|
มาร์เกตติ้งเฮ! ตลท.ผ่อนเกณฑ์หักอินเซนทีฟ
ASTVผู้จัดการรายวัน(19 พฤศจิกายน 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
ยุติปัญหาค่าอินเซนทีฟ สมาคมบล.ทุบโต๊ะใช้เกณฑ์ใหม่ บรรเทาความเดือดร้อนมาร์เกตติ้ง หลังตลาดหลักทรัพย์ยอมรับข้อเรียกร้องสรุปยกเว้นหัก 25% กรณีเงินเดือนรวมกับอินเซ็นทีฟไม่เกิน3 หมื่นบาท แต่จะถูกหัก 25% ในส่วนที่เกิน3หมื่นบาท ขณะที่มาร์เกตติ้งเงินเดือนสูง จะถูกหักอินเซ็นทีฟส่วนที่เกินเงินเดือน เชื่อทุกฝ่ายแฮปปี้ จากผู้ถูกกระทบมีจำนวนน้อย พร้อมชี้แจง สมาชิก และมาร์เกตติ้งในวันที่ 25 พ.ย.นี้ ส่วนการย้ายข้ามห้วยกว่า 40 ชีวิตจาก "พัฒนาสิน" ไป "เคที ซีมิโก้" สมาคมฯเตรียมเรียกทั้ง 2 ฝ่ายเจรจา หากไม่ได้เรื่องจะส่งตัวเข้าไปหาข้อยุติ
นายกัมปนาท โลหเจริญวนิช กรรมการอำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ทรีนีตี้ จำกัด และในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ เปิดเผยถึง กรณีที่เจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง)ได้มีการร้องเรียนว่าจะได้รับผลกระทบจากที่ปีหน้า จะมีการจ่ายผลตอบแทนตามมูลค่าหลักทรัพย์(อินเซ็นทีฟ) 75% ส่วนอีก 25% จะมีการหักเก็บและจ่ายคืนให้ทุก 6 เดือนนั้น เรื่องดังกล่าว สมาคมโบรกเกอร์ได้มีการประชุมหารือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือนร้อนของมาร์เกตติ้งโดยมีแนวทางดังนี้
สำหรับ 1. กรณีที่มาร์เกตติ้งได้เงินเดือนรวมกับอินเซ็นทีฟไม่เกิน 30,000 บาท จะไม่ถูกหัก 25% เพื่อช่วยเหลือมาร์เกตติ้งใหม่ที่มีฐานเงินเดือนไม่สูงและยังไม่มีลูกค้ามากนัก 2. กรณีที่มาร์เกตติ้งที่มีได้อินเซ็นทีฟมากกว่า 30,000 บาท แต่มีเงินเดือนน้อยกว่า 30,000 บาท บล.ต้นสังกัดจะจ่ายเงินให้เท่ากับ 30,000 บาท แต่ส่วนที่มากกว่า 30,000 บาทนั้นจะถูกหักไว้ 25% เช่น ได้อินเซ็นทีฟ 40,000 บาท เงินเดือน 20,000 บาท บล.จะจ่ายให้ 30,000 บาท อีก 10,000 บาท จะถูกหักไว้ 25% ทำให้ได้เงินเดือนรวม 37,500 บาท ส่วนอีก 2,500 บาทจะเก็บไว้อยู่ในกองทุนของบริษัท
ขณะที่กรณีที่3 หากมาร์เกตติ้งที่มีอินเซ็นทีฟมากกว่า 30,000 บาท และมีเงินเดือนสูงกว่า 30,000 บาท บล.จะจ่ายให้เท่ากับเงินเดือน และส่วนที่มากกว่าเงินเดือนจะถูกหักไว้ 25% เช่น มาร์เกตติ้งมีเงินเดือน 50,000 บาท ทำอินเซ้นทีฟรวมได้ 100,000 บาท มาร์เกตติ้งจะได้รับเงินทันที 50,000 บาท ส่วนอีก 50,000 บาท นั้นจะถูกหักไว้ 25% ทำให้มาร์เกตติ้งได้รับผลตอบแทนรวม 87,500 บาท ส่วนอีก 12,500 บาท จะถูกเก็บไว้ในกองทุนของบล.เพื่อที่จะจ่ายคืนให้ทุก 6 เดือน
อย่างไรก็ตามส่วนตัวเชื่อว่า 3แนวทางดังกล่าวจะช่วยลดความเดือนร้อนให้กับมาร์เกตติ้ง โดยเฉพาะ มาร์เตติ้งที่มีอินเซ็นทีฟไม่เกิน 30,000 บาท และหากมาร์เกตติ้งมีฐานเงินเดือนสูงกว่า 30,000 บาท ก็จะได้เงินตามเงินเดือน โดยส่วนที่สูงกว่าเงินเดือนก็จะถูกหักไว้ 25% ซึ่งถือว่าถูกหักไว้ในจำนวนที่ต่ำแล้ว จึงเชื่อว่ามาร์เกตติ้งจะพอใจและเข้าใจทางสมาคมบล. เพราะ ส่วนที่กันไว้ 25% นั้นเพื่อต้องการให้มาร์เกตติ้งมีการพัฒนาคุณภาพในการให้บริการให้ดี โดยหากมาร์เกตติ้งมีการปฏิบัติหน้าที่ดี ไม่มีการกระทำความผิด หรือไม่ทำให้ลูกค้าได้รับความเสียหาย ก็จะได้รับเงินในส่วนที่กันไว้แน่นอน
นายกัมปนาท กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่ามาร์เกตติ้งที่ทำอินเซ็นทีฟได้ไม่เกิน 30,000 บาท นั้นมีมากกว่า ที่ทำได้เกินกว่า 30,000 บาท จึงเชื่อว่าภาพรวมมาร์เกตติ้งส่วนจะไม่ได้รับผลกระทบจากที่ได้มีการดำเนินการตาม 3 แนวทางดังกล่าว เพราะ มีการหักเงินไว้เหลือ 1ใน 8 ของอินเซ็นทีฟ ไม่ได้เป็น 1 ใน 4 ของอินเซ็นทีฟรวมแล้ว โดยเชื่อว่าตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการแก้ไขเกณฑ์ดังกล่าว และมีการประกาศบังคับใช้ต่อไป
สำหรับหลังจากนี้ทางสมาคมบล.จะมีการประชุมสมาชิกในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ เพื่อชี้แจง แนวทางดังกล่าวเพื่อให้มาร์เกตติ้งและผู้บริหารของบล.ต่างๆทราบ โดยการประชุมครั้งนี้จะมีตัวแทนจากตลาดหลักทรัพย์ฯร่วมชี้แจงเรื่องดังกล่าว ส่วนกรณีที่มาร์เกตติ้งของบล.พัฒนสิน 40 คน จะมีการย้ายงานไปทำงานที่บล.เคที ซีมิโก้ นั้น ทางสมาคมฯจะให้ทาง2 บล.มีการคุยกันก่อน แต่หากไม่มีข้อยุติทางสมาคมบล.จะเป็นตัวแทนในการหาข้อยุติเรื่องดังกล่าว
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|