L.P.N. ชูแนวทาง CESR สร้าง 'ชุมชนน่าอยู่'


ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(28 กันยายน 2552)



กลับสู่หน้าหลัก

ในวงการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะแนวตึกสูงที่เป็นอาคารชุดที่พักอาศัย หรือคอนโดมิเนียมที่ขึ้นต้นชื่อโครงการด้วยคำว่า 'ลุมพินี' หรือ L.P.N. ย่อมเป็นที่รู้จักและมองเห็นโดดเด่นในหลายย่านของกรุงเทพฯ

กล่าวได้ว่าเป็นกิจการที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอด 20 ปีที่ผ่านมา และกิจการเติบโตอย่างสม่ำเสมอยั่งยืน

พิเชษฐ ศุภกิจจานุสันต์ กรรมการบริหาร ยืนยันหนักแน่นว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการทำธุรกิจ ความรับผิดชอบต่อฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

'โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีการก่อสร้างอาคาร ยิ่งมีขนาดใหญ่ก็ยิ่งมีโอกาสสร้างผลกระทบต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมมากกว่าหลายธุรกิจ'

แนวคิดเรื่อง CSR หรือความรับผิดชอบต่อสังคมนั้น พิเชษฐบอกว่า คณะกรรมการและผู้บริหาร แอล.พี.เอ็น. มีจิตสำนึกเรื่องนี้มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทเพื่อเน้นการให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดี ที่แอล.พี.เอ็น.จึงเพิ่มตัว E (Environment) กลายเป็น CESR ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม (Corporate Environment and Social Responsibility)

แนวความคิดนี้กำหนดเป็นยุทธศาสตร์ หรือกลยุทธ์องค์กรในการบริหารธุรกิจซึ่งกำหนดหลักการ 3 ข้อ คือ ความรับผิดชอบ (Responsibility) การแบ่งปัน (Sharing) และการสร้างเครือข่ายความมีส่วนร่วม (Networking) โดยจิตสำนึกความรับผิดชอบนั้นเป็นการเริ่มต้นจากตนเอง ซึ่งหมายถึงตระหนักในกระบวนการทำธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ (CSR-in-Process)จากนั้นจึงแบ่งปันสู่สังคมภายนอก(CSR-After-Process) โดยความร่วมมือจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม เช่น พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า ฯลฯ

แนวคิดดังกล่าวจึงส่งผลไปสู่แนวทางการปฏิบัติของทุกส่วนในองค์กร และเป็นที่มาของนโยบายการบริหารจัดการชุมชนที่บริษัทมุ่งพัฒนาให้ทุกโครงการเป็น 'ชุมชนน่าอยู่' ของสังคม

ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ

1)ช่วงเริ่มพัฒนาโครงการ นับตั้งแต่การเลือกทำเลในการพัฒนาโครงการที่ยังขาดแคลนที่พักอาศัยที่มีคุณภาพ ใกล้สถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ การออกแบบและการกำหนดราคาเพื่อตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยที่สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น มีการเพิ่มเติมสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นความจำเป็นพื้นฐานเข้าไปภายในโครงการ ส่งผลให้การดำเนินชีวิตสมบูรณ์แบบมากขึ้น ช่วยลดการเดินทาง ลดการใช้พลังงาน และแก้ปัญหาการจราจร ทั้งยังมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น

การพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ 'ลุมพินี คอนโดทาวน์' ซึ่งมุ่งสร้างที่อยู่อาศัยหลังแรกให้กับคนในสังคมเมือง จึงกำหนดราคาขายเริ่มต้นเพียง 7 แสนบาทเศษ โดยมีการบริหารชุมชนที่เน้นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและยังมีแผนที่จะพัฒนาโครงการในลักษณะนี้ในพื้นที่ที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังเลือกใช้วัสดุทดแทนเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้วัสดุจากธรรมชาติซึ่งเป็นการทำลายสภาพแวดล้อมโดยรวม ขนาดของชิ้นส่วนต่างๆ ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับมาตรฐานอุตสาหกรรมเพื่อลดเศษวัสดุที่จะเป็นขยะให้น้อยที่สุด รวมถึงการออกแบบที่คำนึงถึงการประหยัดพลังงานและง่ายต่อการบำรุงรักษาอาคารในระยะยาว

2)ระหว่างการก่อสร้าง มีการปฏิบัติตามแนวทางในรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด เริ่มตั้งแต่การดูแลผลกระทบต่ออาคารหรือชุมชนข้างเคียง ทั้งเรื่องเสียง ฝุ่นละออง การจราจร โดยการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา ต้องทำความสะอาดของล้อรถขนส่งวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างขณะออกจากหน่วยงานก่อสร้าง เพื่อลดความเสียหายของผิวจราจร

มีการรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและลดผลกระทบจากการก่อสร้าง

โดยได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัทคอยดูแลและติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด และควบคุมดูแลให้ผู้รับเหมาก่อสร้างที่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและลดผลกระทบจากการก่อสร้างตามที่ระบุในรายงานดังกล่าว

3)หลังพัฒนาโครงการ เมื่อส่งมอบโครงการและห้องชุดให้กับลูกค้าแล้ว มีการจัดตั้งฝ่ายบริหารชุมชนให้มีมาตรฐานคุณภาพชีวิตที่เหมาะสมตามแนวทาง 'ชุมชนน่าอยู่' ซึ่งไม่เพียงเป็นการบำรุงดูแลรักษาให้อุปกรณ์และทรัพย์สินต่างๆ เกิดความพร้อมและความปลอดภัยในการใช้งานเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการสร้างสังคมที่ดี มีความอบอุ่น ปลอดภัย และให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมภายในโครงการอย่างจริงจังและสม่ำเสมอ

มีการนำแนวคิด Green Clean Lean มาปรับใช้พร้อมรณรงค์ให้ผู้อยู่อาศัยในชุมชนร่วมดำเนินการอย่างจริงจัง เช่น การรณรงค์ให้ผู้อยู่อาศัยร่วมคัดแยกขยะ เพื่อนำขยะบางส่วนเข้ากระบวนการ Recycle หรือนำกลับมาใช้ใหม่ หรือการนำน้ำจากบ่อบำบัดกลับมารดน้ำต้นไม้การรณรงค์ให้ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก การลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในอาคารตามแนวทางการอนุรักษ์พลังงาน เป็นต้น

นอกจากนี้ แอล.พี.เอ็น.ยังให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ของคนงานก่อสร้าง โดยกำหนดมาตรฐานในการทำงานเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ทั้งยังกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานของคนงานและบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังจัดเตรียมที่อยู่อาศัยที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี คำนึงถึงคุณภาพชีวิตของคนในครอบครัว และการสร้างเสริมสุขภาพโดยกำหนดให้มีการออกกำลังกายทุกเช้า

แนวทางการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม

* สังคมภายในองค์กร

พนักงานทุกระดับ ได้รับการดูแลด้านคุณภาพชีวิต มีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ส่งเสริมบรรยากาศการทำงานเพื่อนำไปสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ และความก้าวหน้าในสายอาชีพส่งเสริมความสมดุลในการใช้ชีวิต (Work Life Balance) ทั้งการทำงานและชีวิตส่วนตัว พร้อมกันนี้ ปลูกฝังวิธีการทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข ด้วยการแบ่งปัน เกื้อกูล เอื้ออาทร เสมือนหนึ่งครอบครัวเดียวกัน ภายใต้วัฒนธรรมและค่านิยมองค์กร (Core Value) ซึ่งได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังจัดให้มีกิจกรรมภายในเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีร่วมกันตั้งแต่ระดับคณะกรรมการไปจนถึงพนักงาน โดยผ่านช่องทางการสื่อสารภายในองค์กร และการสนับสนุนให้เกิดความมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมต่างๆ ทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อส่งเสริมและปลูกฝังจิตสำนึกในการทำความดี

* สังคมภายในชุมชนของโครงการ L.P.N.

กลยุทธ์ในการบริหารชุมชนในรูปแบบของ 'ชุมชนน่าอยู่' ที่บริษัทมุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพชีวิตภายใต้สังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดี มีความปลอดภัยอย่างสูง และส่งเสริมให้มีกิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีร่วมกันภายในครอบครัวและระหว่างกลุ่มสมาชิก 'ลุมพินี' ทั้งยังสนับสนุนให้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและการร่วมในกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ทั้งภายในโครงการและขยายไปสู่สังคมภายนอกอีกด้วย

เครือข่ายสังคมภายใน เช่น การร่วมเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ การร่วมฟื้นฟูและพัฒนาโรงเรียน 9 แห่ง ในจังหวัดอยุธยาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ การร่วมในกิจกรรมอ่านหนังสือเสียงให้แก่ผู้พิการทางสายตา การจัดกิจกรรม 'วันครอบครัว' ภายในโครงการ หรือการร่วมในกิจกรรมตามวัฒนธรรมและประเพณีที่ดีงามต่างๆ

* สังคมภายนอก

บริษัทได้ให้ความสำคัญกับชุมชนรอบโครงการในรัศมี 1 กิโลเมตร เป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากอาจได้รับผลกระทบจากการพัฒนาโครงการของบริษัท โดยจัดทีมงานของผู้บริหารระดับสูง เข้าเยี่ยมเยียนและสอบถามถึงผลกระทบอย่างต่อเนื่องพร้อมพัฒนากระบวนการภายในเพื่อป้องกันหรือลดผลกระทบที่อาจมีต่อชุมชนรอบข้าง

การแบ่งปัน (Sharing)

หลักการสำคัญอีกข้อ ซึ่งมีหัวใจสำคัญมาจากคำสอนของทุกศาสนา นั่นคือ การให้ หรือ การแบ่งปัน ซึ่งบริษัทได้ยึดถือเป็นหลักสำคัญในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมมาโดยตลอด โดยเริ่มจากภายในองค์กรเองเป็นศูนย์กลาง แล้วจึงขยายต่อไปยังชุมชนและสังคมในระดับที่ใหญ่ขึ้นตามนโยบายสร้างความสมดุล ซึ่งไม่ได้มุ่งเพียงสร้างผลกำไรสูงสุดให้แก่ธุรกิจ แต่ยังนำผลกำไรบางส่วนที่ได้นั้นคืนกลับสู่ลูกค้าและสังคม อันได้แก่ ชุมชนโดยรอบโครงการที่บริษัทได้พัฒนาขึ้น และรวมไปถึงประชาชนกลุ่มอื่นที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของจุดเริ่มต้นที่ร่วมสร้างและผลักดันสังคมโดยรวมให้แข็งแกร่งขึ้น และร่วมสร้างจิตสำนึกในการทำประโยชน์เพื่อผู้อื่นให้ขยายวงกว้างต่อไป โดยแบ่งประเภทกิจกรรมที่ดำเนินการแล้วได้ดังนี้ คือ

- กิจกรรมเพื่อเยาวชน
- กิจกรรมด้านสาธารณสุขและการแพทย์
- กิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม
- กิจกรรมรณรงค์และปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์พลังงาน
- กิจกรรมด้านศาสนา
- การส่งเสริมการทำความดี
- การสร้างความรู้ความเข้าใจที่ดีด้านการอยู่อาศัยในอาคารชุด

การสร้างเครือข่ายความมีส่วนร่วม (Social Network)

ในทุกๆ โครงการที่พัฒนาขึ้น L.P.N.จะเป็นผู้ประสานให้ชุมชนต่างๆ เกิดความรู้สึกร่วมถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับชุมชนดั้งเดิมและดำเนินแนวทางร่วมกันที่จะนำมาซึ่งความสุขของสังคมโดยรวม ทั้งยังเข้าไปมีส่วนร่วมในการจุดประกายความคิด ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและสังคมของชุมชนนั้นให้ดีขึ้น

ข้อคิด

บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) นับเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นกิจการตัวอย่างที่เป็นองค์กรที่เก่งและดี พร้อมกับการมีกิจกรรมช่วยเหลือสังคม ตามหลัก CSR ที่สมบูรณ์แบบโดยที่นี่เรียกว่า CESR เพื่อย้ำให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อม

ดูจากโครงสร้างคณะกรรมการซึ่งมีกรรมการอิสระถึง 7 คน ทั้งๆ ที่ตามกฎกติกามีไม่น้อยกว่า 3 และจากการที่ได้พูดคุยกับคุณพิเชษฐ ศุภกิจจานุสันต์ กรรมการบริหาร ที่มีความเข้าใจต่อหลักและแนวปฏิบัติของการบริหารด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างมีจิตสำนึกที่ดีมาก

ความที่ผู้บริหารซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งมาจนปัจจุบันถือหุ้นส่วนน้อยราว 10% โดยมีกองทุนต่างชาติ ถือ 40% สถาบันในประเทศ ถือ 20% รายย่อย 20% โดย 80% เป็นหุ้นที่ซื้อขายในตลาด จึงกล่าวได้ว่าเป็นบริษัทมหาชนที่บริหารโดยมืออาชีพจริงๆ

การที่ผู้บริหารมีจิตอาสาที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยสามารถสร้างความสมดุลต่อการดำเนินธุรกิจท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้นได้อย่างมีผลประกอบการที่ดีต่อเนื่องอย่างยั่งยืน เป็นการพิสูจน์ความเก่งและดีของกิจการที่น่าศึกษาเป็นตัวอย่าง


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.