โลกลับชนัตถ์ ปิยะอุย บางเรื่องของม่ายใจดำที่จำต้องยอม


นิตยสารผู้จัดการ( เมษายน 2531)



กลับสู่หน้าหลัก

ถ้า "สุนทรี" เป็นความคิดอุบัติของ "ศรีบูรพา" ที่ขีดเขียนชีวิตสาวน้อยให้ระเริงหลงอยู่ในโลกมายาที่หลอกหลอนด้วยความศิวิไลซ์หลากหลายรูปแบบ

และถ้า "มาช่า" พิม วัฒนพานิช จะเป็นตัวแทนของเด็กสาววัยเปรียวที่ร้อนร่าไปกับการท้าทายรสชาติชีวิต จนกลายเป็นขี้ปากของคนที่มองเรือนร่างเธอเหมือนขนมหวานในโลกปัจุบัน

ในโลกแห่งความเป็นจริง ย้อนหลังไปเมื่อ 40 ปีก่อน ชนัตถ์ ปิยะอุย…คงไม่ผิดอะไรไปกับ "สุนทร" ของศรีบูรพา และคล้ายคลึงกันบ้างในบางส่วนกับ "มาช่า" เพียงทางแยกของชีวิตเท่านั้นที่ผิดแผกกันสิ้นเชิง

บทสรุปของสุนทรีสาวน้อยที่มีความอ่อนหวาน มีรูปร่างสคราญงามงดล่อตาล่อใจผู้ชายให้หลงไหล มีการศึกษาชั้นสูงและตระกูลสูงศักดิ์เป็นเครื่องมือสนับสนุน ด้วยเหตุที่ไม่เคยอิ่มในความสุขมายาสุดท้ายของสุนทรีกลับจมจ่อมอยู่ในความขมขื่น เฝ้ารอวันตายด้วยสภาพที่ชวนให้สลดหดหู่

ผิดกับชนัตถ์…ครั้งหนึ่งของผู้หญิงคนนี้ที่เป็นลูกสาวสุดรักของพ่อค้าไม้-แม่ค้าข้าว เธอเคยใช้ชีวิตที่เกิดมาพอมีอันจะกินและมีความสาวสวยไม่แพ้ใคร ท่ามกลางความสนุกโลดแล่นที่ไม่เคยสนใจอะไร ชนัตถ์เคยมีรถเก๋งเปิดประทุนคันหนึ่งขับไปกับเพื่อน ๆ เพื่อโฉบเฉี่ยวและพิสูจน์อะไรบางอย่างกับผู้ชาย

โชคในด้านนี้เป็นของเธอ ที่ว่า "ไม่เคยพลาด" และที่สุดความสนุกในวัยสาวก็มอดลงพร้อมกับพลังขับเคลื่อนทางการงานเข้ามาแทนที่ กระทั่งถึงวันนี้ที่ชนัตถ์สามารถเฝ้ารอวาระสุดท้ายที่จะมาเยือนได้อย่างเป็นสุข

ชนัตถ์หรือหยก แซ่หวัง ลูกสาวที่พ่อแม่หวังอยากให้มีฤทธิ์เดช เกิดในครอบครัวหวังที่มีอันจะกินไม่น้อย พ่อเคยเป็นพ่อค้าไม้ชื่อดังในภาคกลางและภาคเหนือ ส่วนแม่ประกอบการค้าข้าว มีพี่น้องด้วยกัน 6 คน คือ สุภา ปิยะอุย สุนียรัตน์ เตลาน (ใช้นามสกุลแม่) ชนัตถ์ ปิยะอุย ชนาภรณ์ ปิยะอุย พ.ท. วรพงษ์ ปิยะอุย และสมพจน์ ปิยะอุย

ชนัตถ์เป็นอดีตนักเรียนเตรียมธรรมศาสตร์รุ่นที่ 4 แล้วไปเรียนต่อต่างประเทศ ก่อนกลับมาทำงานที่บริษัทสินสยาม จำกัด จากนั้นเลื่อนฐานะตัวเองมาเป็นเจ้าของโรงแรมปรินซเซส แล้วยักย้ายมาสู่ดุสิตธานีที่กล่าวขานกันในปัจจุบัน

"บางทีชนัตถ์อาจไม่เป็นเจ้าแม่โรงแรมก็เป็นได้ถ้าเธอไม่ตัดสินใจแต่งงานกับปวิต โทณวณิก

ชนัตถ์แต่งงานกับปวิตลูกชายของพระยาโทณวณิกมนตรีผู้ก่อตั้งสถานธนานุเคราะห์ (โรงรับจำนำ) อดีตประธานแบงก์ศรีนคร ชีวิตสมรสของชนัตถ์-ปวิต ค่อนข้างลุ่ม ๆ ดอน ๆ มาตลอด เนื่องจากอุปนิสัยที่ค่อนข้างแตกต่างกัน เพราะชนัตถ์มีความเป็นพ่อค้า-แม่ขายอยู่เต็มตัว ส่วนปวิตคนที่รู้จักบอกว่า "เขาเป็นเพลย์บอยคนดังคนหนึ่งของสังคม"

"จริง ๆ แล้วชนัตถ์เองก็ไม่เคยชอบพอปวิตมาก่อน เขามีคนรักมาแล้วคนหนึ่งเป็นนายทหารยศ พง.ท. แต่มันเกิดอุบัติเหตุบางอย่างเลยต้องมาแต่งงานกับปวิต" คนใกล้ชิดบอกให้ฟัง

เพราะพื้นฐานการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันอย่างมาก จึงเป็นชนวนให้ชีวิตสมรสต้องมีอันต้อง "หย่าร้าง" กันในที่สุด ซึ่งหลายคนบอกว่าชนัตถ์ไม่พอใจอย่างมากที่ปวิตไปค้ำประกันให้ลูกน้องเพื่อนำเงินไปเล่นการพนัน แล้วต่อมาเงินส่วนค้ำประกันนั้นชนัตถ์ต้องมีส่วนรับผิดชอบกลายเป็นข้อถกเถียงกันอย่างรุนแรง

เรื่องเดียวกันนี้ชนัตถ์บอกกับ "ผู้จัดการ" ว่า เธอไม่พอใจที่ปวิตไปค้ำประกันซื้อของให้ญาติคนหนึ่งแล้วตัวเองต้องมาเป็นผู้รับใช้ ซึ่งเธอเคยประสบปัญหานี้มาแล้วกับพ่อที่ต้องล้มละลายเนื่องจากไปช่วยเหลือเพื่อน ครั้นมาเจอปวิตทำเข้าอีกจึงสุดทน

หย่ากันเสียดีกว่าที่จะให้ความร้าวฉานนั้นเป็นปมด้อยของลูก!!

"มันก็มีเรื่องนี้แล้วก็เรื่องที่เราไม่สามารถทำหน้าที่ภรรยาที่ดีของเขาได้ เขาเป็นคนชอบกินเหล้า บางวันชวนเพื่อนฝูงมากิน อยากให้เราทำอาหารให้กิน เราก็ไม่มีเวลาเพราะต้องทำธุรกิจสั่งสมมาก ๆ เข้าก็ทะเลาะกัน" ชนัตถ์เล่าให้ฟังโดยไม่มีริ้วรอยความขมขื่นปรากฏให้เห็น

สองครั้งสองคราเลยทำให้ตั้งปณิธานไว้ว่า "ชาตินี้ใครจะว่าใจดำก็ใจดำจะไม่ขอค้ำประกันให้ใครเป็นอันขาด"

"สมมติว่าถ้าเธอแต่งงานไปกับนายทหารคนนั้นบางทีอาจมีชีวิตเรียบ ๆ ในทุกวันนี้" คนใกล้ชิดคนเดิมบอกอีกหน

ชนัตถ์ได้ชื่อว่าเป็นคนเฉียบขาด บางครั้งดูเหมือนเอาแต่ใจตัวเอง เป็นคนกล้าได้กล้าเสียอย่างคราวที่มีดุสิตธานีมีการประท้วงโดยการนำของเทอดภูมิ ใจดี (สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์คนหนึ่ง) การประท้วงครั้งนั้นชนัตถ์ต้องสูญเสียอะไรหลายอย่าง ทั้งในด้านการค้าและส่วนตัวโดยเฉพาะเจ้า "บิมโบ้" ช้างน่ารักที่นำมาเลี้ยงถูกวางยาจนตาย

ชนัตถ์นั้นรักเจ้าบิมโบ้มากถึงกับ "ร้องไห้" ให้ "ผู้จัดการ" เห็นอย่างไม่อาย…

การประท้วงครั้งนั้นเมื่อสถานการณ์ทำท่าจะรุนแรงและบานปลาย แขกเหรื่อที่มาพักก็ตระหนกตกใจไปกับการกระทำของคนบางกลุ่ม ชนัตถ์เลือกเอาการปิดโรงแรมนานถึง 3 เดือนเป็นการแก้ไขปัญหา ซึ่งวิธีการนี้สุ่มเสี่ยงไม่น้อยเพราะอาจทำให้ภาพพน์ของโรงแรมเสียไปหรือไม่ก็ต้องใช้เวลายาวนานในการกอบกู้สถานการณ์

แต่ชนัตถ์ไม่สนใจ เมื่อตกลงกันไม่ได้ ปิดเป็นปิดถึงจะนาน 3 เดือน ก็ไม่ยี่หระซึ่งภายหลังก็พิสูจน์แล้วว่า การปิดตัวเองนานถึง 3 เดือนไม่กระทบกระเทือนถึงตลาดลูกค้าแต่อย่างใด

ชนัตถ์มีลูกชาย-ลูกสาวกับปวิต 3 คนชื่อชนินทร์-สิณี-สุนงค์ พ่อ-แม่-ลูก 4 คนนี้ จะมายืนเรียงพร้อมหน้ากันก็เมื่องานแต่งงานของคนใดคนหนึ่งเท่านั้น นอกจากนั้นชนัตถ์ขอดูแลลูกด้วยตนเอง ลูกชาย-ลูกสาวทั้ง 3 คนคือผู้สืบทอดภารกิจในอนาคต

ชนิทร์-ลูกชายคนโตที่กำลังมีบทบาทรองลงมาจากแม่ในปัจจุบัน จบบริหารธุรกิจมาจากสหรัฐอเมริกา เคยเป็นอาจารย์สอนหนังสือที่จุฬาฯ พักหนึ่ง ก่อนถูกแม่ขอร้องให้ลาออกเพื่อมาทำธุรกิจของตระกูล "อ้วน" เป็นคนที่เสนอแนวคิดให้ดุสิตธานีขยายตัวไปยังหัวเมืองต่าง ๆ และยังเป็นคนที่จัดแผนกอบรมขึ้นมา

เขามีพร้อมแล้วในความสามารถ รอเพียงบารมีที่ต้องสั่งสม และถ้ามารดาจักสูงส่งเพราะบุตรชาย เขานี่แหละที่น่าจะเป็นตัวอย่างให้เห็นอีกกรณีหนึ่ง "อ้วน" แต่งงานแล้วกับลูกสาวของ พ.อ. จินดา ณ สงขลา มหาเศรษฐีที่ดินอีกคนหนึ่งของเมืองไทย

สิณี-ลูกสาวคนรองที่เข้าควบคุมด้านการเงินของดุสิตธานี ลูกสาวคนนี้แต่งงานเร็วมาก โดยแต่งงานขณะที่ไปเรียนต่อต่างประเทศ เป็นคนเงียบ ๆ ที่ยังไม่มีบทบาทอะไรมากนัก

สุนงค์-ลูกสาวคนสุดท้องที่ชนัตถ์วาง AIM ให้ไปรับผิดชอบศูนย์การค้าเพนนินซูล่าที่เป็นการ DIVERSIFY ธุรกิจอีกรูปแบหนึ่งของตน ซึ่งเพนินซูล่านั้นก็รับซื้อต่อจากตรีทิพย์ เตลาน หลานของตัวเอง ชนัตถ์หวังให้ที่นี่เป็นที่เรียนรู้ของลูกสาวก่อนที่จะมีโครงการขนาดใหญ่ให้เล่นในไม่ช้า สุนงค์แต่งงานแล้วอีกเช่นกันกับลูกชายนายทหารคนหนึ่งที่เคยเข้ามาเลียบ ๆ เคียง ๆ ในชีวิตของชนัตถ์

เมื่อรุ่นพ่อ-แม่ไม่สมหวัง ก็ให้รุ่นลูกเกี่ยวก้อยกันแทนก็แล้วกัน

ทั้ง 3 คนนี้ มีงานหนักที่รอพวกเขาไปสัมผัสแล้วในเบื้องหน้า

ชนัตถ์ได้ชื่อว่าเป็นฐานของพรรคชาติไทยคนหนึ่ง เพราะมีสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับคุณหญิงแร่ม พรหมโรบล เจ้าของโรงแรมเวียงใต้ ที่ก็เป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่งของดุสิตธานี ชนัตถ์-คุณหญิงแร่มร่วมลงทุนด้วยกันในนามบริษัทไอยศวรรค์ ซึ่งคุณหญิงแร่มคนนี้อดีตเคยเป็นกรรมการบริหารพรรคชาติไทย คราวที่พรรคชาติไทยเปิดการประชุมนอกสภาขับไล่รัฐบาลก็จัดกันที่โรงแรมดุสิตธานี

อดีตของชนัตถ์เคยเป็นนายกสมาคมโรงแรม ที่ได้รับการพูดถึงมากว่ามีผลงานที่เห็นได้ชัดมากกว่านายกฯ คนใด โดยเฉพาะการไปโปรโมทการท่องเที่ยวเมืองไทยที่แวนคูเวอร์ แคนาดา และการเรียกร้องให้ลดภาษีโรงแรม เธอเป็นหัวหอกคนสำคัญมากในเรื่องเหล่านี้

ไม่แน่หรอกนะว่านายกสมาคมโรงแรมคนต่อไป เธออาจหวนกลับมาอีกครั้ง!!



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.