เมื่อเป็นครั้งแรกของการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ในไทย
ลูกค้าวัย TEEN ก็ถูกเลือก
สำหรับงานนี้
ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายมาตั้งแต่ช่วงค่ำของเย็นวันศุกร์ที่ 12 กันยายน
รถยนต์จำนวนมากจอดนิ่งอยู่บนท้องถนน ตรงกันข้ามกับบรรยากาศภายในเต็นท์ขนาดใหญ่
60 X 20 X 7 เมตร บริเวณด้านหลังศูนย์ประชุมฯ สิริกิติ์ ที่ใช้เป็นสถานที่จัดงานเปิดตัวโทรศัพท์มือถือโนเกีย
รุ่น 3200 ที่ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
การเปิดตัวครั้งนี้ไม่เหมือนกับที่ผ่านมา เพราะเป็นครั้งแรกที่โนเกียเลือกไทย
เป็นประเทศที่เปิดตัวโทรศัพท์มือถือ โนเกีย 3200 สู่การรับรู้ของผู้คนเป็นครั้งแรก
โดยมีสเปนเป็นอีกประเทศที่ใช้เปิดตัวเครื่องรุ่นเดียวกันในแถบยุโรป
งานนี้โนเกียภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ประเทศสิงคโปร์ ต้องบินมาจัดงานด้วยตัวเอง
ทั้งการกำหนดคอนเซ็ปต์ ตั้งแต่บัตรเชิญ การเลือกเฟ้นสถานที่ โดยมีบริษัท
Index Event Agency เป็นผู้จัด event ในครั้งนี้
การขยายตัวของตลาดโทรศัพท์มือถือนอกประเทศ ทำให้โนเกียต้องเข้าถึง ความเป็นท้องถิ่นของตลาดในแต่ละประเทศ
ไม่ใช่แค่จีนที่เป็นตลาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงประเทศอื่นๆ ที่มีอัตราการเติบโต
ก่อนหน้ามาเปิดตัวโนเกียรุ่น 3200 ในไทย อินเดีย เป็นอีกประเทศที่ถูกเลือกสำหรับโทรศัพท์มือถือรุ่นจอขาวดำ
ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของที่นั่น
ในไทยก็เช่นกัน โทรศัพท์มือถือที่ถูกเลือกมาเปิดตัวในงานนี้ จึงต้องสอด
คล้องกับฐานลูกค้าเป้าหมายหลักของไทย
"กลุ่มวัยรุ่นในเอเชียที่มีอายุระหว่าง 15-29 ปี มีความชื่นชอบใน brand
ของโนเกียมากกว่า 50% สำหรับในไทย 80% ของลูกค้าที่ชื่นชอบตราสินค้าของโนเกีย
เป็นกลุ่มวัยรุ่น" ไทเลอร์ แมคกี รองประธาน ฝ่ายขายโนเกีย โมบายโฟนส์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก
บอกถึงผลสำรวจที่มีผลต่องานของโนเกียในค่ำคืนนี้
คุณสมบัติการใช้งานที่ครบถ้วน ที่มีอยู่ในเครื่องรุ่น 3200 กล้องถ่ายภาพในตัว
มีระบบ mms วิดีโอสตรีมมิ่ง มีเมนู Instant Chat สามารถออกแบบตกแต่ง และเปลี่ยนหน้ากากได้ด้วยตัวเอง
โดยพิมพ์และวาดภาพจากเครื่องคอมพิวเตอร์ และ print ออกมาเป็นแผ่นกระดาษติดบนตัวเครื่อง
เป็นเครื่องรุ่นแรกที่รองรับกับเทคโนโลยี EDGE ที่ถูกประเดิมลงสู่ตลาด
ผู้บริหารของโนเกียเชื่อว่าเครื่องรุ่นใหม่นี้จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าในกลุ่มวัยรุ่น
ซึ่งเป็นผู้นำ trend การใช้โทรศัพท์มือถือ ลูกค้ากลุ่มนี้จะเข้าใจการใช้งานของมือถือเป็นอย่างดี
จึงต้องการฟังก์ชันครบถ้วน สะท้อนความเป็นตัวตน
"เด็กวัยรุ่นต้องการทุกอย่างในเครื่องเดียว และต้องมีความเท่ และความเก๋
มาเป็นจุดสร้างความแตกต่าง"
รูปแบบและกิจกรรมของงานจึงต้องสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่สถานที่จัดงานที่จัดขึ้นในเต็นท์ขนาด
ยักษ์ ใช้ชื่องานว่า Stand Out
หลังจากอุ่นเครื่องด้วยรูปลักษณ์ภายนอกของเต็นท์ที่แต่งแต้มด้วยศิลปะพ่นสเปรย์
graffiti โดยฝีมือของศิลปินจาก เฮาส์ ออฟ อินดีส์ 5 คน ใช้เวลา 3 วัน วาดลวดลายสไตล์ศิลปะแนวนี้ลงบนผืนผ้าใบด้านนอกของเต็นท์
ที่ต้องหมดสเปรย์ กว่า 2,000 กระป๋อง
1 ทุ่มตรง ประตูด้านหน้าเต็นท์เริ่มต้อนรับผู้สื่อข่าวทั้งจากไทยและในภูมิภาคเอเชีย
รวมทั้งแขกรับเชิญเข้ามาลงทะเบียนด้านหน้า จนกระทั่ง 2 ทุ่มตรง เสียงดนตรีก็ดังขึ้น
พร้อมกับบริกรที่นำถาดออเดิร์ฟ และเครื่องดื่มออกเสิร์ฟเชื้อเชิญผู้คนเข้าสู่ภายในเพื่อสัมผัสกับบรรยากาศของงาน
สองฟากภายในเต็นท์ถูกจำลองเป็นร้านค้าริมถนน โดยมีพื้นที่กันไว้เพื่อสาธิตฟังก์ชันของโทรศัพท์มือถือ
"คืนนี้เราจะได้สัมผัสกับ trend ใหม่ เพื่อเข้าถึงตัวตนและวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ในเมืองใหญ่
บรรยากาศในคืนนี้ เป็นการสะท้อนถึงความพยายามของโนเกีย ที่จะตอบสนองคนรุ่นใหม่
ซึ่งเป็นกลุ่มที่เปิดรับและใช้งานเทคโนโลยีใหม่ๆ มากกว่าคนรุ่นก่อน และเป็นกลุ่มที่สร้าง
trend ใหม่ๆ ในตลาดด้วย"
หลังจากสิ้นสุดการแถลงข่าวบนเวที ซึ่งใช้เวลาสั้นๆ จากนั้นเป็นช่วงเวลาของงานปาร์ตี้
ทันทีที่เสียงกระหึ่มของดนตรี แนวเต้นรำ บรรดานักเต้นก็เริ่มวาดลวดลาย
บริเวณกลางเต็นท์ ถูกจำลองประหนึ่งเป็นท้องถนนหรือ hip street มีไว้ให้แขกรับเชิญที่มาในงานออกมาวาดลวดลาย
ดื่ม กิน โชว์การเต้นแบบผาดโผนอย่างต่อเนื่องจนถึงกลางดึก
แขกรับเชิญเกือบ 300 คนที่มาในงาน มีทั้งดาราไฮโซรุ่นใหม่ แต่ที่เน้นเป็นพิเศษเห็นจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ชื่นชอบ
ดนตรี และคลั่งไคล้กีฬาผาดโผนที่ทยอยกันมาตั้งแต่ช่วงค่ำจนถึงดึก
งานในค่ำคืนนั้นจบลง ไม่ว่าพวกเขาเหล่านี้จะเป็นลูกค้าของโนเกียรุ่น 3200
หรือไม่ก็ตาม แต่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การตลาด การรักษาตราสินค้า และส่วนแบ่งตลาดมากกว่า
60% ของโนเกียที่มีอยู่ในตลาดโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น คนรุ่นใหม่
ถือเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อแนวโน้มการใช้โทรศัพท์มือถือในเวลานี้
ตลาดโทรศัพท์มือถือของไทยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ที่คาดว่าจะมีอยู่ถึง 1-2
ล้านเลขหมายในปีนี้ หรือ 24-25 ล้านเลขหมาย ของทั้งตลาดในเวลานี้ได้กลายเป็นตัวเลขที่เย้ายวน
ให้ผู้ผลิตเกือบทุกค่าย หันมาให้ความสำคัญกับตลาดของไทย เป็นลำดับรองจากจีน
ไต้หวัน
ในช่วงปลายปีนี้ ก็จะเป็นช่วงที่ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือทุกค่าย จะขนเครื่อง
รุ่นใหม่ๆ มาเปิดตัวกันอย่างเต็มที่
"เอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดสำคัญมาก การเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีความหลากหลาย
ในขณะที่อินเดียต้องการเครื่องไม่แพง แต่ไทยกำลังไปที่ mms และ EDGE จะเป็นเทคโนโลยีที่มาแรง"
ดังนั้น นอกจากรุ่น 3200 แล้ว เครื่องรุ่น N-Gage สำหรับตลาดเกมโนเกียรุ่น
6220 จะเป็นเทคโนโลยี EDGE รุ่นที่สอง ที่วางตลาดใกล้ๆ กับโนเกียรุ่น 1100
จอขาวดำ จะเป็น 4 รุ่นที่จะทยอยวางตลาดไปจนถึงสิ้นปี เพื่อตอบสนองความหลากหลายของกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างของโนเกียที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ
นี้