“ซีเล็ค”อัดงบพิเศษลุยโชห่วย ธีร์โฮลดิ้งจ่อลุยตลาดเวเฟอร์


ASTVผู้จัดการรายวัน(12 ตุลาคม 2552)



กลับสู่หน้าหลัก

“ธีร์โฮลดิ้ง” เปิดแผนรุก ดันกลุ่มปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศหวังสู่อันดับที่ 2 ใน 5 ปี อัดงบตลาดพิเศษ 30 ล้านบาท ลุยคาราวานทั่วไทย พร้อมรุกเพิ่มพอร์ตโฟลิโอสินค้า จ่อลุยตลาดเวเฟอร์ปีหน้า มั่นใจปีนี้รายได้เติบโต 19%

นายธนธัช จุนชนะเวชานันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและฝ่ายการตลาด บริษัท ธีร์โฮลดิ้ง จำกัด ผู้จัดจำหน่ายปลากระป๋องซีเล็คทูน่าและปลาเส้นฟิชโช เปิดเผยว่า บริษัทฯมีเป้าหมายที่จะผลักดันปลากระป๋องในซอสมะเขือเทสของบริษัทฯขึ้นเป็นอันดับที่สองในตลาดภายใน 5 ปีนับจากนี้ จากปัจจุบันติดท็อปไฟว์ แต่ยังมีแชร์น้อยมาก โดยปีหน้าจะเพิ่มงบการตลาดพิเศษอีก 30 ล้านบาท เพื่อทำตลาดกลุ่มนี้โดยเฉพาะ หลังจากที่ทำตลาดกลุ่มนี้มาแล้ว 4 ปี ส่วนผู้นำตลาดคือ แบรนด์สามแม่ครัว จากตลาดรวมกลุ่มนี้ 4,200 ล้านบาท

ทั้งนี้จะทำตลาดครบวงจร ขยายตลาดไปต่างจังหวัดมากขึ้น ในรูปแบบคาราวานสินค้าเข้าตามระดับตำบลและอำเภอมากขึ้น เนื่องจากสินค้าราคาแค่ 10 กว่าบาทเท่านั้น และจะเพิ่มช่องทางเทรดดิชันเนลเทรดให้เป็นสัดส่วน 60% จากปัจจุบัน 45% และช่องทางโมเดิร์นเทรด 55% ขณะที่กลุ่มปลาทูน่ากระป๋องนั้น ซีเล็คเป็นผู้นำตลาดอยู่แล้ว จากมูลค่าตลาดรวมกลุ่มนี้ที่มี 800 ล้านบาท โดยหากมองตลาดปลากระป๋องรวมแล้วบริษัทฯมีคอร์ปอเรทแชร์ที่ 15% จากมูลค่าตลาดรวมที่มีมากกว่า 5,000 ล้านบาท

บริษัทยังมีนโยบายที่จะขยายกลุ่มสินค้าใหม่เพื่อเป็นการต่อยอดและสร้างรายได้ให้กับองค์กร โดยมีเป้าหมายที่ต้องการเติบโตต่อเนื่องทุกปี จึงต้องเพิ่มพอร์ตสินค้าด้วย จากปัจจุบันมี 4 กลุ่มคือ สแน็คปลาเส้นฟิชโช กลุ่มปลากระป๋องทูน่า กลุ่มปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศ และกลุ่มอาหารสัตว์

โดยมีแผนเข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์เวเฟอร์ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลต่างๆทั้งด้านตลาดรวม การแข่งขัน จุดเด่นจุดอ่อนของผู้ประกอบการรายเก่า รวมทั้งการสร้างสินค้าและแบรนด์ และการสร้างความต่างของบริษัทฯด้วย ซึ่งตลาดรวมเวเฟอร์มีทั้งตลาดบนที่นำเข้าจากต่างประเทศ และตลาดล่างที่เป็นแบรนด์คนไทยราคาเฉลี่ย 1-5 บาทเป็นตลาดที่มีศักยภาพแต่ก็เป็นตลาดที่แข่งขันรุนแรงพอสมควร จากมูลค่าตลาดรวม 1,000 กว่าล้านบาท

เบื้องต้นจะต้องใช้งบลงทุนด้านเครื่องจักรผลิตเวเฟอร์กว่า 40-60 ล้านบาท ส่วนพื้นที่โรงงานนั้นได้ทำการขยายรองรับไว้แล้ว ส่วนแผนผลิตขนมขึ้นรูปที่ต้องลงทุนกว่า 100 ล้านบาท คงชะลอไปก่อนเพราะคู่แข่งขัน

สาเหตุการเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ เพราะ สินค้าเดิมคือตลาดปลาเส้น มูลค่าตลาดรวม 1,200 ล้านบาทมาหลายปีแล้วเป็นตลาดที่ไม่ตกแต่ไม่โต เช่นเดียวกับฟิชโช่ ส่วนตลาดปลากระป๋องมีการเติบโตดี แต่ก็แข่งขันรุนแรง

อีกกลุ่มคือ อาหารสัตว์ แบรนด์ เบรอตต้า ทำตลาดมา 4 ปีแล้วยังไม่ได้รุกสร้างแบรนด์มากนัก ก็ยังมีรายได้และส่วนแบ่งตลาดน้อย ซึ่งสัดส่วนรายได้กลุ่มสินค้าของบริษัทฯ แบ่งเป็น 1. กลุ่มปลาเส้น สัดส่วน 20% 2.กลุ่มปลากระป๋องซีเล็คทูน่า และ 3.กลุ่มปลาในซอสมะเขือเทศ มีสัดส่วนรายได้รวมกัน 65-70% 4.กลุ่มอาหารสัตว์ แบรนด์ เบรอตต้า สัดส่วนรายได้ 2% โดยช่วง 9เดือนแรกปีนี้บริษัทฯมีรายได้รวมเติบโต 27% โดยการเติบโตนั้นมาจากกลุ่มปลาในซอสมะเขือเทศเป็นหลัก และคาดว่าในปีนี้จะมียอดขายรวม 1,250 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว 18-19% โดยทั้งปีโดยใช้งบตลาดรวม 80-100 ล้านบาท

ทั้งนี้แผนตลาดของปลาเส้นฟิชโช ล่าสุดจับมือกับโรงหนังเครือเอสเอฟในการเป็นเมนพาร์ทเนอร์ นาน 3 ปี ด้วยงบ 30 ล้านบาท เพื่อขยายช่องทางจำหน่ายและขยายฐานกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งแบรนด์ฟิชโชเป็นที่สองในตลาด ส่วนกลุ่มตลาดรวมปลาเส้นทรงตัว ขณะที่ภาพรวมตลาดสแน็คตกลง 20%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.