ไตรมาส2เพลงจีเอ็มเอ็มร่วง4%


ASTVผู้จัดการรายวัน(14 สิงหาคม 2552)



กลับสู่หน้าหลัก

“จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” ชี้ผลประกอบการไตรมาส 2/2552 มีรายรับทรงตัว โชว์รายได้รวม 1,991 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ 207.9 ล้านบาท ธุรกิจเพลงโดยรวม (Total Music Business) มีรายได้ 840.7 ล้านบาท ลดลง 4% เเผย “ละครหลังข่าว-The Star 5-อีเว้นต์จากต่างประเทศ” เป็นพระเอกเติบโตดีในกลุ่มธุรกิจสื่อ บอร์ดไฟเขียวปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 55 สตางค์

นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 2/2552 ว่า บริษัทฯ มีรายรับทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้รวม 1,991 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 207.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ เพราะแม้ไตรมาสสองจะมีปัจจัยลบรุมเร้า แต่บริษัทฯ ยังสามารถรักษาระดับของผลประกอบการไว้ได้

ทั้งนี้ ธุรกิจเพลงโดยรวม (Total Music Business) มีรายได้ 840.7 ล้านบาท ลดลง 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลกระทบมาจากเหตุการณ์จลาจลเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้มีการยกเลิกและเลื่อนการจัดงาน เพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจบริหารศิลปินมีรายได้ 116.9 ล้านบาท ลดลง 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และธุรกิจโชว์บิซมีรายได้ 47.7 ล้านบาท ลดลง 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ธุรกิจดิจิตอลมีรายได้ 230 ล้านบาท เติบโต 52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านธุรกิจภาพยนตร์มีรายได้ลดลง เนื่องจากไม่มีภาพยนตร์ใหม่เข้าฉายในไตรมาสนี้

สำหรับธุรกิจสื่อมีรายได้ 1,017.1 ล้านบาท เติบโต 13% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยธุรกิจโทรทัศน์มีรายได้ 443.2 ล้านบาท เติบโต 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากละครหลังข่าวและ The Star 5 มีเรตติ้งผู้ชมสูงอย่างต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจวิทยุมีรายได้ 138.5 ล้านบาท ลดลง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการที่งบโฆษณาผ่านสื่อวิทยุโดยรวมลดลง แต่ถือว่าปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการรีแบรนด์ดิ้งคลื่นวิทยุ CHILL 89 FM และ HOT FM 91.5 ขณะที่ธุรกิจสิ่งพิมพ์มีรายได้ 55 ล้านบาท ลดลง 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ถือว่าปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาเช่นกัน

นอกจากนี้ ธุรกิจอีเว้นท์มีรายได้ 380.3 ล้านบาท เติบโต 65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการได้งานอีเว้นท์ใหญ่หลายโครงการทั้งภาครัฐ และเอกชน

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบให้จ่ายปันผลระหว่างกาล 0.55 บาทต่อหุ้น ขณะที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD (ผู้ซื้อหลักทรัพย์ ไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล) ในวันพุธที่ 26 สิงหาคม 2552 และจะจ่ายปันผลในวันพุธที่ 9 กันยายน 2552


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.