|
ไอโฟนฟีเวอร์ ใครไม่มีตกเทรนด์
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(7 กันยายน 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
ตลาดสมาร์ทโฟนคึก ยอดจองไอโฟน 3จีเอสแรงเกินคาดทะลุ 10,000 เครื่อง หลังเปิดจองไม่ถึงเดือน ส่งผลให้ทรูมูฟต้องทยอยส่งเครื่องเป็นล็อต เมื่อ 'แอปเปิล' ประเมินความต้องการในตลาดเอเชียต่ำ เชื่อตลาดไทยมียอดแตะ 100,000 เครื่องแน่ในสิ้นปี ด้าน 'เอชทีซี' เกาะกระแส ส่งมือถือ 'เอชทีซี ฮีโร่' มือถือ 'แอนดรอยด์' รุ่นที่ 2 เข้าตลาดไทย มั่นใจส่วนแบ่งตลาดแตะ 20%
ถึงแม้จะยังไม่มีใครฟันธงในเชิงเทคนิคว่า ตลาดสมาร์ทโฟนกับตลาดพีดีเอโฟนเป็นตลาดที่มีเซกเมนต์เดียวกัน แต่สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานถือได้ว่า เป็นกลุ่มคนที่ใกล้เคียงกัน ต่างกันตรงที่พื้นฐานการใช้งานที่สมาร์ทโฟนเป็นกลุ่มที่ชอบฟังก์ชั่นมือถือ พีดีเอโฟนเป็นกลุ่มคนชอบไอที โดยมีวัตถุประสงค์การใช้งานที่เหมือนกันคือ โมบายอินเทอร์เน็ต
'หลังจากตรวจสอบยอดสั่งจองภายหลังวันที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา พบว่า ค่อนข้างน่าตกใจ เพราะมียอดจองเข้ามามากกว่า 10,500 เครื่อง' ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และรองหัวหน้ากลุ่มคณะบริหารด้านการพาณิชย์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เล่าให้ฟังถึงผลการเปิดรับจองไอโฟน 3จีเอส ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผู้จองจะต้องวางมัดจำค่าเครื่อง 2,000 บาท
ตัวเลข 10,500 เครื่อง นับเป็นตัวเลขประวัติศาสตร์ของไอโฟนในประเทศไทย ซึ่งครั้งแรกที่เปิดสมาร์ทโฟน 'ไอโฟน' ในเมืองไทยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มียอดจองเพียง 3,500 เครื่องเท่านั้น ซึ่งเหนือตัวเลขประมาณการที่ทาง 'ทรูมูฟ' และ 'แอปเปิล' คาดการณ์เอาไว้ จึงทำให้การส่งมอบเครื่องไอโฟน 3จีเอสอาจจะมีปัญหาจำนวนเครื่องที่พร้อมส่งมอบในงวดแรกไม่เพียงพอ จำเป็นต้องมีการทยอยส่งมอบ
ทรูมูฟ เพิ่งได้รับทราบจำนวนเครื่องไอโฟน 3จีเอสที่แอปเปิลจะส่งเข้าสู่ประเทศไทยล็อตแรกว่ามีจำนวนเพียง 3,500 เครื่อง ซึ่งไม่เพียงพอต่อยอดจองเครื่องที่สรุปยอดได้ราว 10,500 เครื่อง ทรูจึงเริ่มดำเนินการชี้แจงแก่ลูกค้าถึงรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงกำหนดการรับเครื่องใหม่แล้ว
'มีผลกระทบแน่นอน' ปพนธ์ ยอมรับปัญหาที่เกิดขึ้น
เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะประเทศไทยประเทศเดียว ปัญหาจำนวนเครื่องไม่พอกับความต้องการเกิดกับหลายๆ ประเทศในเอเชียที่เปิดให้จองไอโฟน 3จีเอส
วิธีการแก้ไขปัญหาของทรูมูฟ ก็คือ การส่งมอบสินค้าเป็นล็อตๆ ตามวันเวลาที่ผู้จองระบุเอาไว้ในวันจองที่จะขอมารับสินค้าในวันไหน ในวันแรกของการส่งสินค้า ทางทรูมูฟสามารถส่งมอบได้เกือบครบ แต่สำหรับจำนวนเครื่องที่เหลือ ทางทรูมูฟได้มีการโทร.ติดต่อถึงความล่าช้าในการส่งมอบว่า จะสามารถส่งของได้หลังวันนัดรับสินค้าอีก 1 สัปดาห์
'จำนวนเครื่องที่จะได้รับในล็อตต่อไปนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นจำนวนเท่าไร ซึ่งทางแอปเปิลพยายามดึงเครื่องจากต่างประเทศมาให้เราก่อน เพราะแอปเปิลเห็นความต้องการของเราที่มีการมัดจำเงินค่าจอง 2,000 บาท ซึ่งประเทศอื่นไม่มี'
และเพื่อเป็นสินน้ำใจในความล่าช้าของการส่งมอบเครื่อง ทางทรูมูฟ ได้จัดทำซองหนังแท้มูลค่า 1,200 บาท เป็นของกำนัลพิเศษให้กับผู้ที่จองสินค้าทุกคน
'ประเทศอื่นไม่มีซองหนังให้ แอปเปิลไม่ได้ซัปพอร์ตอะไร แค่หาของมาให้ได้ก็เก่งแล้ว' ปพนธ์ กล่าว
สำหรับผู้ที่จองไอโฟน 3จีเอสที่ไม่ประสงค์จะรอและจะขอรับเงินจองคืน สามารถติดต่อร้านทรูช้อปสาขาที่ระบุในการรับเครื่อง เพื่อกรอกเอกสารขอรับเงินสดคืนได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน เป็นต้นไป
ส่วนการเปิดรับจองไอโฟนรุ่นเก่า ที่ความจุ 8 กิกะไบต์นั้น ทางปพนธ์ บอกว่า 'จริงๆ แล้วเรามีความชัดเจนที่จะไม่นำไอโฟน 8 กิก รุ่นเก่าเข้ามาทำตลาด แต่การเปิดรับจองนั้น เป็นผลมาจากมีความต้องการของลูกค้าเรียกร้องเข้ามา ทางทรูมูฟจึงนำมาเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าใหม่ที่สนใจใช้สมาร์ทโฟน แต่ติดเรื่องเงื่อนไขราคา
'เราคงไม่เอารุ่น 8 กิก เข้ามาสต๊อกอะไรมาก อยู่ที่ลูกค้า คิดว่าตอนนี้คนต้องการ 16 กิก กับ 32 กิกมากกว่า ไม่ได้อยู่ที่ 8 กิก'
ยอดจองสำหรับไอโฟน 3จี รุ่นเก่า 8 กิก อยู่ที่ราวๆ 200 เครื่อง โดยจะสามารถรับเครื่องได้ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายนนี้
'ถ้ายอดขายโตกว่าเดิม 3 เท่าตัวอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก็คิดว่าสิ้นปีน่าจะทำยอดขายได้เท่าไอโฟน 3จี ที่เคยทำได้ 50,000 เครื่อง'
เมื่อถามถึงตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทย ปพนธ์ คาดว่า จะเติบโตถึง 20% ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่ทางไอดีซีคาดการณ์การเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยว่าจะเติบโตประมาณ 23%
ด้วยอัตราการเติบโตของตลาดดังกล่าว จึงเป็นโอกาสทองที่บรรดาผู้ผลิตเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 'อินเตอร์แบรนด์' เล็งเห็นโอกาสทางการตลาดที่จะสร้างส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนให้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดเมืองไทยเป็นตลาดหนึ่งที่ตอบรับเทรนด์ตลาดสมาร์ทโฟนระดับโลกได้เร็ว ดังจะเห็นได้จากยอดขายไอโฟนที่มีตัวแทนจำหน่ายอย่าง ทรูมูฟ ทำตลาดอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ไม่ถึง 7 เดือน มียอดขายถึง 50,000 เครื่อง
โดยเฉพาะการยอมรับแพกเกจโปรโมชั่นที่เรียกว่า 'ดาต้า แพลน' ในลักษณะของการจ่ายเหมา เป็นที่ยอมรับในตลาดขึ้นมาทันตาเห็น ดังจะเห็นได้จากการทำตลาดไอโฟนและแบล็กเบอร์รี่ที่ผู้ใช้นิยมซื้อ 'ดาต้า แพลน' มาใช้งาน
ล่าสุด เอชทีซี ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟน 'เอชทีซี ฮีโร่' ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ 'แอนดรอยด์' รุ่นที่ 2 ในตลาดเมืองไทย โดยใช้โมเดลการทำตลาดร่วมกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นหลัก แทนที่จะขายเดี่ยวๆ เหมือนสมาร์ทโฟนหลายๆ ยี่ห้อที่เคยทำตลาดมาก่อนหน้านี้
'การทำตลาดของแอนดรอยด์ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ความร่วมมือกับโอเปอเรเตอร์เป็นสำคัญ เนื่องจากการใช้งานส่วนใหญ่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ซึ่งจากกระแสหลังเปิดตัวรุ่นแรกมายังถือว่าไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก แต่ในอนาคตเชื่อว่าจะสามารถกินส่วนแบ่งของธุรกิจสมาร์ทโฟนเอชทีซีได้ไม่ต่ำกว่า 20%' ณัฐวัชร์ วรนพกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอชทีซี (ไทยแลนด์) กล่าว
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|