|
บัวทองรับมืออสังหาฯปี53 หวั่นรัฐเลิกมาตรการราคาบ้านขยับ
ASTVผู้จัดการรายวัน(2 พฤศจิกายน 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
บิ๊กบัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ฯ เผยปลายปีตลาดแข่งดุ อสังหาฯแห่ทำตลาดแข่งปั้นยอด เร่งโอนบ้าน ก่อนหมดมาตรการ หวั่นปี53รัฐบาลไม่ต่ออายุ ส่งผลต้นทุนบ้านปรับขึ้น6-7% อย่างต่ำ พร้อมกางแผนรับมือ เน้นคัดโครงการคุณภาพขายลูกค้าราคาเหมาะสม เน้นบริหารงานรัดกุม
นายไพโรจน์ สุขจั่น ประธานกรรมการบริหาร บริษัทบัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการอสังหาฯแทบทุกรา ยเริ่มทำการตลาดอย่างหนัก เพื่อผลักดันยอดขายให้ได้มากที่สุด ส่งผลให้การแข่งขันในตลาดรุนแรงขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการกังวลว่าในปี53นั้น รัฐบาลจะไม่ต่ออายุมาตรการอสังหาฯออกไปอีก เพราะรัฐบาลมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีลดลงจากปีก่อนหน้าค่อนข้างมาก ทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งยอดขายและโอนบ้านให้ลูกค้าก่อนที่มาตรการจะหมดอายุลงในเดือนมี.ค.53นี้ ซึ่งรัฐบาลไม่ต่ออายุมาตรการอสังหาฯในปีน้า จะส่งผลให้ต้นทุนการพัฒนาโครงการต่างๆ ปรับสูงขึ้น และจะส่งผลให้ราคาบ้านปรับตัวสูงขึ้นอีกอย่างน้อย 6-7%
ดั้งนั้น แม้ว่าแนวโน้มตลาดอสังหาฯจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น ตามภาวะเศรษฐกิจ และการเมืองที่ลดอุณหภูมิลดลง จนช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนต่างชาติ ให้เริ่มจะทยอยกลับเข้ามาลงทุนในประเทศมากขึ้น รวมถึงการกลับมาทำตลาดอสังหาฯของกลุ่มผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาจากวิกฤติในปี 40 จะส่งผลดีแก่บริษัทฯ ให้มีโอกาสจะรับงานเพิ่มขึ้น แต่บริษัทก็ต้องดำเนินธุรกิจอย่างรอบครอบและระมัดระวังอย่างมาก
โดยในปี53นั้น บริษัทกำหนดแผนและนโยบายการดำเนินงาน ซึ่งเน้นการจับร่วมมือกับผู้ประกอบการโครงการและร่วมมือกับพันธมิตรให้มากขึ้น และจะไม่แตกไลน์ธุรกิจใหม่เพิ่ม ในขณะที่การกำหนดเป้ายอดขายจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะตลาด และเป็นการปรับตัวตามสถานการณ์ และหากสถานการณ์ดีขึ้นชัดเจนแล้วบริษัทอาจจะปรับเป้าขึ้นไปเท่ากับเป้าเดิมของปีนี้คือ 2,500ล้านบาท
“ปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดถือสถานการณ์การเมือง และการทำงานของรัฐบาล รวมถึงโครงการไทยเข้มแข็งที่รัฐบาลออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะทยอยออกมาให้เห็นในปีหน้า โดยเฉพาะในเรื่องของมาตรการอสังหาฯซึ่งต้องจับตาให้ดีว่าจะมีการต่ออายุหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าหากรัฐบาลไม่ต่ออายุก็จะส่งผลกับการตัดสินใจซื้อของลูกค้าอย่างมาก’
นายไพโรจน์กล่าวว่า ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯสามารถทำยอดขายได้ 1,900 ล้านบาท และคาดว่าในสิ้นปีนี้จะสามารถทำยอดขายรวมได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ทั้งปี 2,500 ล้านบาท
“ปัจจัยลบต่างๆ ที่เข้ามากระทบตลาดอสังหาฯทั้งเศรษฐกิจ และการเมือง ทำให้ตัวเลขยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่งคาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้บริษัทจะมียอดขายหลุดเป้าประมาณ 10% อย่างไรก็ตามแม้ว่ายอดขายในปีนี้จะหลุดเป้าไป แต่กลุ่มบัวทองยังโชคดีที่บริษัทบัวทองแลนด์ สามารถสร้างรายได้เข้ามาอย่างเป็นกอบเป็นกำ ทำให้วันนี้ ยังมีสภาพคล่องที่ดี ”
อย่างไรก็ตามแม้ว่าบริษัทจะมีสภาพคล่องที่ดี แต่ในธุรกิจบริหารการขายในปีนี้ยังต้องดำเนินการอย่างรัดกุม โดยบริษัทฯจะเน้นการคัดคุณภาพของโครงการมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้ง ราคาบ้าน และคุณภาพบ้าน ซึ่งอาจจะส่งผลให้ บริษัทฯ มีโครงการที่บริหารการขายลงไปด้วย โดยปัจจุบันบริษัทมีโครงการบริหารการขายในมือ 40 โครงการ ซึ่งลดลงไปกว่า20 โครงการเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า ที่มีโครงการให้บริหารการขายในพอร์ตต่อปีกว่า 60โครงการ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะจำนวนการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ลดลง และบริษัทเองก็เน้นการคัดเลือกโครงการที่จะเข้าไปบริหารการขายให้ด้วย
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|