|
โศภิษฐ์ เชน ธุรกิจครอบครัวเลี่ยงไม่ได้
โดย
นภาพร ไชยขันแก้ว
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( พฤศจิกายน 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
โศภิษฐ์ เชน ในฐานะบุตรสาวคนโตของหมิง เรียง เชน และพัชนี คลังเปรมจิตต์ ทำให้เธอต้องเข้ามาร่วมงานกับครอบครัวทันทีหลังจากที่เรียนจบ
โศภิษฐ์วัย 30 ปี เริ่มเข้าทำงานในห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม แอนด์ พี เวิลด์ แอ็ดโซซิเอ็ท เมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา เธอเป็นพี่สาวคนโตของน้องอีก 5 คน ปัจจุบันมีน้องอีก 2 คนทำงานร่วมกันในบริษัท อีก 3 คนยังเรียนหนังสืออยู่ โดยเฉพาะคนสุดท้องที่มีอายุห่างกันกว่า 10 ปี ทำให้เธอเริ่มรู้ตั้งแต่เรียนแล้วว่าจะต้องมาช่วยกิจการในวันหนึ่ง
รูปแบบการบริหารจัดการที่ให้ลูกหลานในครอบครัวมาสืบทอดสานต่อธุรกิจในสังคมไทยถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกโดยเฉพาะผู้ประกอบการระดับเอสเอ็มอี ซึ่งโศภิษฐ์ก็เปรียบเหมือนเงาสะท้อนของผู้ประกอบการในปัจจุบันที่รุ่นผู้ก่อตั้งย่อมต้องการให้รุ่นต่อไปรับทอดกิจการ โศภิษฐ์จึงเข้ามาทำงานทันที หลังจากที่เรียนจบเพื่อมาช่วยธุรกิจครอบครัว ที่บิดาก่อสร้างมากับมือเมื่อ 27 ปีก่อน
โศภิษฐ์จบปริญญาตรีด้านวิศวกรรม-ศาสตร์จากสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ เธอต้องเริ่มเรียนรู้งานเล็กๆ ตั้งแต่จัดงานเอกสารใส่แฟ้ม จัดใส่ตู้ รวมถึงไปออกงานตามนิทรรศการต่างๆ ทำทุกอย่าง เก็บเงินและขายของ
การทำงานของเธอดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับแรงกดดันมากนัก เพราะธุรกิจของบิดาเป็นสิ่งที่เธอเห็นมาตั้งแต่เกิด ได้รับการถ่ายทอดตั้งแต่วัยเด็ก จึงเป็นการเรียนรู้ซึมซับโดยอัตโนมัติ ทั้งเรื่องการจัดการ บริหารระบบ บิดาดูแลโรงงาน มารดาดูแลเรื่องเอกสารและการเงิน
"พอมาทำงาน ถ้ามีปัญหาก็ปรึกษาหารือ อันไหนดีกว่าเรียนรู้ และทำ ส่วนที่เหลือเราก็ต้องคิดต่อยอดจากฐานที่มีอยู่ ทำอย่างไรต่อยอดทำให้เป็นทีมมากขึ้น เลือกใช้เทคโนโลยี เรารุ่นใหม่กว่าทำทุกอย่างให้เกิดประโยชน์ และปรึกษาอาจารย์"
สุเมธวัย 32 ปี ในฐานะสามีของโศภิษฐ์ จบด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน ลาออกจากบริษัทเอกชนมา 2 ปี และเริ่มเรียนรู้งานพร้อมกับโศภิษฐ์ เพราะบิดาของโศภิษฐ์ได้ชักชวนให้เข้ามาทำงาน เขาก็ตัดสินใจมาช่วยงานภรรยา
ทั้งสุเมธและโศภิษฐ์จึงกลายเป็นผู้บริหารรุ่นที่สองของห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งนี้ หลังจากที่เรียนรู้งานมากว่า 6 ปี โศภิษฐ์ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยหุ้นส่วนผู้จัดการ ดูแลกิจการทั้งหมดเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มีน้อง 2 คนมาช่วยทำงานคือ สุชญา เชน ผู้จัดการทั่วไป และศุภรัตน์ เชน ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ส่วนสุเมธ ผู้จัดการทั่วไป ดูแลด้านการตลาดและขาย
แม้เชนจะให้โศภิษฐ์ขึ้นมาบริหารงานแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังให้คำปรึกษามาโดยตลอด ทว่า ณ ขณะนี้บิดาของโศภิษฐ์ไปดูลู่ทางขยายธุรกิจในประเทศจีนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีสำนักงาน อยู่ที่เซี่ยงไฮ้ มีสุชญา ลูกสาวติดตามบิดาและมารดาไปทำงานด้วย
บิดาของเธอมองว่า ตลาดจีนเป็นตลาดที่ใหญ่แต่สินค้าของเล่นเด็กของบริษัทยังไม่ได้เข้าไปเจาะตลาดตรงนี้ จึงมองหาโอกาส รวมทั้งศึกษาความเป็นไปได้เพื่อก่อสร้างโรงงานในจีน เพราะเป็นประเทศที่มีค่าแรงต่ำกว่าประเทศไทย
การมอบภาระหน้าที่ให้โศภิษฐ์ดูแลธุรกิจในประเทศไทยทำให้เธอวางเป้าหมายไว้ว่าธุรกิจจะต้องขยายตัวและเติบโตทุกด้าน โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพและรักษาคนเก่าให้ทำงานร่วมกันตลอดไป เพราะพนักงานบางรายทำงานร่วมกว่า 20 ปีตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง
อย่างน้อยโศภิษฐ์ก็ทำงานสบายใจในระดับหนึ่ง เพราะว่าเธอไม่ได้ทำงานลำพังคนเดียว มีทั้งน้องๆ ที่ช่วยงาน ที่สำคัญมีสุเมธช่วยทำงานให้กับเธออีกแรง โดยเฉพาะประสบการณ์ของสุเมธด้านกฎหมายพ่วงด้วยเกียรตินิยม สามารถปรับใช้กับงานเจรจาธุรกิจระหว่างประเทศได้ดี โดยเฉพาะสัญญาการซื้อขายหรือเงื่อนไขกฎระเบียบต่างๆ ต้องอ้างอิงกฎหมายแทบทั้งสิ้นจึงทำให้การทำงาน รวดเร็วและเข้าใจง่าย
โศภิษฐ์คาดหวังว่างานที่เธอรับทอดกิจการมาจากบิดาจะส่งต่อให้กับน้องๆ ของเธอในอนาคต โดยเข้ามาเป็นผู้บริหารรุ่นที่ 3 ต่อไป
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|