|
KHยันปีนี้เติบโตต่อเนื่องระดับ10-15% เหตุผู้ป่วยเพิ่มเน้นลดต้นทุนฟุ้งQ3เจ๋ง
ASTVผู้จัดการรายวัน(21 กันยายน 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
บางกอก เชน ฮอสปิทอล ยันปีนี้รายได้โตระดับ 10-15% จากปี51 ที่ทำไว้ 4,200 ล้านบาท มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังดี ชี้ไตรมาส 3 พีคสุด เหตุเข้าสู่หน้าหนาวโรคภัยระบาดอีกทั้งผลดีจากการบริหารต้นทุนให้ต่ำรวมทั้งผู้ป่วยเพิ่มสูง เบรกแผนสร้างโรงพยาบาลที่พัทยาหลังเศรษฐกิจชะลอ เดินหน้าผุดแห่งใหม่บนถนนแจ้งวัฒนะ ใช้งบ 1,400 ล้านบาท คาดเปิดบริการช้าสุดปี 55 เผยการเข้าลงทุน
นายแพทย์เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด ( มหาชน ) ( KH ) ผู้ให้บริการภายใต้ชื่อ "โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ " เปิดเผยว่าปีนี้บริษัทยังคงตั้งเป้าการเติบโตไว้ระดับ 10-15% จากปี 51 ที่ทำรายได้ไว้กว่า 4,200 ล้านบาท อันเป็นผลจากจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะจำนวนผู้ประกันตนเพิ่มสูง และรายได้จากกอง ทุนประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพิ่มขึ้น รวมทั้งการเปิดศูนย์การแพทย์เฉพาะทางเพิ่ม ส่งผลต่อการดำเนินงานให้บริษัทเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทยังมีส่วนของกำไรสุทธที่เพิ่มขึ้นด้วย อันเป็นผลจากการรายได้เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนในการบริหารลดลง ส่งผลให้บริษัทมีผลงานที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งผลงานไตรมาส 2 ปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิ 168.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 144.42 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 24.42 ล้านบาท เนื่องจากรายได้รวมเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนอันเป็นผลจากรายได้จากผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกทาง ทั้งผู้ป่วยเงินสด รายได้จากกองทุนประกันสังคมและรายได้จากกองทุนประกันสุขภาพถ้วนหน้า
" ผลงานครึ่งแรกปี 52 พบว่าไตรมาสแรกปีนี้เติบโตจากไตรมาสแรกปี 51 ถึง 13% ส่วนไตรมาส 2 โตจากปี 51 ถึง 12% เนื่องจากมีวันหยุดยาวหลายวันทำให้ และส่วนหนึ่งของผลงานที่เติบโตมมจากการบริหารต้นทุน เช่นจะซื้อยาเราก็ซื้อยาแบบล็อตใหญ่ เพื่อใช้กับโรงพยาบาลในเครือทั้งหมด รวมทั้งการใช้อุปกรณ์บางอย่างที่เกื้อหนุนกันได้เราก็ทำเพื่อบริหารต้นทุนให้ต่ำลง ซึ่งเราทำมาต่อเนื่อง และเห็นผลชัดเจน สองไตรมาสแรกเรายังไม่ดีมากนักเพราะวันหยุดเยอะแต่ครึ่งปีหลังเป็นช่วงพีคของเราด้วย โดยเฉพาะไตรมาส 3 นี้น่าจะเห็นตัวเลขที่ดี "
ปัจจุบัน KH มีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น โดยขณะนี้มีผู้ป่วยในระบบประกันสังคมเพิ่มจาก 5.2 แสนคนเป็น 5.5แสนคน ขณะที่ผู้ป่วยในระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า (30 บาทรักษาทุกโรค) นั้นมีประมาณ 4 แสนคน ซึ่งค่ารักษาพยาบาลต่อหัวของระบบประกันสังคมในขณะนี้รัฐบาลได้เพิ่มเงินค่าใช้จ่ายจาก 1,306 บาท เป็น 1,418 บาท และกำลังจะปรับเพิ่มขึ้นอีก 1,481 บาทและอาจเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ขณะที่ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าจะคิดอัตราค่าบริการต่อหัวอยู่ที่ 2,401 บาท ซึ่งผู้ป่วยประกันสังคมนั้น บริษัทจะรับเฉพาะในกรุงเทพมหานครเท่านั้น ส่วนต่างจังหวัดจะไม่เปิดให้บริการ
นายแพทย์เฉลิมกล่าวถึงแผนการก่อสร้างโรงพยาบาลอีกหนึ่งแห่งที่พัทยาและบนถนนแจ้งวัฒนะภายใต้ชื่อ KH INTERNATIONAL HOSPITAL ว่าขณะนี้ได้เน้นการก่อสร้างโรงพยาบาลที่แจ้งวัฒนะให้แล้วเสร็จก่อน เพราะโครงการก่อสร้างต่าง ๆ เริ่มผุดขึ้นมาก ส่งผลให้ประชาชนเริ่มขยายวงกว้างออกสู่นอกเมืองมากขึ้นและแจ้งวัฒนะอยู่ในโซนจังหวัดนนทบุรี จึงเชื่อว่าโรงพยาบาลแห่งนี้จะรองรับประชาชนในแถบดังกล่าว
" เราอยู่ระหว่างรอผลว่าจะผ่านการตรวจสอบของคณะกรรมการและแผนสิ่งแวดล้อม หรือ EIA เพราะเราถูกดตีกลับมาแล้ว 2 ครั้ง แต่เชื่อว่าเดือนกันยานี้ทุกอย่างน่าจะจบและเริ่มวางเสาเข็มลุยสร้างตามแผนได้ ซึ่งงานก่อสร้างจะเริ่มปลายปี 52 แต่กว่าจะเสร็จและเปิดให้บริการได้น่าจะปี 54 หรือปี 55 เราไม่เร่ง เศรษฐกิจแบบนี้ด้วย "
ขณะแผนโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลที่พัทยานั้นชะลอไว้ก่อนเพราะมองว่าเศรษฐกิจไม่เอื้อนัก ประกอบกันนักท่องเที่ยวลดลงหลังจากเกิดโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ระบาด เมื่อเทียบกับแจ้งวัฒนะแล้วควรชะลอไว้ก่อน และเป้าหมายของโรงพยาบาลแห่งใหม่เพื่อรองรับลูกค้าระดับสูงหวังสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการบริการเพราะโรงพยาบาลแห่งใหม่จะใช้งบลงทุน 1,400 ล้านบาท ขนาด 330 เตียง
สำหรับเงินที่ใช้ลงทุนจะใช้จากเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานและบางส่วนจากการกู้ยืมสถาบันการเงินหรืออาจออกหุ้นกู้ ซึ่งต้องประเมินความเหมาะสมในการหาเงินทุนในช่วงนั้นด้วย
นายแพทย์เฉลิมกล่าวต่อว่านอกจากการผุดโรงพยาบาลแห่งใหม่เพิ่มแล้ว บริษัทยังมองหาทำเลและเปิดให้บริการคลี
นิคในหลายแห่งเพื่อให้บริการกับลูกค้าอย่างทั่วถึง รวมทั้งการขยายธุรกิจในลักษณะของการควบรวมกิจการ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรหลายรายแต่ยังไม่สรุป ซึ่งกรณีการควบรวมกิจการจะมองโรงพยาบาลขนาดกลาง ที่มีศักยภาพและฐานธุรกิจมีผู้ป่วยใช้บริการสูงเพื่อเกื้อหนุนต่อการทำธุรกิจร่วมกัน ผลงานแม้จะขาดทุนแต่หากมีสิ่งเหล่านี้แล้ว เชื่อว่าอนาคตจะส่งผลดีต่อการดำเนินงานร่วมกัน
" เราจะเข้าไปลักษณะของการเป็นพันธมิตร เพื่อทำในสิ่งที่มีอยู่แล้วเพราะจะให้ผลตอบแทนเร็วกว่าและไม่ต้องลงทุนมาก เรามองขนาดกลางไว้ และต้องไม่มีหนี้สินรุงรัง หรือแม้ผลงานอาจขาดทุนแต่หากมีศักยภาพ เราก็พร้อมเข้าร่วม ซึ่งปกติ KH จะมีงบลงทุนไว้ปีละ 200 ล้านบาท เพื่อพัฒนาและบริหารส่วนการให้บริกรร ระบบซอร์ฟแวร์ และเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อให้ทันสมัยและต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า "
ล่าสุด บริษัทเพิ่งเพิ่มทุนจดทะเบียนใหม่ 712.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) ละ 1 บาท ส่งผลให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มจาก 950 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 1,662.50 ล้านบาท การเพิ่มทุนดังกล่าวเพื่อรองรับการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทในอัตรา 4 หุ้นเดิมต่อ 3 หุ้นปันผลหรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 0.75 บาทต่อหุ้น และจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.10 บาทคิดเป็นการจ่ายปันผลอัตราหุ้นละ 0.85 บาท ซึ่้งกำหนดจ่ายวันที่ 15 ตุลาคมนี้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|