การนำที่ดิน 15 ไร่ใจกลางกรุงเทพฯ มาเปิดเป็นเต็นท์รถระดับหรู
ถือเป็นทางออกของการจัดการปัญหา NPA ที่ลงตัวที่สุด
ของ บง.ธนชาติ ที่กำลังจะรุกตลาดสินเชื่อรถยนต์มือสอง
คนที่มีที่ดินกว้างถึง 15 ไร่ ติดถนนพระราม 9 ซึ่งตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมือง
คงไม่คิดจะเอาที่แปลงนี้มาทำเป็นเต็นท์รถมือสอง
แต่สำหรับบริษัทเงินทุนธนชาติแล้ว การนำที่ดินซึ่งยึดมาได้ตั้งแต่สมัยฟองสบู่แตกมาพัฒนาเพื่อเปิดเป็น
"ธนชาติ สมาร์ทคาร์ พลาซ่า" น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการจัดการทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
(non-performing asset : NPA) ชิ้นนี้
งานนี้ บง.ธนชาติถือว่ามีแต่ได้กับได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง
บง.ธนชาติ ได้ปรับทิศทางการทำธุรกิจลงมาเล่นตลาดล่าง หลังฟองสบู่แตกและก็ถือว่าทำได้ดีเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะในตลาดเช่าซื้อรถยนต์ หลังจากที่ได้เข้ามาจับธุรกิจนี้ได้เพียง
3 ปี บง.ธนชาติ ก็ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แซงหน้าบริษัทเงินทุนที่เคยเน้นธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์อย่าง
บง.เกียรตินาคิน หรือบริษัทลิสซิ่งอีกหลายแห่ง
"หากคุณเห็นรถยนต์ใหม่วิ่งผ่านหน้าไป 6 คัน ในจำนวน 6 คันนั้น เป็นการซื้อเงินสดเพียงแค่
2 คัน ที่เหลืออีก 4 คัน เป็น การเช่าซื้อ และ 1 ในรถ 4 คันที่เช่าซื้อมานั้น
ต้องเป็นการเช่าซื้อผ่านธนชาติ" บัณฑิต ชีวะธนรักษ์ กรรมการผู้จัดการ สายธุรกิจสินเชื่อและเช่าซื้อ
บง.ธนชาติ บรรยาย
แปลความหมายง่ายๆ ได้ว่าทุกวันนี้บง.ธนชาติเพียงเจ้าเดียว ก็กินส่วนแบ่งธุรกิจเช่าซื้อสำหรับตลาดรถใหม่เข้าไปแล้วถึง
1 ใน 4 ส่วน
บัณฑิตให้เหตุผลอย่างเป็นทางการถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วในธุรกิจนี้ของบง.ธนชาติว่า
มาจากปัจจัย 4 ประการ คือ 1. อัตราดอกเบี้ยที่เสนอให้ค่อนข้างต่ำ 2. บง.ธนชาติมีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ
3. พนักงานมีความสามารถ และ 4. พนักงานทุกคนมุ่งมั่นในการให้บริการ
ขณะที่คนในวงการเช่าซื้อด้วยกันเองกลับมองว่าความสำเร็จของธนชาติ อาจเกิดจากการให้ผลตอบแทนกับพนักงานขายสินเชื่อในอัตราส่วนที่สูงกว่าระบบ
ปีนี้ บง.ธนชาติ ตั้งใจจะขยายบทบาทลงมาเล่นในตลาดรถมือสอง
และเพื่อไว้ลายแชมป์ของตลาดรถมือหนึ่ง นอกจาก บง.ธนชาติจะเร่งสร้างสายสัมพันธ์กับบรรดาเต็นท์รถต่างๆ
แล้ว บง.ธนชาติได้ตัดสินใจเปิดเต้นท์รถขึ้นมาเอง
ที่ดินจำนวน 15 ไร่ ริมถนนพระราม 9 ซึ่งเคยเป็น NPA อยู่ภายใต้การครอบครองของบริษัทบริหารสินทรัพย์
เอ็นเอฟเอสถือเป็นทำเลทองที่เหมาะสมที่สุด
บริษัทแปลน เอสเตท ซึ่งเคยมีชื่อเสียงทางด้านงานสถาปนิกที่กลุ่มธนชาติได้เข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
รับหน้าที่เนรมิตให้ที่ดินแปลงนี้กลายเป็นเต็นท์รถมือสองที่ใหญ่ที่สุดในใจกลางกรุงเทพฯ
รวมถึงการเข้าไปเป็นผู้บริหารเต็นท์รถแห่งนี้
"ที่ผ่านมาแปลนเอสเตทมีหน้าบริหารสินทรัพย์รอการขายให้กับ บง.ธนชาติอยู่แล้ว"
บัณฑิตบอก
การสร้าง "ธนชาติ สมาร์ทคาร์ พลาซ่า" แปลน เอสเตทใช้เงินลงทุนไปแล้วทั้งสิ้น
88.5 ล้านบาท โดยการวางโครงสร้างของพลาซ่า ด้วยการมุงหลังคาซึ่งทำจากวัสดุอย่างดี
ภายในพื้นที่ได้ซอยแบ่งออกเป็น 23 ยูนิต เฉลี่ยพื้นที่ยูนิตละ 468 ตารางเมตร
เพื่อให้ผู้ประกอบการรถยนต์มือสองมาเช่าเป็นพื้นที่ขาย
จุดเด่นของ "ธนชาติ สมาร์ทคาร์ พลาซ่า" คือการคัดเลือกผู้ประกอบการและรถยนต์ที่จะนำมาจอดขายอย่างเข้มงวดผู้ประกอบส่วนใหญ่
คือเต็นท์รถที่มีชื่อเสียงได้รับการยอมรับในตลาดอยู่แล้ว ส่วนรถที่จะนำมาจอดขายที่นี่ก็ถูกกำหนดไว้ว่าต้องเป็นรถระดับหรู
อย่างเช่น เลกซัส เบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู โตโยต้า คัมรี่ ฯลฯ
ก่อนนำมาจอดรถทุกคันจะต้องผ่านการตรวจสอบสภาพ โดยทีมงานของพลาซ่า จนมั่นใจได้ว่าอยู่ในสภาพที่ดี
เพื่อสร้างแรงดึงดูดให้กับคนที่เข้ามาซื้อ
ที่สำคัญคือรถทุกคันที่มีการซื้อขายใน "ธนชาติ สมาร์ทคาร์ พลาซ่า" ได้ถูกกำหนดเอาไว้ว่าต้องใช้บริการสินเชื่อเช่าซื้อจาก
บง.ธนชาติเพียงแห่งเดียว
"ธนชาติ สมาร์ทคาร์ พลาซ่า" เปิดอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา
และ บง.ธนชาติก็ยังมีแผนจะไปเปิดพลาซ่ารถมือสองในต่างจังหวัดอีก 2-3 แห่งในอีกไม่นานนี้