|
“ไทยน้ำทิพย์-หาดทิพย์”ทุ่ม1.5พันล. อัพเกรดผลิต-กระจายสินค้า
ASTVผู้จัดการรายวัน(11 พฤศจิกายน 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
สองบอตเลอร์โคคาโคลา “ไทยน้ำทิพย์-หาดทิพย์” ประกาศลงทุนรวมมูลค่า 1,500 ล้านบาท ในปี 2553 หวังยกระดับการผลิตและการกระจายสินค้า
วานนี้ (10 พ.ย. 52) บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด และบริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) สองผู้ผลิตโคคา-โคลาในประเทศไทย ได้ประกาศแผนการลงทุนในไทยรวมมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาทใน พ.ศ. 2553 ในโครงการยกระดับขีดความสามารถในการผลิตและการกระจายสินค้าทั่วประเทศ
การลงทุนดังกล่าว จะเป็นไปเพื่อพัฒนาการผลิตและจัดจำหน่าย ซึ่งรวมถึงการลงทุนในสายการผลิตใหม่ๆ และรถขนส่งสินค้า
โดยบริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด รับผิดชอบพื้นที่ 62 จังหวัดทั่วประเทศ ขณะที่บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) รับผิดชอบใน 14 จังหวัดภาคใต้
นายพรวุฒิ สารสิน รองประธานกรรมการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด กล่าวว่า “ผมมั่นใจว่าตลาดของเรามีศักยภาพที่เติบโตได้อีก เนื่องจากตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคล้วนมีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอในอัตรา 15 - 25 % และมีอัตราการบริโภคต่อประชากรสูงกว่าประเทศไทยมากด้วยเช่นกัน”
นายพรวุฒิ ย้ำว่า โคคา-โคลา ครองความเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มสปาร์คลิ่งปราศจากแอลกอฮอล์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยส่วนแบ่งตลาดถึงเกือบ 50%
“ความแข็งแกร่งของเรายังคงไม่เปลี่ยนแปลง แม้ในภาวะที่ผู้บริโภคเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ของเราเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนไทยอย่างแท้จริง และเป็นสิ่งที่ผู้คนนึกถึงเวลาเมื่อต้องการเติมความสุขสดชื่นระหว่างวัน”
พันเอกพัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แม้ว่าจะต้องเผชิญกับสองปีที่แสนจะท้าทาย ทั้งสำหรับธุรกิจของเราและเศรษฐกิจโดยรวม เรายังคงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนในการดำเนินกิจการในประเทศไทยอย่างไม่เปลี่ยนแปลง และยังคงให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อผลการดำเนินงานที่ยั่งยืนในระยะยาว เรารับมือกับความท้าทายทางวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ ด้วยการออกนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงกิจกรรมการตลาดที่ยั่งยืนและต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ของผู้บริโภค”
พันเอกพัชรกล่าวว่า ยอดขายผลิตภัณฑ์ของเราถือเป็นส่วนสำคัญในรายได้ของร้านค้าปลีก (โชห่วย) ประมาณ 300,000 แห่ง ร้านอาหารและร้านค้าโมเดิร์นเทรดกว่า 100,000 ร้าน ซึ่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของเราทั่วประเทศ เราเชื่อว่าการลงทุนใดๆ ของเราและการเติบโตในอุตสาหกรรมของเรา สามารถส่งผลต่อการเติบโตของรายได้ของคนในระดับรากหญ้า นอกจากนี้ยังช่วยสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมต่อเนื่อง อาทิ ซัพพลายเออร์ด้านส่วนผสมและวัตถุดิบ เนื่องจาก 99% ของวัตถุดิบที่เราใช้มาจากแหล่งผลิตในประเทศ
“ปัจจุบันเรากำลังขยายพอร์ตโฟลิโอกลุ่มน้ำผลไม้พร้อมดื่มและเครื่องดื่มไม่อัดลม ที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ อาทิ ล่าสุด มินิทเมด พัลพิ น้ำส้มรสชาติสดชื่นที่ผสมเนื้อส้มแท้ๆ จากธรรมชาติ ซึ่งได้เปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ และภายใน 6 เดือน มินิทเมด พัลพิ ก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ที่ขายดีอันดับ 1 ในบรรดาเครื่องดื่มน้ำผลไม้ แบบพร้อมดื่มในซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ” พันเอกพัชรกล่าว
สำหรับตลาดเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์แบบพร้อมดื่มในประเทศไทย ประกอบด้วย เครื่องดื่มสปาร์คลิ่ง (อัดลม) คิดเป็น 25% ของตลาด, น้ำผลไม้พร้อมดื่ม 10%, น้ำดื่มขนาดบรรจุต่ำกว่า 10 ลิตร 10%, นม 30%, ชา กาแฟ เครื่องดื่มให้พลังงานและนมถั่วเหลือง 20% (ประมาณการโดยกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา)
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|