|
บ้าน 8 เหลี่ยม “เพชรในตม” ของ John Lautner
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( กันยายน 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
มีคนพูดกันว่า เมื่อคุณเข้าไปโลดแล่นอยู่ในโลกมายาของฮอลลีวูดได้แล้ว ประกาศนียบัตรที่จะรับรองตัวคุณว่าติดอันดับหรูเลิศแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับว่า คุณได้รับเชิญให้ไปร่วมงานปาร์ตี้ของ Brent Bolthouse หรือเปล่า?
Brent Bolthouse ทรงอิทธิพลขนาดนั้นเชียวหรือ
ฉายา "ราชาแห่งชีวิตคนกลางคืนของแอลเอ" น่าจะเป็นคำตอบแจ่มชัดที่สุด
นักวางแผนงานปาร์ตี้มือทองผู้นี้มีดารานักแสดงเกรดเอชื่อกระฉ่อนโลกเป็นลูกค้ามากมาย อาทิ Drew Barrymore, Cameron Diaz และ Lindsay Lohan
แต่ยุคทองของเขาย่อมหมายถึงการทุ่มเททำงานตลอดทั้งคืนอยู่ตลอดเวลาด้วย Brent จึงเป็นคนที่ต้องการเวลาพักผ่อนขณะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดและผ่อนคลายที่สุดในเวลาเดียว กัน นี่เป็นคำอธิบายที่ดีว่าทำไมเขาถึงเน้นเสมอว่า "บ้าน" เป็นสถานที่ที่เขาตามใจตัวเองได้มากที่สุดเท่าที่ต้องการเลยทีเดียว
บ้านในจินตนาการของ Brent ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของ Hollywood Hills เมื่อมองลงมาจะเห็นทัศนียภาพของแอลเอเต็มๆ ตาแบบสุดลูกหูลูกตาโดยมีเทือกเขา San Gabriel Mountains เป็นฉากหลังและมองเห็นไกลลิบๆ ออกไป บ้านหลังนี้ออกแบบโดยสถาปนิกอเมริกัน John Lautner ผู้ซึ่งแม้จะลาโลกไปแล้วตั้งแต่ปี 1994 แต่ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็น "ตำนาน" ของวงการสถาปัตยกรรมคนหนึ่ง เพราะเป็นเจ้าของผลงานสไตล์โมเดิร์น โดยเฉพาะการออกแบบบ้านรูปทรงแปลกใหม่กับการใช้ผนังกระจกผืนใหญ่รอบบ้านที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และฮือฮากันทั้งวงการเห็นจะเป็นบ้าน 8 เหลี่ยมซึ่งเป็นรูปทรงบ้านในดวงใจหลังนี้ของ Brent ด้วย เขาพูดถึงด้วยความภูมิใจว่า "ถ้าเปรียบเทียบกับมาตรฐานของแอลเอแล้ว บ้านหลังนี้ไม่ใหญ่โตอะไรเลย แต่ผลงานการออกแบบของ Lautner เป็นหลักประกันได้แน่นอนว่า คุณจะไม่มีวันรู้สึกว่าถูกขังอยู่ในบ้านแคบๆ ทึบๆ จนกลายเป็นโรคกลัวที่ปิดทึบอย่างเด็ดขาด"
ปกติแล้วงานออกแบบของ Lautner จะได้รับเสียงชื่นชมจากวงการพร้อมคำวิพากษ์วิจารณ์เสมอ แต่บ้านหลังนี้กลับผิดแผก ออกไปจะเรียกว่าเป็นแกะดำเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นงานที่ค้างเติ่งไม่สามารถสร้างให้แล้วเสร็จได้ โดยโครงการได้ยุติลงกลางคันและไม่มีวันลุล่วงตามแบบแปลนที่ Lautner ออกแบบไว้ได้เลย
ไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่าสถาปนิกมือทองผู้นี้ขัดแย้งอะไรกับ Ben Polin เจ้าของบ้านในเวลานั้น มีแต่การคาดเดาว่าอาจเป็นเพราะ Lautner เดือดดาลที่รู้ว่า Polin มีแผนจะทาผนังไม้เรดวูด ซึ่งมีเนื้อไม้สีแดงสวยงามตามธรรมชาติอยู่แล้วให้เป็นสีขาว แถมยังจะปิดตายหน้าต่างด้านที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และปูกระเบื้องทับพื้นเดิมซึ่งเป็นคอนกรีต จากนั้นก็จะทำให้พื้นดูรุงรังขึ้นด้วยการปูพรมทับลงไป ที่ Brent คิดว่าเรื่องพวกนี้น่าจะเป็นสาเหตุแห่งความขัดแย้งระหว่างสถาปนิกและเจ้าของบ้านคนเดิมเพราะเมื่อตอนที่เขาก้าวเข้ามาในบ้านหลังนี้ตอนปลายปี 2004 ทุกสิ่งทุกอย่างภายในบ้านได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างที่ ได้กล่าวไปในข้างต้นทั้งหมด ซึ่ง Brent ให้ความเห็นสั้นๆ อย่าง ยากจะรับได้ว่า "มันดูยุ่งเหยิงไปหมด ผมรู้สึกว่าน่าละอายมากถ้าจะต้องมีบ้านสไตล์นี้"
เมื่อตกลงซื้อบ้านหลังนี้ไว้แล้ว Brent ติดต่อไปยังมูลนิธิ John Lautner Foundation เพื่อขอพิมพ์เขียว รูปถ่าย และรายละเอียดที่จำเป็นสำหรับการก่อสร้างบ้านหลังนี้ให้กลับไปอยู่ใน สภาพคล้ายคลึงกับที่ Lautner ออกแบบไว้แต่เดิมให้มากที่สุด จากนั้น Brent โละของตกแต่งภายในบ้านที่เพิ่มเติมเข้ามาเพราะ ความเข้าใจผิดออกไปทั้งหมด ลงมือศึกษาอย่างจริงจังเกี่ยวกับของในบ้านที่ติดตั้งอยู่กับที่ ลูกบิดประตูต่างๆ รายละเอียดอื่นๆ เพื่อ นำมาใช้ให้ถูกต้องตามความตั้งใจเดิมของผู้ออกแบบ รวมทั้งค้นพบวัสดุธรรมชาติที่ถือว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของ Lautner ด้วย
จะว่าไปแล้วบ้านขนาดห้องนอนเดียวหลังนี้ถือเป็นความกล้าหาญอย่างยิ่งใหญ่สำหรับงานออกแบบเลยทีเดียว Lautner ยังอาจหาญทดลองใช้กระบวนการเชิงอุตสาหกรรมและวัสดุใหม่ๆ กับงานสร้างบ้านที่เจ้าตัวมุ่งแสวงหาหนทางปรับปรุงความเป็นอยู่ ที่ดีขึ้นมาโดยตลอด สถาปนิกผู้ล่วงลับยึดหลักปรัชญาสูงสุดคืนสู่สามัญโดยออกแบบให้ตรงกับความต้องการของมนุษย์อย่างครอบคลุมทั้งในด้านอารมณ์ จิตใจ และกายภาพ
นอกเหนือจากการทำให้ผู้พบเห็นเกิดความประหลาดใจใน สิ่งที่เห็นแล้ว Lautner ยังสร้างพื้นที่ว่างอย่างชาญฉลาด รวมทั้งบูรณาการภูมิทัศน์โดยรอบให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับงานออกแบบ โดยรวมได้อย่างน่าทึ่ง โดย Brent ชื่นชมว่า "มันน่าทึ่งมากเมื่อมอง ลงไปในรายละเอียดของผลงานของสถาปนิกผู้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงวิธีทำให้ตัวบ้านไร้ชีวิตจิตใจกลายเป็นบ้านที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น การได้จรดฝีเท้าเข้าไปในบ้านหลังนี้ทำให้ คนที่แสนจะยุ่งอย่างผมต้องหยุดเดินและเพลิดเพลินกับธรรมชาติที่อยู่รอบตัวด้วย ความสุขใจ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้นเหมือนกับว่าบ้านหลังนี้อนุญาต ให้ผมได้มีโอกาสพักและผ่อนคลายกับเขาบ้าง มันเป็นบ้านที่โอบกอดใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริงและตัวผมเองก็โชคดีที่ได้อยู่ท่ามกลางอ้อมกอดอันแนบแน่นนั้นด้วย"
ราชาแห่งชีวิตคนกลางคืนของแอลเอยังพรรณนาต่อไปว่า
"ผมถูกห้อมล้อมด้วยป่าและสัตว์ป่าซึ่งงดงามอย่างไม่น่า เชื่อว่าจะเป็นไปได้สำหรับฮอลลีวูด เมื่อตอนที่ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ๆ ผมต้องสะดุ้งตื่นขึ้นเพราะเสียงดีดตัวขึ้นของเจ้ากวางตัวน้อยที่ซุกซนอยู่ตรงด้านนอกของหน้าต่างห้องนอนด้วยซ้ำ!"
ที่เป็นอย่างนี้เพราะร่มเงาของต้นเมเปิลและเชอร์รี่ได้กลาย เป็นทางเดินอันวิเศษสุดสำหรับสัตว์ป่าที่จะเที่ยวเล่นมาเรื่อยๆ จนถึงชายป่าซึ่งเป็นเขตบ้านของ Brent นั่นเอง
สำหรับบรรยากาศภายในตัวบ้าน พูดได้เลยว่า Brent ได้ครอบครองงานออกแบบของสถาปนิกฝีมือบรมครู ซึ่งล้วนแล้ว แต่เป็นจริงในทางปฏิบัติทั้งสิ้น วัสดุหลักที่นำมาผสมผสานและใช้ในการก่อสร้างคือ ไม้ คอนกรีต และกระจกนั้นช่วยได้มากในแง่ที่ไม่ทำให้พื้นที่ว่างแลดูเย็นเฉียบจนเกินไป ถือว่าเป็นวัสดุในอุดมคติสำหรับงานออกแบบเลยทีเดียว แต่ถ้าพิจารณา ในแง่ของการเป็นฉากหลังสำหรับอยู่อาศัยก็จำเป็นต้อง ทำให้แลดูอุ่นขึ้นกว่านี้ วิธีแก้ไขก็คือ การใช้ไม้สนสีแดงเป็นผนังบ้านและใช้คอนกรีตทำพื้นซึ่งถือว่าสมบูรณ์แบบมาก ในแง่ของการมีสีเป็นกลางและเหมาะกับเฟอร์นิเจอร์ เดนมาร์กสไตล์โมเดิร์นเอามากๆ
ในฐานะที่เป็นราชาคลับในแอลเอ Brent ย่อมไม่อยากให้บ้านของเขาเต็มไปด้วยแขกจากฮอลลีวูดที่เฮโลมาร่วมงานปาร์ตี้เป็นแน่ หากแต่ชอบงานสังสรรค์ขนาดเล็กกับคนไม่กี่คนมากกว่า เขาให้ข้อคิดว่า
"การได้สร้างบ้านของตัวเองและมีโอกาสแสดงออกถึงสิ่งที่คุณโปรดปราน รวมทั้งได้แบ่งปันความลับเล็กๆ น้อยๆ กับเพื่อนไม่กี่คนว่า แท้จริงแล้วคุณเป็นคนยังไงน่ะ ถือว่าเป็นความสุขอย่างที่สุดเชียวล่ะ"
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|