MAIวอนคลังต่ออายุลดภาษี หนุนดึงบจ.จดทะเบียนเพิ่ม


ASTVผู้จัดการรายวัน(9 พฤศจิกายน 2552)



กลับสู่หน้าหลัก

ชมรม เอ็มเอไอ ซีอีโอ ยื่นหนังสือต่อ รมว.คลัง ขอขยายเวลาให้สิทธิลดภาษีนิติบุคคลแก่บริษัทในตลาดเอ็มเอไอ เหลือ 20% ตลอดไป หรือ 5 รอบบัญชี หลังครบกำหนดในปีนี้ ชี้ลดภาระค่าใช้จ่ายการดำรงฐานะ หนุนผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง ยืนยันแม้ลดภาษีแต่รัฐสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น ทั้งช่วยดึงบริษัทเข้าจดทะเบียนมากขึ้น

นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานชมรม เอ็มเอไอ ซีอีโอ (mai CEO) และประธานกรรมการบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ ILINK เปิดเผยว่า วานนี้(9 พ.ย.)ชมรมเอ็มเอไอ ซีอีโอ ได้มีการเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้ขยายเวลามาตรการให้สิทธิประโยชน์แก่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ โดยลดการเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 20% ตลอดไป หรือ ต่ออีก 5 รอบบัญชี เนื่องจาก บริษัทส่วนใหญ่ในตลาดmai หรือ ประมาณ 20 แห่งที่ได้รับสิทธิประโยชน์จะครบกำหนดในปี 2552

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในการเป็นบริษัทจดทะเบียน จากการที่รับภาระในการปฏิบัติตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพยฯและยังมีภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎข้อบังคับของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)คือ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ค่าตรวจสอบบัญชี ค่าตอบแทนกรรมการชุดต่างๆ เงินสมทบกองทุน สำรองเลี้ยงชีพ ค่าจ้างบุคลากรที่เพิ่มขึ้น เช่น เลขานุการบริษัท คณะกรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการชุดต่างๆ

นอกจากนี้มีค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมผู้ถือหุ้น และการปฏิบัติตามวิธีการของตลาด เช่น การลงประกาศผ่านหนังสือพิมพ์ การเผยแพร่ข่าวสารฯลฯ รวมถึงมีขั้นตอนการปฏิบัติที่แตกต่างจากบริษัททั่วไป เช่น การปฏิบัติตามเกณฑ์ของก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ฯ ข้อปฏิบัติเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน การดำเนินการโดยโปร่งใส การจัดให้มีคณะกรรมการอิสระ และข้อบังคับที่ต้องมีคณะกรรมกรรมการตรวจสอบภายนอก

“บริษัทส่วนใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดดmai จะครบกำหนดที่จะได้รับลดหย่อนภาษีนิติบุคคลเหลือ 20% จาก 30% นั้นจะครบกำหนดในปี 2552 เราจึงมีการปรึกษาร่วมกันกับบริษัทที่อยู่ในตลาดเอ็มเอไอเสนอให้ทางกระทรวงการคลังมีการขยายเวลาให้สิทธิประโยชน์ภาษีดังกล่าวตลอดไป แต่เราเข้าใจรัฐบาลอาจจะอึดอัดจึงได้เปิดอีกช่องทางจึงขอได้ต่อไปอีก 5 ปี เพื่อให้บริษัทในmaiมีการเตรียมตัวบ้าง ซึ่งมีผู้บริหารบริษัทในตลาดเอ็มเอไอ ลงชื่อจำนวน 26 บริษัท ”นายสมบัติ กล่าว

นายสมบัติ กล่าวว่า การลดหย่อนภาษีนิติบุคคลให้บริษัทในตลาดเอ็มเอไอ เหลือ 20% จาก 30% นั้นส่งผลดีต่อรัฐบาลที่สามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น โดยในปี 2549 ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทเข้าจดทะเบียนจำนวนมากนั้น รัฐบาลมีการเก็บภาษีจากบริษัทดังกล่าวจำนวน 1,624 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนที่จะเข้าจดทะเบียนบริษัทดังกล่าวจ่ายภาษีเฉลี่ยปีละ 239 ล้านบาท และส่งผลให้มีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอ เพิ่ม 49 บริษัท

ทั้งนี้ หากกระทรวงการคลังขยายเวลาให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีดังกล่าวนั้น จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของบริษัทจดทะเบียนแล้ว ยังจะส่งผลดีทำให้มีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนมากขึ้น ทำให้ขนาดตลาดมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น และทำให้รัฐบาลสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น อันจะก่อให้เกิดผลดีต่อภาพรวมต่อเศรษฐกิจของประเทศต่อไป ซึ่งหากกระทรวงการคลังไม่เห็นชอบดังล่าวนั้นจะส่งผลให้บริษัทในตลาดเอ็มเอไอ มีกำไรที่ลดลง จากมีค่าใช้จ่ายในการเป็นบริษัทจดทะเบียนจำนวนมาก และส่งผลให้บริษัทที่จะเข้ามาจดทะเบียนน้อยลง ทำให้ตลาดเอ็มเอไอ เติบโตได้ช้า

นายไทยลักษณ์ ลี้ถาวร กรรมการ บริษัท ยูนิมิต เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)หรือ UEC กล่าวว่า การขอขยายเวลาสิทธิประโยชน์ทางภาษีดังกล่าวที่ชมรมฯได้มีการยื่นต่อกระทรวงการคลัง เพื่อที่จะให้ทางการรับทราบถึงผลกระทบของบริษัทในตลาดเอ็มเอไอ โดยตรง แม้ทางสมาคมบริษัทจดทะเบียนและตลาดหลักทรัพย์ฯมีการเสนอเรื่องดังกล่าว แต่หากทางการไม่เห็นชอบเรื่องดังกล่าวทางชมรมเอ็มเอไอ ซีอีโอ จะมีการยื่นหนังสืออีกครั้งต่อ ไป


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.