ดูเหมือนจะมีคนเป็นจำนวนมากอยากจะให้มาบุญครองเซ็นเตอร์กลายเป็นอนุสรณ์ของศิริชัย
บูลกุล ไปจริง ๆ อย่างน้อยที่สุดก็คงจะเป็นบรรดาเจ้าหนี้ที่ร่วม "สามัคคีบีฑา"
เพื่อขจัดศิริชัยให้พ้นไปจากวงจรของมาบุญครองเสียที
ถึงแม้ศิริชัยจะขายหุ้นในบริษัทมาบุญครองอบพืชและไซโลจนกระทั่งเหลือเพียง
10% ใคร ๆ ก็คงคิดว่าศิริชัย จะต้องถูกเขี่ยกระเด็นแน่ ๆ แต่ปรากฏว่าเขายังคงอยู่และยังเป็นประธานกรรมการเสียด้วย
นับเป็นหนามยอกอกที่เจ้าหนี้ซึ่งเป็นเหล่าธนาคารทั้งหลายซึ่งถือว่าเขี้ยวลากดินทั้งสิ้น
ปวดแสบปวดร้อนมากกระทั่งธนาคารไทยพาณิชย์ที่เชี่ยวชาญในเรื่องการฟันเหล่าลูกหนี้
และมียุทธวิธีชิงลงมือก่อนเป็นกลยุทธหลักก็ยังมิอาจทำร้ายศิริชัยได้กระจะ
ๆ อย่างที่คิดอย่างดีก็แค่กระตุกหนวดให้รู้สึกรำคาญบ้างเท่านั้น
ธนาคารไทยพาณิชย์และบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ธนชาติเป็นหัวหอกหลักในการเล่นงานศิริชัยอย่างไม่ลดละ
ส่วนศิริชัยก็ต่อสู้อย่างไม่ลดราวาศอกเช่นกัน
ล่าสุดเหตุการณ์เมื่อเดือนมีนาคมสร้างความตื่นเต้นแก่ผู้เฝ้าจับตามาบุญครองมากพอสมควร
เกมการถล่มศิริชัยเริ่มรุนแรงและเป็นระบบมากยิ่งขึ้น ดูเหมือนว่าเหล่าเจ้าหนี้จะได้สรุปบทเรียบนความพ่ายแพ้และตกเป็นเบี้ยล่างมาโดยตลอดบ้างแล้ว
ธนาคารไทยพาณิชย์ขอให้ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวให้มาบุญครองนำรายได้
(หักค่าใช้จ่าย) มาเก็บไว้ที่ศาล ซึ่งศาลก็ได้มีคำสั่งไปตั้งแต่เมื่อวันที่
2 กุมภาพันธ์ ซึ่งครบวาระให้ดำเนินการตามคำสั่งเมื่อวันที่ 2 มีนาคม แต่ศิริชัยก็ยังไม่ได้นำเงินมาส่งศาลแต่ประการใด
เย็นวันที่ 3 มีนาคมมีข่าวลือสะพัดว่าจะมีการปิดมาบุญครองเพื่อซ่อมไฟ แต่หลังจากนั้นกลับกลายเป็นว่า
การไฟฟ้าจะตัดไฟศูนย์การค้ามาบุญครองเพราะค้างชำระค่าไฟฟ้าเป็นเงิน 11 ล้านบาท
แต่ศิริชัยก็ไม่ได้ไปชำระค่าไฟฟ้าแต่ประการใด โดยอ้างคำสั่งศาลว่าต้องนำเงินรายได้ไปไว้ที่ศาลตามคำร้องของธนาคารไทยพาณิชย์
นับแต่นั้นมาก็มีการชักกะเย่อกันอย่างถึงพริกถึงขิง มีการขู่ว่าจะตัดไฟเป็นระยะ
ๆ เพื่อยืดเวลาการตัดไฟเช่นกัน นอกจากตัดไฟแล้วก็ยังจะโดนมาตรการตัดน้ำและตัดโทรศัพท์อีกต่างหาก
แต่จนกระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่มีการตัดทั้งน้ำ-ไฟ-โทรศัพท์ตามที่ว่านั้น
หนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับต่างเห็นพ้องต้องกันว่า นี่เป็นกลเม็ดของศิริชัยที่จะดึงมวลชนเข้ามาร่วมเพื่อสร้างความกดดันให้บรรดาเจ้าหนี้ผ่อนคลายมาตรการบีบเค้น
เพราะเมื่อมีการขู่ว่าจะตัดไฟและตัดน้ำก็มีบรรดาผู้เช่าในศูนย์ฯ แสดงความวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด
"ผู้จัดการ" มองว่าเป็นเรื่องของการต่อสู้ของคนที่ไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา
มาบุญครองเปรียบเสมือนเป็นหน้าเป็นตาของศิริชัยและตระกูลบูลกุล เขาคงจะไม่ยอมง่าย
ๆ ที่จะปล่อยแหล่งเงินทองมหาศาลนี้ให้หลุดมือไป
เนื่องจากศิริชัยรู้สึกตัวเองก็เหน็ดเหนื่อยกับศูนย์การค้าแห่งนี้ไปมากแล้ว
ศิริชัยนั้นก็คือศิริชัยวันยังค่ำ เขายังคงเป็นนักสู้ที่ไม่ท้อถอยแม้ว่าศัตรูจะแกร่งปานไหน
ความเป็นคนราศีกรกฎซึ่งเป็นธาตุน้ำของเขาทำให้ปรับตัวตามคู่ต่อสู้ คู่ต่อสู้เขาก็แข็ง
อ่อนเขาก็อ่อน
การต่อสู้ก็ยังคงดำเนินต่อไป จุดหลักยังเป็นการต่อสู้กันทางด้านกฎหมาย
แต่แนวโน้มจะหันเหมาสู่มวลชนที่ทำมาหากินในมาบุญครองมากยิ่งขึ้น งานนี้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เป็นคนที่น่าเห็นใจมากที่สุด
เพราะจะต้องเป็นคนที่รับเคราะห์เข้าทำนองเนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่งต้องเอากระดูกมาแขวนคอนั่นเอง
การสัประยุทธ์ทางธุรกิจนับวันจะน่ากลัวยิ่งขึ้น แต่สำหรับคนอย่างศิริชัยเขาไม่หวั่น
ถึงแม้ป้อมปืนนาวาโรนของเขาจะไม่แกร่งดังอดีตก็ตาม