|
ความหรูแบบสปอร์ต
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( พฤศจิกายน 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
ในยุคเศรษฐกิจซบเซา ความหรูหราอาจไม่ใช่คำตอบเดียวที่จะดึงดูดความสนใจมาเป็นจุดขาย และทำให้ตลาดนาฬิกาที่เน้นความหรูหรากำลังปรับเปลี่ยนตามประพฤติกรรมของผู้บริโภคให้มากขึ้น ซึ่งนั่นอาจเป็นเหตุให้ผู้ประกอบการนาฬิกาชั้นนำต้องหันมาใส่ความสปอร์ตและดีไซน์โฉบเฉี่ยวลงไปด้วย
Tissot Veloci-T และ Tissot Glam Sport เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในกรณีดังกล่าว เพราะนอกจากจะเน้นย้ำความหรูบนข้อมือตามมาตรฐานเดิมแล้ว นาฬิกาทั้งสองรุ่นยังขับเน้นความโฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ตควบคู่ไปด้วย ซึ่งสอดรับกับคำขวัญประจำแบรนด์ Tissot ที่ว่า "สร้างสรรค์นวัตกรรมจากวิถีดั้งเดิม"
จุดเน้นของนาฬิกาทั้งสองรุ่น อยู่ที่ความมั่นใจในทุกช่วงจังหวะเวลาของชีวิตประจำวันและความเหมาะสมในทุกกิจกรรม ซึ่งดูจะเป็นคำตอบให้กับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความคล่องตัวแต่เที่ยงตรงในทุกอิริยาบถ
การมาขับเน้นความสปอร์ตของ Tissot ในด้านหนึ่งเป็นภาพที่ต่อเนื่องจากการเป็นผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการในการแข่งขันกีฬาหลากหลายชนิด ทั้ง Nascar, MotoGP การแข่งขันจักรยาน World Championships หรือแม้กระทั่งการแข่งขันฟันดาบและบาสเกตบอล
มิติการขับเคลื่อนของผู้ประกอบการนาฬิกา ในการเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันกีฬาหรือเป็นผู้จับเวลาในการแข่งขันเหล่านี้ กลายเป็นช่องทางการตลาดที่น่าสนใจ และสอดคล้องไปกันได้ดีไม่น้อย
กรณีการเป็นผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการของการแข่งขัน PTT Thailand Open 2009 โดย Longines นาฬิกาสัญชาติสวิส อีกรายก็ดำเนินอยู่ในกระแสเดียวกันนี้
Longines ใช้โอกาสดังกล่าวสร้างเสริมภาพลักษณ์ว่าด้วย "วิถีแห่งความสง่างาม" พร้อมกับเน้นย้ำ Longines Sport Collection ในซีรีส์ HydroConquest ในฐานะที่เป็นรางวัลแห่งความสง่างามให้กับทั้ง Gilles Simon และ ViktorTroicki สองนักเทนนิส ผู้ชนะเลิศและรองชนะเลิศการแข่งขัน
แต่ในสนามประลองที่กำลังเข้มข้นด้วยการแข่งขันของผู้ประกอบการนาฬิกาหรูหลากหลายรายนี้ บางทีผู้ชนะอาจไม่ใช่นาฬิกาแบรนด์ใดเลย หากเป็น "เวลา" ที่เคลื่อนที่ไปข้างหน้าอยู่ทุกช่วงขณะ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะติดตามการหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านนี้ได้ดีกว่ากันเท่านั้น
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|