ปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า "ลูกรัก"


นิตยสารผู้จัดการ( เมษายน 2531)



กลับสู่หน้าหลัก

การประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้นธนาคารสหธนาคารที่ผ่านมาเมื่อไม่นานมานี้ มีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกรรมการและตำแหน่งบริหารระดับสูงหลายตำแหน่ง

แต่โดยเนื้อหาสาระจริง ๆ แล้วก็คือการประกาศอย่างเป็นทางการว่าใครดำรงตำแหน่งอะไรเท่านั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ก็ทราบ ๆ กันอยู่แล้วว่าโครงสร้างกรรมการชุดใหม่จะเป็นเช่นไร?

โดยเฉพาะการขึ้นมาของปิยะบุตร ชลวิจารณ์ นั้นก็คงไม่ได้สร้างความแปลกประหลาดใจอะไรมากนัก??

และถ้าจะให้สรุปปมเงื่อนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดนี้

ก็น่าจะต้องสรุปว่า ชัยชนะยังเป็นของฝ่ายตระกูล "ชลวิจารณ์" อีกครั้ง

เพียงแต่จะรักษาชัยชนะไปได้นานแค่ไหนก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

กล่าวได้ว่าสำหรับ "ชลวิจารณ์" แล้วก็คงจะดูแคลนไม่ได้

ขณะเดียวกันกลุ่มอาหรับแบงก์ (เอบีซี) บวกกับ "อัศวินวิจิตร" ความแข็งแกร่งของทุนทรัพย์ที่มีก็คงจะดูเบาไม่ได้อีกเช่นกัน

บรรเจิด ชลวิจารณ์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ที่ล่าสุดก้าวขึ้นรับตำแหน่งประธานบอร์ดใหญ่พร้อม ๆ กับควบตำแหน่งประธานกรรมการบริหารปัจจุบันอายุ 74 ปี เขาเหน็ดเหนื่อยพอสมควรในช่วงไม่กี่ปีมานี้และโดยอายุขัยแล้วก็คงต้องใกล้เวลาที่จะวางมือเข้าไปทุกขณะ

บรรเจิดก็คงคล้าย ๆ กบอีกหลายคนที่คิดว่าตนเป็นผู้สร้างอาณาจักร เพราะฉะนั้นก็ควรจะเป็นเจ้าของและพยายามที่จะให้ทายาทของตนได้เป็นผู้สืบทอด ซึ่งถ้าคิดเช่นนั้นการขึ้นมาของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างปิยะบุตรก็คงจะต้องถือว่าเป็นความสมหวังอย่างยิ่ง

ทีนี้ก็คงจะวางมือได้อย่างสบายใจแล้ว!!

ภารกิจข้างหน้าเป็นเรื่องที่ปิยะบุตรจะต้องทำหน้าที่ฟันฝ่าต่อไป ซึ่งถ้าเขาแข็งแกร่งเด็ดเดี่ยวไม่แพ้ผู้พ่อ สหธนาคารก็คงสามารถอยู่ยั้งยืนยงจนไปสู่ทายาท "ชลวิจารณ์" รุ่นต่อ ๆ ไปตามลำดับ?

ปิยะบุตร นั้นปัจจุบันอายุ 38 ปี นับเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ที่หนุ่มที่สุดในจำนวนแบงก์พาณิชย์ไทยทั้ง 15 แบงก์

เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีทางด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซินและปริญญาโทสาขาเดียวกันจากโคลัมเบีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

เคยเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเคยผ่านการอบรมการบริหารชั้นสูงจากธนาคาร MANUFACTURERS HANOVER TRUST NEWYORK ที่สหรัฐฯ

ปิยะบุตรเข้าร่วมงานกับสหธนาคารเมื่อปี 2519 ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการต่างประเทศ

ปีรุ่งขึ้นย้ายไปเป็นรองผู้อำนวยการฝ่ายสาขา ปี 2522 หรืออีก 2 ปีต่อมาขึ้นตำแหน่งผู้อำนวยการที่ฝ่ายสาขา ปี 2524 ก้าวอย่างรวดเร็วขึ้นดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่พร้อม ๆ กับควบตำแหน่งผู้อำนวยการสาขาเอาไว้ด้วย

และปี 2527 ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ช่วยผู้จัดการ

จากนั้นก็ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่สืบต่อจากบรรเจิดผู้พ่อเมื่อต้นปี 2531 นี้

เบ็ดเสร็จแล้วก็ใช้เวลาเพียง 10 ปีในแบงก์เพื่อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งบริหารสูงสุด

ชีวิตส่วนตัวเขามีภรรยาชื่อสุจินตนา มีบุตรชาย 2 คน สัคคยศและพจน์ปรีชา

ยามว่างชอบเล่นกอล์ฟกับอ่านหนังสือ

มีคนถามว่าเขามีปรัชญาในการทำงานอย่างไร ปิยะบุตรมักจะตอบว่า

"จริงใจ จริงจังและอดทน"



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.