|
Mekhong Stream
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( กันยายน 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
จีน
กระทรวงทรัพยากรน้ำจีน รายงานเหตุการณ์ดินถล่มบริเวณแม่น้ำต้าตู้ อำเภอฮั่นหยวน มณฑลซื่อชวนหรือเสฉวน เมื่อดึกวันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม ทำให้โคลนและหินจำนวนมหาศาลทะลักลงมาปิดกั้นแม่น้ำต้าตู้ ทำให้กระแสน้ำไหลผ่านไปยังเขื่อนปู้ปู้โกวอย่างช้าๆ สร้างความวิตกแก่ผู้เชี่ยวชาญว่าสภาพดังกล่าวจะทำให้เขื่อนแตกอย่างฉับพลันและน้ำไหลทะลักปิดล้อมชุมชนที่อยู่เบื้องล่าง เจ้าหน้าที่ได้โยกย้ายประชาชนหลายหมื่นคนออกจากเขตจินโข่วเหอ ในเมืองเล่อซัน เหตุการณ์ในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 70 คน สูญหายไปราว 29 คน และพาหนะเสียหายอย่างน้อย 10 คัน ขณะที่หน่วยกู้ภัยกำลังติดตามผู้สูญหาย แม่น้ำต้าตู้ไหลผ่านพื้นที่หลายแห่งที่โดนแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ 8.0 ริกเตอร์ เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว
พม่า
สมาคมผู้ประกอบการยางของพม่ากล่าวว่า พม่าตั้งเป้าปลูกยางมากกว่า 469,800 เฮกตาร์ เพื่อเพิ่มการส่งออกในปีงบประมาณ 2552-2553 ซึ่งเริ่มต้นมาแล้วตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยขยายการเพาะปลูกยางในพื้นที่รัฐมอญทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งถือเป็นแหล่งปลูกยางที่สำคัญของพม่า ด้วยสภาพอากาศ ดิน และปริมาณน้ำฝนที่เอื้อต่อการเพาะปลูก นอกจากในพื้นที่ของรัฐมอญแล้ว การปลูกยางยังเจริญเติบโตได้ดีในรัฐกะฉิ่น กะเหรี่ยง และฉาน ในเทือกเขาเขตตะนาวศรี การปลูกยางของพม่าได้รับการฟื้นฟูขึ้นอีกครั้งหลังจากปี 2531 เมื่อรัฐบาลอนุญาตให้ผู้ประกอบการเอกชนสามารถปลูกและค้ายางได้อย่างอิสระ
ลาว
บุนทัน ไซวันทอน เจ้าหน้าที่วิชาการ สำนักงานโยธาธิการและขนส่ง แขวงหลวงน้ำทา กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง ในนครเวียงจันทน์ เปิดเผยกับสำนักข่าวสารปะเทดลาว เรียกร้องให้ทางการลาวหารือกับทางการสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเร่งหาเงินทุนซ่อมแซมความเสียหายบนทางหลวง R3a ช่วงยาว 70 กม. (จากลำน้ำลางไปถึงด่านบ่อแตน) เส้นทางช่วงดังกล่าวก่อสร้างโดยการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ประกอบกับเป็นทางหลวงสายสำคัญที่เชื่อมระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ทั้ง 6 ประเทศ อันได้แก่ จีน ลาว พม่า ไทย กัมพูชา และเวียดนาม ปัจจุบันเส้นทางสายนี้เกิดรอยแตกและรอยแยกขนาดใหญ่บนพื้นผิวจราจร เสียหายกว่า 10 จุด และจากการลงสำรวจของเจ้าหน้าที่ดังกล่าว พบว่าสาเหตุมาจากการก่อสร้างที่ไม่ได้คุณภาพ ประกอบกับการที่มีฝนตกลงมามากในฤดูกาลนี้ทำให้ถนนชำรุด
กัมพูชา
เดือนสิงหาคมที่ผ่านมามีพิธีเซ็นความตกลงร่วมทุนก่อตั้งสายการบินใหม่ของกัมพูชา “แคมโบเดียอังกอร์ (Cambodia Angkor)” โดยการร่วมมือช่วยเหลือของสายการบินเวียดนามแอร์ไลนส์ผู้ลงทุนหลัก ซึ่งถือหุ้นส่วนน้อย 49% และบริษัทร่วมทุนในกัมพูชาถือหุ้นส่วนใหญ่ 51% ทำให้มีสายการบินแห่งชาติเกิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากล้มหายไปตั้งแต่ปี 2544 โดยโสกอาน (Sok An) รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งรับผิดชอบเรื่องนี้กล่าวว่า สายการบินเวียดนามแอร์ไลนส์ จะได้รับสิทธิ์ในการร่วมเป็นเจ้าของสายการบินแห่งชาติกัมพูชาเป็นเวลา 30 ปี ด้วยเงินลงทุนกว่า 100 ล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นความมั่นใจต่อการลงทุนในกัมพูชาของฝ่ายเวียดนามในภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจปัจจุบัน สายการบินแห่งใหม่นี้จะมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ ให้ขยายตัวได้ 2-3% ในปีนี้ หลังจากช่วงครึ่งแรกของปีมีการขยายตัว 1%
เวียดนาม
สื่อทางการเวียดนามรายงานว่า เหวียนเท้ถาว (Nguyen The Thao) ประธานคณะกรรมการประชาชน กรุงฮานอย เสนอขออนุมัติโครงการพัฒนา "เมืองใหม่แม่น้ำแดง" ต่อนายกรัฐมนตรี เหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) เมื่อเดือนที่แล้ว มูลค่าประมาณ 7,100 ล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาสองฝั่งแม่น้ำแดงรวมระยะทาง 30-40 กม. ใจกลางกรุงฮานอยขึ้นไปทางเหนือ เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ เมืองใหม่แม่น้ำแดงจะเป็นที่อาศัยใหม่สำหรับผู้คนราว 79,000 ครอบครัวของพื้นที่พัฒนาทั้งหมด โดยกลุ่มบริษัทเกาหลีที่จะเข้าลงทุนและจะสร้างคูกั้นน้ำทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำรวมความยาว 42 กม. และพัฒนายกระดับคูกั้นน้ำทางฝั่งตะวันตกอีก 33.8 กม. ที่มีอยู่แล้วในขณะนี้ เพื่อผันน้ำออกให้พ้นจากเมืองหลวง เมื่อน้ำไม่ท่วม สองฝั่งแม่น้ำแดงก็จะกลายเป็นตึกระฟ้าที่หรูหรา อพาร์ตเมนต์ที่อาศัยระดับไฮคลาส สวนสาธารณะกับพื้นที่สีเขียวและแหล่งบริการอีกมากมายสำหรับเมืองหลวงที่มีประชากร 4 ล้านคน ประมาณการว่าจะเป็นแหล่งเศรษฐกิจใหม่ที่สำคัญในเวียดนาม
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|