“ศศิธารา”ผนึกเฟสต้าใช้กีฬาลุยตปท.ชูโมเดลจีทูจีโกยนักท่องเที่ยว20ล.คน


ASTVผู้จัดการรายวัน(16 พฤศจิกายน 2552)



กลับสู่หน้าหลัก

ศศิธารา ควงแขนเอกชนกลุ่มเฟสต้า ลุยทำตลาดต่างประเทศ งัดกลยุทธ์การเจรจาแบบจีทูจี โดยมีงานแข่งขันกีฬาเป็นใบเบิกทางนำร่องให้เอกชนสวมต่อ ประเดิมเอเชี่ยนเกมส์ เมืองกวางตุ้ง โกยนักท่องเที่ยวจีน ก่อนบุกงานบอลโลก และโอลิมปิก มั่นใจ 5 ปี นักท่องเที่ยวต่างชาติแตะ 20 ล้านคน เงินสะพัดกว่า 8 แสนล้านบาท ตอกหน้าททท.แค่เดินสายทำตลาด

น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวได้ทำข้อตกลงกับการท่องเที่ยวมณฑลกวางตุ้ง เพื่อร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันในระยะ 3 ปี ประเด็นหลักของข้อตกลง ประกอบด้วย 1.ให้ใช้โอกาสที่มณฑลกว้างตุ้งเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ในปีหน้า(2553) เป็นปีเริ่มต้นที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวนับต่อไปถึงปี 2555

2.ให้ภาคเอกชนที่เป็นสมาคมท่องเที่ยวของไทย และกว้างตุ้ง จัดแฟมทริป เชิญ ผู้ประกอบการทัวร์ เดินทางไปสำรวจเส้นทางท่องเที่ยว จากไทยไปกวางตุ้ง และจากกวางตุ้งมาไทย ในส่วนของประเทศไทย ได้มอบหมายให้ สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว(ทีทีเอเอ)ซึ่งเป็นทัวร์เอาต์บาวนด์ และสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว(แอตต้า) ซึ่งเป็นทัวร์อินน์บาวนด์เป็นหน่วยงานหลักของการติดต่อประสานงานกับทางการท่องเที่ยวกวางตุ้ง ที่จะดำเนินงานโครงการนี้ไปตลอด 3 ปี โดยจะต้องเปิดกว้างให้บริษัทนำเที่ยวทั้งที่เป็นสมาชิกและที่ไม่ได้เป็นสมาชิกเข้าร่วมโครงการนี้คาดว่าในเดือนมี.ค.ปีหน้า ฝ่ายไทยจะเริ่มจัดแฟมทริปเชิญผู้ประกอบการท่องเที่ยวราว 100-200 รายไปกวางตุ้ง

ขณะเดียวกันก็ขอให้มณฑลกวางตุ้งตั้งคณะทำงานพิเศษขึ้นมาดูแลอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวคนไทยที่จะเดินทางไปชมแข่งกีฬาเอเชียนเกมส์ และให้ ทีทีเอเอ เป็นตัวแทนขายบัตรเข้าชมเอเชียนเกมส์ จำหน่ายคู่กับแพกเกจทัวร์ที่จัดทำด้วย

3. ให้ผู้ประกอบการทัวร์ไทยและกวางตุ้ง จัดโปรแกรมท่องเที่ยวะหว่างหว่างกัน ในช่วง ก่อน ระหว่างและหลังการแข่งกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ และ4 หากมีประเด็นอื่นๆที่เหมาะสมในระหว่าง 3 ปีของข้อสัญญาที่จะเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่ายให้หารือและดำเนินการได้ทันที อย่างไรก็ตาม จากทั้งหมดที่กล่าวมามีข้อแม้ว่า ทั้งฝ่ายไทย และกวางตุ้งจะต้องจัดทัวร์คุณภาพรวมถึงดูแลด้านความปลอดภัย การอำนายความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี

“มั่นใจว่าจากข้อตกลงดังกล่าวจะได้ประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย เพราะ กวางตุ้งกับไทย มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น เพราะมีญาติมิตรไปมาหาสู่กันก็มาก โดยปีที่ผ่านมา ไทยเดินทางไปกวางตุ้ง 2.4 แสนคน กวางตุ้งมาไทย 2.3 แสนคน แต่เมื่อมีโครงการนี้เพิ่มนักท่องเที่ยวระหว่างกันได้มากกว่าเท่าตัว “

เดินกลยุทธ์ใช้กีฬาบุกท่องเที่ยว

น.ส.ศศิธารา กล่าวอีกว่า จากนี้ไป กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะเน้นให้ท่องเที่ยวและกีฬาสามารถเดินหน้าไปด้วยกันได้ โดยจะใช้งานด้านกีฬาเป็นตัวเชื่อมโยงสนับสนุนการท่องเที่ยวให้ชัดเจนขึ้นโดยจะใช้การเจรจาระหว่างรัฐกับรัฐ(G to G ) เป็นตัวเบิกทางให้แก่ภาคเอกชนท่องเที่ยว ซึ่งทุกครั้งที่มีการเจรจาหรือทำสข้อตกลงจะมอบหมายให้ฝ่ายเอกชนเข้าไปดูแลเพราะมีความชำนาญด้านการจัดทัวร์ ซึ่งนอกจากเอเชี่ยนเกมส์แล้ว ยังมีแผนขยายความร่วมมือรูปแบบนี้ไปจับมือประเทศอื่น ที่เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬา

ล่าสุดได้เจรจากับฟีฟ่า ผู้จัดแข่งขันฟุตบอลโลก ที่แอฟริกาใต้ กลางปี 53 และเจรจากับผู้จัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษซึ่งจะมีขึ้นในปี 2555 ด้วย ทุกข้อตกลงเพื่อสร้างการรับรู้ประเทศไทย การจัดแฟมทริป และจัดแพกเกจทัวร์ท่องเที่ยว

หารือรพ.เอกชนโกยเมดิคัลทัวร์จากอาหรับ

นอกจากนั้นยังหารือกับเลขาธิการองค์การการท่องเที่ยวโลก(WTO) ซึ่งเป็นคนจากภูมิภาคอาหรับ ในประเด็นเมดิคัลทัวริสซึ่ม ซึ่งอาหรับหรือตะวันออกกลางเป็นตลาดใหญ่ของประเทศไทย และยังสอดคล้องกับแผนกระตุ้นนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีรัศมีเดินทางใกล้การเจรจาได้กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่จะให้ประเทศจากตะวันออกกลางสนับสนุนให้ประชากรเข้ามารับการรักษาพยาบาลในประเทศไทยโดยสามารถเบิกค่าใช้จ่ายจากรัฐสวัสดิการได้ ซึ่งเร็วนี้อาจมีโอกาสได้เจรจาแบบ G to G ถึงปัญหาข้อติดขัดที่จะจะปรับปรุงให้ได้ เพื่อทำข้อตกลงร่วมกัน โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯะหารือกับกลุ่มโรงพยาบาลเอกชน อาทิ บำรุงราษฎร์ ปิยะเวช กรุงเทพ และสมาคมท่องเที่ยวของไทย เพื่อจัดกลยุทธ์ด้านการบริการ และจะเจรจากับรัฐบาลของประเทศในตะวันออกกลาง ขอให้พิจารณาให้สวัสดิการเบิกค่ารักษาพยาบาลได้หากเข้ามารับการรักษาที่ประเทศไทย ซึ่งตลาดนี้ต่อปีมีมูลค่ามหาศาล

กลุ่มเฟสต้าตบเท้าซบก.ท่องเที่ยวเปิดตลาดทัวร์

ทางด้านนายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว(ทีทีเอเอ),โฆษกเฟสต้า และนายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวสัมพันธื ไทย-จีน และนายอภิชาต สังฆอารี ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ แอตต้า กล่าวร่วมกันว่า แนวคิดการร่วมมือกับแบบG to G จะทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยเติบโตได้ดีโดยมั่นใจว่าหากกระทรวงการท่องเที่ยวใช้โมเดลแบบนี้ทำการตลาดเชิงรุก ภายใน 5 ปี จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 20 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศมากกว่า 8 แสนล้านบาท ขณะที่ความร่วมมือไทย-กวางตุ้ง ภายใน 3 ปีนี้ จะผลักดันให้มีนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเข้ามาประเทศไทยได้ถึง 1.5 ล้านคน จากปีก่อนที่มีนักท่องเที่ยว ราว 8 แสนคน ขณะที่ปีหน้าจะเพิ่มเป็น 1.2 ล้านคนได้แน่นอน

ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญคือสถานการณ์ทางการเมืองของไทยต้องนิ่ง ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นเหมือนเมื่อเม.ย.ที่ผ่านมา โดยภาคเอกชน ยินดีที่จะจัดทัวร์คุณภาพ ช่วยกันดูแลไม่ให้เกิดทัวร์ศูนย์เหรียญ และต้องการให้ภาครัฐทั้งคู่ช่วยดูเรื่องการเดินทางว่ามีจำนวนที่นั่งของสายการบินให้เพียงพอกับดีมานด์ที่จะเพิ่มขึ้น

“ที่ผ่านมาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็เปิดให้เอกชนเข้าไปร่วมงานในต่างประเทศด้วย แต่ไม่ได้เป็นเชิงลึกแบบนี้ เน้นคุยกับเอกชน และจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดมากกว่า ซึ่งมองว่า แนวคิดของกระทรวงการท่องเที่ยวจะเห็นเป็นรูปธรรมเร็วและใช้งบน้อยกว่า ททท.ด้วย” นายอภิชาตกล่าว

ทัวร์กวางตุ้งยินดีเที่ยวไทย

ด้านนายหลี่ จินเหมา อุปนายกสมาคมท่องเที่ยวมณฑลกวางตุ้ง กล่าวว่า คนจีนในมณฑลกวางตุ้งที่เดินทางไปต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะเลือกไปประเทศไทย เพราะรู้สึกผูกพันธ์ แต่ปีนี้ยอมรับว่าการเมืองของไทยทำให้ชาวกวางตุ้นชะลอการเดินทาง ล่าสุดก็รู้สึดกังวลกับปัญหาไทย-กัมพูชาเช่นกัน แต่ปีอื่นๆที่ผ่านมา ชาวกวางตุ้งเดินทางไปประเทศไทยคิดเป็น 40%ของนักท่องเที่ยวชาวจีนทั้งประเทศ โดยกวางตุ้งมีประชากรกว่า 95 ล้านคน มีGDP 4.5 พันเหรียญสหรัฐต่อคนต่อปี จึงเป็นมณฑลเศรษฐกิจที่มีกำลังซื้อสูง


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.