แม้จะคร่ำหวอดอยู่ในตลาดเมืองไทยมานาน
แต่ภาพลักษณ์ที่ดูเคร่งขรึมของโมโตโรล่า
ก็ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลง
ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว สำหรับงานแถลงข่าวโทรศัพท์มือถือยุคนี้ที่ต้อง
จัดอย่างมีคอนเซ็ปต์ ตั้งแต่บัตรเชิญ การเลือก สถานที่ ที่สะท้อนถึงกลยุทธ์ของธุรกิจหรือบริการอย่างมีนัยสำคัญ
โมโตโรล่าก็เช่นกัน แต่สำหรับครั้งนี้มีเรื่องที่พิเศษกว่านั้น เพราะเป็นความตั้งใจที่โมโตโรล่าจะนำเครื่องรุ่นใหม่
E365 ใช้เป็นตัวบุกเบิกในการหวนกลับคืนสู่ตลาดอีกครั้ง
ก่อนหน้าวันแถลงข่าว บัตรเชิญซึ่งเป็นซองตะกั่วสีเงิน ภายในบรรจุตุ๊กตาหญิงสาวคาดแถบป้ายที่ลำตัวให้สอดคล้อง
กับคอนเซ็ปต์งานเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่ ที่ใช้ชื่อว่า "erotica" ถูกส่งถึงมือสื่อมวลชน
เพื่อปลุกกระแสความสนใจ
สถานที่ใช้จัดงานไม่ธรรมดา วิลล่า คาเฟ่เก่า ในย่านพระราม 9 ถูกเลือกสำหรับใช้เป็นสถานที่แถลงข่าว
ซึ่งโอกิลวี่แอคทิเวชั่น บริษัทในเครือโอกิลวี่ รับจัด event ในครั้งนี้ต้องใช้เวลา
3 วันเต็ม ตกแต่งสถานที่ใหม่หมด ทาสี จัดเวทีติดแผ่นป้าย เพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ของงานที่สถานที่ต้องกว้างขวาง
แต่ไม่ใช่ห้อง แถลงข่าวในโรงแรมเหมือนที่แล้วๆ มา
นอกจากโมโตโรล่าจะใช้สถานที่แห่งนี้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่จัดขึ้นในช่วงบ่าย
ในช่วงค่ำวันเดียวกันพวกเขาใช้ที่แห่งนี้จัดงาน "โมโตโรล่า อีโรติก้า ปาร์ตี้"
โดยไฮไลต์ของงานนี้นอกจากรูปแบบของงานที่จัดในลักษณะของงานปาร์ตี้ ดื่มกิน
แสดงโชว์ที่มีแขกรับเชิญประมาณ 700 คน ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มคนไฮโซรุ่นใหม่ ที่อยู่ในวงการแฟชั่น
เพลงวีเจ ใช้เป็นกลุ่มอิทธิพล อ้างอิงสะท้อนกลุ่มเป้าหมายหลักของเครื่องรุ่นนี้
Erotica ที่ถูกใช้เป็นคอนเซ็ปต์ของการเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่ E365 เป็นแนวคิดที่ต้องการมุ่งไปยังกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นที่ชอบออกงานสังคม
ชอบแฟชั่น งานสังสรรค์ ใช้ชีวิตอย่างมีสีสัน ชอบแสดงออก อายุระหว่าง 18-30
ปี ซึ่งเป็นลูกค้าเป้าหมายสำคัญของโทรศัพท์ รุ่น E365
"เราต้องการจัดงานให้สะท้อน brand concept ของมือถือให้เข้าใกล้กับลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่"
วิทการ จันทวิมล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มอุปกรณ์สื่อสาร ส่วนบุคคล บริษัทโมโตโรล่า
(ประเทศไทย) บอก
รูปแบบของการจัดงาน จะถูกเชื่อมโยงให้เข้ากับภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่และแผ่นป้ายโฆษณา
ชายหนุ่มหญิงสาว เพื่อสะท้อนภาพกลุ่มเป้าหมายโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ เป็นรูปภาพบังคับที่ต้องนำไปใช้ในทุกประเทศ
โมโตโรล่าจะใช้งบลงทุน 30 ล้านบาท ในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ สื่อทีวี
สิ่งพิมพ์ จัดทำส่งเสริมการขาย ณ จุดขายการจัดมินิโร้ดโชว์ให้กับดีลเลอร์
200 ราย ทั้ง 8 ภาคการตลาดทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นงบลงทุนมากที่สุดของโมโตโรล่าเมื่อเทียบกับช่วงที่แล้วมา
นอกเหนือจากตลาดจีนและไต้หวัน จะเป็น 2 ตลาดหลักของโมโตโรล่าแล้ว อัตราการเติบโตของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือของไทย
ที่กำลังเพิ่มไปถึง 30% ของยอดประชากร คาดว่าจะมีผู้ใช้ถึง 22-24 ล้านเลขหมาย
ทำให้เมืองไทยถูกจัดเข้าเป็น อันดับ 3 ที่โมโตโรล่าให้ความสำคัญในเวลานี้
ปัจจุบันโมโตโรล่ามีส่วนแบ่งตลาดสิ้นสุดเดือนกรกฎาคมอยู่ประมาณ 15% มียอดขาย
6 แสนเครื่อง และสิ้นปีนี้ โมโต โรล่าตั้งความหวังว่า หลังวางตลาดเครื่องรุ่นนี้แล้วจะทำให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโมโตโรล่าจะเป็นค่ายโทรศัพท์มือถือที่สร้างชื่อในตลาดเมืองไทยมานาน
ตราสินค้าของโมโตโรล่าเป็นที่รู้จักดีในตลาด แต่นับจากบริษัทแม่ของโมโตโรล่าประสบกับปัญหา
ทำให้ขาดความต่อเนื่องในการทำตลาดไปพักใหญ่ และเมื่อหวนกลับสู่ตลาดอีกครั้ง
โอกาสไม่ง่ายนัก นอกจากจะมีคู่แข่งสำคัญอย่างโนเกียที่ครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่าครึ่ง
แล้วยังมีคู่แข่งใหม่ๆ ในตลาด ทั้งค่ายยุโรป ค่ายเกาหลีที่กำลังช่วงชิงตลาดกันอย่างหนักเวลานี้
ปัญหาสำคัญของโมโตโรล่าอยู่ที่ภาพลักษณ์ความเป็นแบรนด์เก่าแก่ของโมโตโรล่าที่ดูธรรมดา
เคร่งขรึม ไม่ดึงดูดใจ สิ่งที่ผู้บริหารของโมโตโรล่าต้องทำก็คือ การเปลี่ยนภาพโมโตโรล่าให้กลายมาเป็นสินค้าที่มีความทันสมัยเหมาะกับไลฟ์สไตล์
ของกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นที่เป็นฐานลูกค้าสำคัญในเมืองไทย
ด้วยคุณสมบัติที่ค่อนข้างครบถ้วนในเครื่องรุ่นใหม่มาพร้อมกล้องดิจิตอล
ความละเอียดระดับ VGA (640 X 160 pixels) จอสี TFT สามารถส่ง mms ในราคา
11,900 บาท บวกกับการวางให้รายละเอียด กับการคอนเซ็ปต์การตลาดที่มุ่งเฉพาะเจาะจงไปยังกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน
จึงเป็นความหวังของโมโตโรล่าที่จะล้างภาพลักษณ์เก่าๆ ทิ้ง
"E365 จะเป็นรุ่นแรกที่เราจะใช้ drive การกลับมาของโมโตโรล่า โดยจะเป็นตัวที่สะท้อนถึงความทันสมัยที่สุดของ
EDGY และหลังจากรุ่นนี้แล้ว เราจะมีเครื่องในลักษณะเดียวกันนี้อีก 3-4 รุ่น
ออกมาในตลาด"
เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นที่มีต่อตลาดในไทย ที่นับจากนี้โมโตโรล่าจะเอาจริงเอาจังกับการสร้างภาพลักษณ์แบบเดิม
ไปสู่บุคลิกใหม่ที่เน้นความทันสมัยของเทคโนโลยีและภาพลักษณ์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลัก