สคิบหวังปลายปีศก.ฟื้น ยอดขายNPAกระเตื้อง


ASTVผู้จัดการรายวัน(19 ตุลาคม 2552)



กลับสู่หน้าหลัก

แบงก์นครหลวงไทยรับยอดขายเอ็นพีเอปีนี้ไม่เข้าเป้า 1,800 ล้านบาท คาดน่าจะได้ 1,500 ล้านบาท สาเหตุลูกค้าชะลอใช้จ่ายเงิน แต่คาดช่วงปลายปีกระเตื้องขึ้น ยันปีหน้าใช้กลยุทธ์รุกตลาดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแทนการรอให้ลูกค้าเดินมาหา

นายเกริกชัย ชัยธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) (SCIB) เปิดเผยว่า ธนาคารคาดการณ์ว่ายอดการจำหน่ายสินทรัพย์รอการขาย(เอ็นพีเอ)ในสิ้นปี 2552 นี้ จะอยู่ที่ระดับ 1,500 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ 1,800 ล้านบาท ซึ่งการที่ธนาคารจำหน่ายเอ็นพีเอได้ต่ำกว่าเป้า ถือว่าเป็นไปตามสภาพ เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ที่ทำให้ประชาชนไม่กล้าใช้จ่ายเงินกันมากนัก เลยทำให้ยอดจำหน่ายทรัพย์ของธนาคารได้ไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีนักลงทุนบางรายเริ่มมองเห็นโอกาสข้างหน้าแล้วว่าเศรษฐกิจกำลัง ฟื้นตัวดีขึ้น จึงคาดว่าในช่วงปลายปีนี้จะมีนักลงทุน หันมาสนใจซื้อทรัพย์เอ็นพีเอมากขึ้น

'เรามองว่าสิ้นปีนี้ยอดขายทรัพย์จะได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่เราวางไว้ ซึ่งถือว่าเราก็พอใจแล้ว เนื่องจากช่วง 9 เดือนยอดขายทรัพย์เอ็นพีเอของเรายังต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดเอาไว้ โดยสามารถจำหน่ายทรัพย์ได้เพียง 900 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่ประชาชนไม่มีการใช้จ่ายกันมากนัก เพราะกลัวว่าเศรษฐกิจจะไม่ฟื้นตัวและอีกส่วนมาจากการ ที่ลูกค้าหลายรายที่รอให้ราคาของสินทรัพย์ลดลงก่อนแล้วจึงจะค่อยตัดสินใจ ซื้อ' นายเกริกชัย กล่าว

แต่อย่างไรก็ดี ธนาคารก็หวังว่ายอดการจำหน่ายทรัพย์เอ็นพีเอของธนาคารจะกระเตื้องและดีขึ้น ในช่วงต้นไตรมาส 4 นี้ไปจนถึงต้นปี 2553 หน้าอย่างแน่นอน โดยเฉพาะทรัพย์ในโครงการต่างๆ ที่คาด ว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้า จากที่ผ่านมาของช่วงครึ่งปีแรกที่บรรยากาศยอดการจำหน่ายทรัพย์เอ็นพีเอชะลอ ลงไปมาก และในส่วนของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบก็จะมีการจัดโปรโมชันเพื่อจูงใจลูกค้าให้ มากที่สุด โดยแต่ละธนาคารจะมุ่งเน้น 2 ด้านคือ 1. การขายทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่และ 2.การขายทรัพย์ให้แก่รายย่อยมากขึ้น

'ต้นไตรมาส 4 ของปีนี้ จะเห็นว่าเริ่มมีลูกค้าให้ความสนใจซื้อทรัพย์ มากขึ้น ซึ่งจะมีการคุยกันระหว่างลูกค้าที่สนใจและธนาคารพาณิชย์ที่จำหน่ายทรัพย์ เป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งจะนำไปสู่การอนุมัติสินเชื่อมากขึ้นเช่นกัน เพราะอย่าลืมว่าปัจจัยสี่ยังเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการอยู่ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือที่ดินที่มีทำเลและราคาที่ดีและเหมาะสม จากช่วงครึ่งปีแรก ที่พบว่าหลายคนรอไม่ยอมใช้จ่ายเงิน ซึ่งจะเป็นพวกรายใหญ่ รายย่อย แต่ตอนนี้คนเริ่มติดต่อกับธนาคารมากขึ้นเพื่อดูสิทธิประโยชน์ที่ธนาคาร จะมอบให้' นายเกริกชัย กล่าว

นายเกริกชัย ยังกล่าวถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจจำหน่ายทรัพย์เอ็นพีเอของธนาคารในปี 2553 ว่าก็จะยังเน้นจำหน่ายทรัพย์ให้แก่ลูกค้าทั้งรายใหญ่ รายย่อยและนักลงทุนเหมือนเดิม ซึ่งธนาคารจะไม่ทำการตลาดแบบเชิงรับ แต่ธนาคารจะวิ่งเข้าไปหาลูกค้าเป้าหมายเอง จากที่ผ่านมาที่ธนาคารเริ่มทำการตลาดในรูปแบบดังกล่าวแล้วปรากฏว่าได้ผลดี เป็นอย่างมาก จึงทำให้ธนาคารออกกลยุทธ์รุกลูกค้าเป้าหมายมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในปีหน้าธนาคารก็จะนำกลยุทธ์การจับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมาใช้อย่างแน่ นอน แต่ธนาคารก็จะต้องดูว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ที่มีอยู่นั้นมีประเภทใดบ้าง และมีความต้องการทรัพย์อย่างไร


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.