ยามเย็นบริเวณลานปรีดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มักจะหนาแน่นไปด้วยรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ
ซึ่งเป็นภาพที่ชินตาสำหรับนักศึกษาหรือประชาชนทั่วไป แต่ทว่าในเย็นวันที่
16 กันยายน ที่จอดรถรอบตึกโดมกลับเต็มไปด้วยรถยนต์คันใหญ่ ยี่ห้อหรู ราคาเรือนล้านของบรรดาศิษย์เก่าของธรรมศาสตร์
และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกสิกรไทย
ห้องประชุมสัญญา ธรรมศักดิ์ ชั้น 2 ของตึกโดม ถูกใช้เป็นสถานที่แถลงข่าว
"โครงการบัตรเครดิตธรรมศาสตร์" คับคั่งไปด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากธนาคารกสิกรไทย
นำโดยเดวิด ลี เฮนดริกซ์ และบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคมจากหลากหลายวงการที่พร้อมเพรียงมาร่วมงานนี้ในฐานะลูกแม่โดม
เช่น อนันต์ อนันตกูล ชนะ รุ่งแสง ฯลฯ
โครงการนี้เป็นความริเริ่มของสำนักศิษย์เก่าสัมพันธ์ มธ. โดยมีธนาคารกสิกรไทยในบทบาทพันธมิตรที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังมีศิษย์ปัจจุบันซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงนางสาวไทยปีล่าสุด มาร่วมสร้างสีสันให้กับงานเปิดตัวในคืนนี้
สำหรับสำนักงานศิษย์เก่าสัมพันธ์ โครงการบัตรเครดิตธรรมศาสตร์ ถือเป็นโครงการสำคัญโครงการหนึ่งที่จัดขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ
70 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ก็เพื่อระดมทุนในการพัฒนาการศึกษาและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เพราะทุกๆ บาทที่ผู้ถือบัตรใช้จ่ายผ่านบัตรนี้จะถูกบริจาคให้กับมหาวิทยาลัย
ในอัตราก้าวหน้า ซึ่งมีช่วงอยู่ระหว่าง 0.35-0.5% ของยอดใช้จ่าย
ส่วนศิษย์เก่าหรือบุคลากรของธรรมศาสตร์ที่ใช้จ่ายผ่านบัตรนี้ นอกจากจะได้ร่วมบริจาคเงินให้กับสถาบันอันเป็นที่รักแล้ว
ยังอาจจะได้รับความรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของรั้วโดม และได้หล่อเลี้ยง
"เลือดเหลืองแดง" ในใจให้ไหลเวียนอย่างสม่ำเสมอ สมดั่งเพลง "โดมในดวงใจ"
ซึ่งถูกคัดเลือกมาขับร้องประสานเสียงในงานเปิดตัวครั้งนี้
ขณะที่ธนาคารกสิกรไทย โครงการบัตรเครดิตธรรมศาสตร์ ถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดในการขยายฐานเพื่อสร้างรายได้ให้กับธนาคาร
และเป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้ธนาคารสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพได้
อย่างไรก็ดี กลยุทธ์เช่นนี้กสิกรไทยเคยใช้มาแล้วเมื่อปีที่แล้ว โดยการออกบัตรร่วมกับสมาคมศิษย์เก่า
คณะเซนต์คาเบรียล หรือ CGA ในการออก CGA-TFB Visa Card
ขณะเดียวกันกิจกรรมนี้ยังถือเป็นกิจกรรมต่อเนื่องในการตอกย้ำภาพลักษณ์
"ธนาคารเพื่อสังคม" ของกสิกรไทยได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นกลยุทธ์ image management
ที่กสิกรไทยได้เคยใช้มาก่อนแล้วเมื่อปลายปี 2001 โดยร่วมกับสภากาชาด ไทยในการออกบัตรเครดิตให้แก่ผู้บริจาคโลหิต
นอกจากนี้ยังมีโครงการ "ช่วยหนูและช้างด้วย" กลางปี 2003 ซึ่งยิ่งช่วยทำให้ภาพลักษณ์ด้านนี้ของธนาคารชัดเจนมากขึ้น
ภายใต้กฎเหล็กของแบงก์ชาติ และความรุนแรงในการแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดบัตรเครดิตของธนาคารไทย
ที่ต่างก็มุ่งพัฒนากลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ เพื่อต่อสู้กับคู่แข่ง สุดท้ายนางสาวไทยในเวทีแห่งนี้คงจะหนีไม่พ้นกลยุทธ์การตลาด
ที่สามารถตอบสนองความพึงพอใจของหลายฝ่าย