"คลัง"เล็งลดภาษีบริษัทน้ำมันหนุนยุทธศาสตร์พลังงานชาติ


ผู้จัดการรายวัน(22 กันยายน 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

กระทรวงการคลังเร่งศึกษาแนวทางปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลบริษัทน้ำมัน เตรียมชงเข้าครม.หลังการประชุมสุดยอดผู้นำนี้ ล่าสุดกรมสรรพากรกำลังศึกษารูปแบบการจูงใจด้วยสิทธิประโยชน์ทางภาษี และผลดี-ผลเสียของแต่ละแนว ทางให้กระทรวงการคลังพิจารณา

นายพัฒเดช ธรรมจารีย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าทางด้านการปรับลดภาษีเพื่อการส่งเสริมยุทธศาสตร์พลังงานแห่งชาติให้ประเทศไทยป็นศูนย์กลางการค้าพลังงานในภูมิภาคว่าขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางในการปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลให้กับบริษัทน้ำมัน โดยคาดว่าจะสามารถหาข้อสรุปเพื่อนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาได้หลังการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปก หรือเอเปกซัมมิต ที่จะถึงในเดือนตุลาคมนี้

ขณะที่ แหล่งข่าวจากกรมสรรพากร กล่าวว่าแนวทางในการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลให้กับบริษัทผู้ค้าน้ำมันเพื่อเป็นการจูงใจให้บริษัทเหล่านี้มาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดนั้น น่าจะเป็นการลดภาษีให้กับบริษัทค้าน้ำมันที่ทำธุรกิจการค้าแบบ out-out คือ การนำเข้าน้ำมันดิบมาเพื่อกลั่นเป็นน้ำมันสำเร็จรูปแล้วส่งออกจำหน่าย หรือ โดยการปรับลดภาษีลดลงจาก 30% เป็น 10% เช่นเดียวกับการค้าน้ำมันดิบแบบในตลาดสิงคโปร์

แหล่งข่าวกล่าวว่าปัจจุบันประเทศสิงคโปร์ เป็นประเทศที่มีภาษีต่ำสุด คือ อยู่ที่ระดับ 10% ดังนั้นหากประเทศไทยปรับลดอัตราภาษีลงมาให้เท่ากับ 10% เช่นเดียวกับสิงคโปร์ ถือว่าเป็นการจูงใจบริษัทต่างประเทศมากพอสมควร เพราะแม้ว่าระดับภาษีเท่ากัน แต่ต้นทุนทางการขนส่งต่างๆ ของประเทศไทยต่ำกว่าสิงคโปร์ค่อนข้างมาก ดังนั้น การจะเข้ามาลงทุนในไทยย่อมได้เปรียบกว่า

ทั้งนี้ การปรับลดภาษีดังกล่าวลงเหลือ 0% นั้น จะส่งผลเสีย 2 ประการ คือ ประการแรก ทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียรายได้ค่อนข้างมาก แต่หากรัฐบาลมีนโยบายชัดเจนที่จะจูงใจนักลงทุน ต่างประเทศ และกล้าที่จะยอมสูญเสียรายได้ก็สามารถดำเนินการได้ทันที ประการที่สอง การยกเว้นภาษีเหลือ 0% อาจจะทำให้การเกิดธุรกรรมการฟอกเงินได้ง่ายขึ้น เพราะบริษัทที่ทำการฟอกเงินจะไม่มีต้นทุนการโอนเงินที่เกิดจากภาษีในการสร้างรายการซื้อขาย

"หากบริษัทค้าน้ำมันไม่ต้องเสียภาษีจากการซื้อขายน้ำมัน อาจจะไม่มีการนำเข้าส่งออกน้ำมันจริง แต่สร้างรายการซื้อขายเพื่อให้เกิดการโอนเงิน แต่หากมีการจ่ายภาษีจะทำให้บริษัทต้องได้รับการตรวจสอบที่มาที่ไปของรายได้และการทำธุรกรรมต่างๆ" แหล่งข่าวกล่าว

ล่าสุด กรมสรรพากรกำลังอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการจูงใจด้วยสิทธิประโยชน์ทาง ภาษีในรูปแบบต่างๆ ซึ่งจะมีการเสนอความเห็นในหลายรูปแบบ รวมทั้งผลดีผลเสียของแต่ละแนวทาง ให้กระทรวงการคลังและรัฐบาลพิจารณา หลังจากนั้นรัฐบาลจะเป็นผู้ตัดสินใจเลือกแนวทางใดแนวทางหนึ่งที่เห็นว่าจะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติมากที่สุด

แผนยุทธศาสตร์พลังงานเพื่อการแข่งขันของประเทศไปสู่การเป็นศูนย์กลางการค้า พลังงานในภูมิภาคเอเชียเป็นการประหยัด พลังงานในระยะ 10 ปี คือระหว่างปี พ.ศ 2550- 2560 ที่ระบุเป้าหมายการใช้พลังงานต่อจีดีพี ให้ลดลงจาก 1.4 ต่อ 1 เหลือเป็น 1 ต่อ 1 เพื่อ ให้ไทยประหยัดการใช้พลังงานได้สูงถึง 3.1 ล้านล้านบาท และสามารถลดการใช้พลังงาน ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 12% ของมูลค่าการนำเข้าสินค้าของประเทศ

และในระยะเวลา 6 เดือน จะมีการแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ เพื่อจัดตั้งเขตส่งออกพิเศษเพื่อให้สามารถนำน้ำมันที่กลั่นได้แต่ไม่สามารถขายได้ในประเทศไทย มาผ่านกระบวนการใหม่ โดยให้กระทรวงการคลังผ่อนปรนเรื่องภาษีเพื่อการส่งออกถูกกฎหมาย รวมทั้งแก้กฎหมายต่างๆ ที่ไม่เอื้อต่อการค้าน้ำมัน



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.