|
อีลิทปลดคน29%รวม2บิ๊ก ยิ่งขุดยิ่งเจอโครงการทุจริต
ASTVผู้จัดการรายวัน(9 กันยายน 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
บอร์ดทีพีซีปรับแผนลดจำนวนพนักงาน หันใช้วิธีจิ้มออก 26 ตำแหน่งใช้งบ 10 ล้านบาท จากเดิมจะใช้วิธีให้ออกและเออรี่รีไทร์ เน้นแผนกฝ่ายขายและการตลาด อ้างเหตุตอนนี้ไม่มีงานต้องทำ ถูกสั่งงดทำธุรกิจชั่วคราว
ด้านผลคืบหน้าตรวจสอบโครงการจัดซื้อจัดจ้าง น้ำลดตอผุดอีกหลายโครงการใหม่ที่ส่ออทุจริต คาด 2 สัปดาห์รู้ผล “ชุมพล” ลั่นเดือนนี้ชงยุบไม่ยุบอีลิทเข้าครม.
นายธงชัย ศรีดามา รองอธิบดีกรมทางหลวง ในฐานะประธานคณะกรรมการ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด (ทีพีซี) ผู้ดำเนินโครงการบัตรไทยแลนด์ อีลิท การ์ด เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการทีพีซี(บอร์ด) ตามที่นายอุดม เมธาธำรงค์ศิริ รักษาการผู้จัดการใหญ่ ทีพีซี ได้เสนอให้มีการปรับลดพนักงานลงจำนวน 26 ตำแหน่ง คิดเป็น 29% ของพนักงานทั้งหมด ในที่นี้จะนับรวมรองผู้จัดการใหญ่ 2 ตำแหน่งด้วย รวมวงเงินที่จะต้องจ่ายชดเชย 10 ล้านบาท เท่ากับการปรับลดอัตรากำลังคนในครั้งแรก ซึ่งนับจากนี้ไปอีก 7-15 วัน ทางทีพีซีจะต้องไปดำเนินการให้แล้วเสร็จ
เบื้องต้น นายอุดม เสนอว่า จะใช้วิธีเจรจากับผู้ที่ถูกคัดเลือก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบุคคลากรในฝ่ายการตลาดและฝ่ายขาย ให้ยื่นใบลาออกเอง โดยทางบริษัทจะจ่ายเงินชดเชยเต็มจำนวนตามกฎหมาย เพื่อผู้ถูกออกจะได้ไม่เสียประวัติการทำงาน ซึ่งหากตกลงก็จะดำเนินการโดยใช้เวลาภายใน 1 เดือนถัดไปต้องแล้วเสร็จหมด ส่วนผู้ที่ไม่ตกลง ก็จะต้องเข้าสู่อีกกระบวนการหนึ่ง คือ ให้ออก
“มติปรับลดพนักงานเพียงอย่างเดียว 26 ตำแหน่งเป็นเรื่องใหม่ ที่ออกมาแทนมติเดิมที่ที่บอร์ดอนุมัติให้มีการปรับลดพนักงาน 10 ตำแหน่ง และเออรี่รีไทร์อีก 15 ตำแหน่ง โดยการเออรี่รีไทน์จะยกเลิกไปก่อน รอว่าหากมีความเหมาะสมที่จะต้องลดพนักงานเพิ่มอีกอาจนำกลับมาพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งจำนวนพนักงานที่ปรับลดในครั้งนี้จะช่วยให้ทีพีซีประหยัดค่าจ้างพนักงานได้เดือนละ 1.4 ล้านบาท” นายธงชัยกล่าว
ส่วนเหตุที่เลือกปรับลดในฝ่ายขายและการตลาดเพราะ ตั้งแต่นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวมีคำสั่งให้ ทีพีซีหยุดดำเนินธุรกิจเป็นการชั่วคราว ทำให้ทั้ง 2 แผนกไม่มีงานที่จะต้องขายบัตรสมาชิกทำให้มีบุคคลากรมากเกินควร
อย่างไรก็ตาม พนักงานใน 2 แผนดังกล่าวที่ยังเหลืออยู่ จะถูกโยกย้ายไปช่วยงานในฝ่ายบริการลูกค้า และสิทธิประโยชน์สมาชิก ซึ่งยังขาดอัตรากำลังอีกมาก ตรงนี้ก็จะเข้าไปช่วยเสริมได้ ปัจจุบันทีพีซีมีพนักงาน 82 ตำแหน่ง และลูกจ้างประจำ 47 คน รวม 129 คน หลังปรับลดจะเหลือพนักงาน 56 ตำแหน่ง และลูกจ้างประจำ 47 คน
นายธงชัย กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังมีมติ ให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการจัดซื้อจัดจ้าง ที่พบว่ามีการทำสัญญาที่ไมเป็นธรรมแก่บริษัท และถูกเอกชนเอาเปรียบเทียบ ซึ่งผลจากการตรวจสอบพบว่า มีเพิ่มอีก 2 โครงการที่พบพิรุธส่อทุจริต เช่น โครงการสุวรรณภูมิพรีเมียม ให้บริการลูกค้าวีไอพีของสายการบิน
ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการตรวจสอบรวบรวมข้อมูลโครงการไว้หมดแล้ว คาดใช้เวลา 2 สัปดาห์ เพื่อสอบข้อเท็จจริงให้เรียบร้อย ซึ่งหากพบมูลความผิด จะดำเนินการเอาผิดทางวินัยต่อไป ซึ่งแม้ว่า คนที่ถูกเอาผิด จะร่วมโครงการสมัครใจออก บริษัทก็ชะลอการให้ออกได้ โดยใช้วิธียังไม่ลงนามในเอกสารอนุมัติให้ออก เพื่อจะได้อยู่รับผิดทางวินัย
ส่วน 2 โครงการที่เคยเป็นข่าวไปแล้ว เช่น โครงการสัญญาเช่าระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ทำไว้กับบริษัท แอ๊ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี หรือเอไอที และ โครงการสัญญาเช่าพื้นที่โฆษณาในสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ทำไว้กับ บริษัท เจซีเดอโก(ประเทศไทย) อยู่ระหว่างดำเนินการ
ล่าสุด นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แจ้งมายังบอร์ดทีพีซีแล้วว่า ภายในเดือนนี้จะนำเสนอเรื่องการพิจารณาอีลิทการ์ดเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ให้พิจารณาชี้ขาดว่าจะดำเนินการอย่างไรกับทีพีซีต่อไป โดยขณะนี้นายุมพลได้สั่งให้ ททท.ในฐานะผู้ถือหุ้น 100% และ บริษัททีพีซี ดำเนินการรวบรวมรายละเอียดทั้งหมดมาเสนออีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์ โดยให้ระบุถึงขั้นตอนและระยะเวลาการปฎิบัติงานในแต่ละแนวทางที่นอกเหนือข้อดี ข้อเสีย ของแต่ละแนวทาง เพื่อให้นายชุมพล ใช้เป็นข้อมูลที่จะนำไปหารือกันต่อในที่ประชุมครมส่วนล่างของฟอร์ม
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|