโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมที่ได้รับการปรับปรุง บรรดาเขตทะเลสวยงามของเวียดนาม เช่น หะลอง, ก๊าตบ่า (ภาคเหนือ), ด่าหนัง (ภาคกลาง) หรือฟานเทียต, ญาตราง, ค้าญหว่า, โกนด๋าว กำลังกลายเป็นสวรรค์ให้กับเขตบ้านพักตากอากาศ

ยอดรวมเงินลงทุนคาดว่าจะไหลเข้าโครงการเหล่านี้เพิ่มขึ้นถึงนับพันล้านดอลลาร์สหรัฐ แน่นอนว่าบรรดานักลงทุนมองด้วยความหวังจะโกยกำไรได้จากตลาดแห่งนี้

นอกจากรีสอร์ตและบ้านพักตากอากาศที่กำลังได้รับความนิยมตามชายฝั่งทะเลของเวียดนามแล้ว การก่อสร้างโรงแรม ระดับหรูก็เริ่มปรากฏขึ้นเพื่อรองรับการท่องเที่ยวของเวียดนามที่กำลังจะขยายตัวขึ้นในอนาคต

เว็บไซต์เวียดนามพลัสรายงานในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนเช่นกันว่า โครงการโรงแรมและบ้านพักชั้นสูงของกลุ่ม Raffles ได้เริ่มก่อสร้างขึ้นที่ริมฝั่งทะเลนอนเนือก ย่านหว่าหาย เขตหงูห่าญเซิน นครด่าหนัง เวียดนาม

เล คัก เหียป รองประธานกลุ่ม Vingroup ซึ่งเป็น 1 ในเครือ Raffles กล่าวว่าโครงการนี้กำลังก่อสร้างอยู่บนเนื้อที่กว่า 15.4 เฮกตาร์ด้วยเงินลงทุนรวมจำนวน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

โครงการนี้ก่อสร้างบนที่ตั้ง "ทอง คำ" ชายทะเลซึ่งนิตยสารชั้นนำของโลก Forbes เคยคัดสรรให้เป็นหนึ่งในบรรดา ชายทะเลที่สวยงามและมีเสน่ห์ที่สุดในโลก เมื่อปี 2548

หลังเปิดดำเนินการเมื่อเดือนมิถุนายน 2553 ที่นี่จะเป็นโรงแรมห้าดาวประกอบด้วย 142 ห้องพักและบ้านพัก 39 หลัง จุดเน้นเป็นพิเศษของโครงการคือเขตบ้านพัก ซึ่ง Raffles จะสร้างให้เป็นเขตบ้านพัก "กรรมสิทธิ์ส่วนตัว" สมบูรณ์แบบที่สุด ด้วยระบบบริการและความสะดวกสบายชั้นสูง

โครงการนี้เคยมีนักลงทุน 2 กลุ่มคือ Kingdom Hotel Investments (KHI) และ European Hotel Corporation ร่วมลงทุน โดยซื้อและปรับปรุงโครงการต่อมาจากบริษัท Magnum (อเมริกา) จนกระทั่ง ปัจจุบันได้โอนขายกิจการทั้งหมดให้กลุ่ม Vingroup โดยชื่อเรียกใหม่ของกลุ่มนี้คือ Technocom-Uckraina

เพื่อนำมาซึ่งลักษณะเด่นเฉพาะ เจ้าของทุนได้ประสานกับบริษัทออกแบบนานาชาติ Wimberley Allison Tong & Goo Limited (บริษัทที่เคยออกแบบโรงแรม ห้าดาว Claridge ใน London และโรงแรม หรูหราที่สุดในโลก Mansion at the MGM Grand ใน Las Vegas)

ปัจจุบันทางการนครด่าหนังกำลังส่งเสริมการลงทุนชายทะเลนอนเนือก ให้เป็นเขตท่องเที่ยวที่ประกอบด้วยโรงแรม ร้านค้าชายทะเล สนามเทนนิส เขตบ้านพัก สถานที่พักผ่อนตากอากาศ สนามกอล์ฟ ตามมาตรฐานสากล

เว็บไซต์ VOA News ของเวียดนาม รายงานในช่วงเวลาเดียวกันว่า เวียดนามถูกจัดให้เป็นอันดับที่ 2 ในจำนวน 3 ประเทศที่ได้รับการประเมินว่า "ดวงกำลังขึ้น" บนบอร์ดจัดอันดับดัชนีเครื่องหมายการค้าแห่งชาติ CBI (Country Brand Index) ในปี 2552 ดำเนินการโดย Future Brand องค์กรที่ปรึกษาเครื่องหมายการค้าชั้นนำบนโลก

ตามผลบัญชีจัดอันดับที่เพิ่งประกาศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จีน และเวียดนาม ตามลำดับ เป็นสามประเทศที่มีความสามารถก้าวขึ้นเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของนักท่องเที่ยวนานาชาติในรอบ 5 ปีข้างหน้า

ส่วนอันดับต้นๆ ในรายชื่อดัชนีเครื่องหมายการค้าแห่งชาติ 2552 คือสหรัฐ อเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น ฟินแลนด์ และสิงคโปร์ ส่วนทางด้านเสรีภาพทางการเมืองนั้น อังกฤษ เยอรมนี แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ได้รับประเมินว่าดีที่สุด


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.