|
CPFฟุ้งกำไรปีนี้แตะหมื่นล.ปรับสัดส่วนรายได้ลดเสี่ยง
ASTVผู้จัดการรายวัน(11 พฤศจิกายน 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
เจริญโภคภัณฑ์อาหาร อวดกำไรปีนี้แตะ 1 หมื่นล้านบาท หลัง 9 เดือนแรกทะลุ 8 พันล้านบาท แม้รายได้พลาดเป้าโตเพียง 3-5% มั่นใจตัวเลขปันผลสวย " อดิเรก " เผยเน้นสร้างกำไรโตต่อเนื่องเพื่อจ่ายปันผลคืนผู้ถือหุ้น อีก 5 ปีข้างหน้าสัดส่วนรายได้จาก 3 ธุรกิจหลักเท่ากันเพื่อลดความเสี่ยง ส่วนปี 53 อัดงบลงทุน 4 พันล้านเน้นต่างประเทศ
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน ) หรือ CPF เปิดเผยว่า ในปี 2552 นี้บริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างผลกำไรได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือประมาณ 10,000 ล้านบาท หลังจากที่ 9 เดือนแรกที่ผ่านมาบริษัทมีกำไรสุทธิสูงกว่า 8,000 ล้านบาท แม้รายได้ทั้งปีอาจพลาดเป้าหมายที่ตั้งไว้เดิมที่ประมาณ 1.6 แสนล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 5-10% เหลือแค่ 3-5% ขณะอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มจาก 14% ในปี 51 เป็น 17% ในปีนี้
“บริษัทคาดจะมีกำไรได้สูงเป็นประวัติการณ์ และสามารถจ่ายปันผลได้ดีด้วย แต่หลังจากนี้เราจะไม่เน้นยอดขายโต แต่จะคำนึงถึงกำไรเติบโตสม่ำเสมอ เพื่อจะได้จ่ายปันผลผลให้ผู้ถือหุ้นได้ต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าจะมีกำไรเติบโตไม่น้อยกว่าปีละ 5%” นายอดิเรกกล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3/52 บริษัทมีกำไรสุทธิ 4,115.51 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.61 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 1,387.77 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.19 บาท ขณะที่งวด 9 เดือน กำไรสุทธิ 8,079.90 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.20 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่กำไรสุทธิ 2,823.81 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.39 บาท หรือกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5,256.09 ล้านบาท คิดเป็น 186.14%
ทั้งนี้ ไตรมาส 4 ปีนี้คาดว่าผลประกอบการจะอ่อนตัวจากไตรมาส 3/52 แต่ภาพโดยรวมจะอยู่ในเกณฑ์ดี โดยปกติผลประกอบการในไตรมาส 1 และไตรมาส 4 จะต่ำกว่าสองไตรมาสที่เหลือ โดยผลงาน 9 เดือนแรกปีนี้ที่เติบโตขึ้นอย่างมากเป็นผลจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ และใน 5 ปีข้างหน้า CPF ตั้งเป้าจะมีรายได้จาก 3 ธุรกิจเท่า ๆ กันเพื่อกระจายความเสี่ยง โดยเฉพาะธุรกิจฟาร์มมีสัดส่วน 47% ของรายได้รวม จะค่อย ๆ ปรับลดลงเพื่อลดความผันผวนจากธุรกิจนี้
ขณะที่ธุรกิจอาหารภายใต้ตราสินค้า "CP" จะปรับขึ้นมามีรายได้ 1 ใน 3 หรือ 30-33% จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ 19% เพราะมีมาร์จิ้นสูง ส่วนธุรกิจอาหารสัตว์สัดส่วน 34% ทั้งนี้เพื่อความมั่นคงและเติบโตอย่างยั่งยืน ประกอบกับ การปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารดีขึ้น รวมถึงต้นทุนทางการเงินที่ลดลง
" ปี 53 จากรูปแบบที่เราเดินมาถูกต้อง อาหารคนจะมียอดขายมากขึ้น เพียงขยายช่องทางจัดจำหน่ายในและต่างประเทศเพิ่ม ซึ่งปีหน้าเรามองว่าน่าจะดูดี โดยจะเน้นการทำกำไรให้ดีต่อเนื่องจากปีนี้ คาดจะมีอัตราเติบโตราว 5% และยอดขายจะเติบโต 4-5% " นายอดิเรก กล่าว
สำหรับงบลงทุนนั้น CPF ตั้งไว้ที่ 4 พันล้านบาท เน้นลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะรัสเซียและฟิลิปปินส์ ซึ่ง 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐจะใช้ลงทุนในฟิลิปปินส์เพื่อสร้างโรงานอาหารปลาและกุ้ง , ส่วนงบ 30 ล้านดอลลาร์ ลงทุนในสหรัฐ รัสเซีย สร้างฟาร์มหมู ที่เหลือจะใช้ลงทุนในประเทศเพื่อขยายกำลังการผลิตอาหารสำเร็จรูป ส่งผลให้สัดส่วนจากการลงทุนกิจการในต่างประเทศเพิ่มเป็น 18-19% จากปีนี้อยู่ที่ 17% และการส่งออกก็จะเพิ่มขึ้นจาก 15% ในปีนี้ โดยมีตลาดหลักอยู่ที่ยุโรปและญี่ปุ่น พร้อมกับควบคุมงบลงทุนไม่เกิน 5 พันล้านบาทต่อปี เพื่อรักษากระแสเงินสด
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|