ด้วยบทบาทของผู้หญิงทำงานเกี่ยวกับเครื่องประดับ ที่ต้องวิ่งตามวงการแฟชั่นของโลก พร้อมๆ กับภาระของความเป็น "คุณแม่" ยูกิ จะจัดการได้อย่างไร

ยูกิ ศรีกาญจนา ได้ตัดสินใจเข้าร่วมงานกับบริษัท เพนดูลัม จำกัด ในปีแรกของการก่อตั้งเมื่อปี 2535 โดยมีจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ดร.ชัชวิน เจริญรัชต-ภาคย์, ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ร่วมกับ Mr.TAY LIA WEE แห่ง SINCERE WATCH LTD. ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายนาฬิกาชั้นนำ ที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งประเทศสิงคโปร์

ตลาดนาฬิการาคาแพงดูเหมือนว่าไม่มีวันตาย ตลอดเวลา ที่ผ่านมาถึง 8 ปี เธอจะพบว่าในเมืองไทยยังมีลูกค้ากลุ่มหนึ่ง ที่หลงใหลไปกับประดิษฐกรรมทางกาลเวลา ที่ประกอบไปด้วยนวัตกรรม ที่ทันสมัย และยัง เป็นงานศิลป์จ ที่งดงาม โดยไม่เกี่ยงกับราคา ที่ค่อน ข้างสูง นาฬิกาชื่อดัง อย่างเช่น Breitling Franck Muller Hermes IWC Patek Philippe จึงยังคงสามารถทำรายได้ได้ดีตลอดมา และยังสามารถขยาย สาขา ไปเป็น 3 สาขา ในศูนย์การค้าชั้นนำคือ เพนนิน ซูล่า พลาซ่า เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ และดิเอ็มโพเรียม

และเมื่อกลางปี 2543 ที่ผ่านมา บริษัทเพนดูลัมยังได้เข้าไปเป็นตัวแทน จำหน่ายสินค้าแบรนด์ดัง "บุลการี" ซึ่งเป็นเจ้าของอัญมณี และเครื่องประดับ ที่มีชื่อเสียง ก้องโลก ในนามของบริษัท บีวี แอล พาร์ทเนอร์ ซึ่งยิ่งจะเป็นการ ตอกย้ำว่าจะยังเดินหน้าต่อไปในการขายสินค้าราคาแพง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับกลุ่มคนชั้นสูงในสังคม

ก่อนมารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการที่ บริษัท เพนดูลัม ยูกิ เคยผ่านการทำงานมาจาก โรงแรมโอเรียนเต็ล ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ โรงแรมแชงกรี-ล่า และบริษัทเอเยนซีโฆษณา ชื่อดังโอกิลวี่ ในตำแหน่ง Account Executive

ท่ามกลางบทบาทของผู้หญิงทำงาน ยูกิ ศรีกาญจนาได้มีความคิดในการเลี้ยงดูลูกอย่างน่าสนใจ ทีเดียว

ยูกิ มีลูกสาว 3 คน คือ อภินรา, พินพยัพ และ พลอยพยัพ อายุ 11, 10 และ 7 ปี ตามลำดับ ทุกวันนี้เรียนอยู่ ที่โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ เกรด 7, 6 และ 3 ทั้ง 3 คน เริ่มแรกทีเดียวเรียน ที่โรงเรียนจิตรลดา เพราะทั้งเธอ และจุลพยัพ กรรมการผู้จัดการบริษัทอาคเนย์ประกันภัย ผู้เป็นสามีมีความ คิดตรงกันว่า เมื่อลูกเป็นไทย เกิดในเมือง ไทย และต้องทำธุรกิจในเมืองไทย การเรียนภาษาไทยเป็นเรื่อง ที่จำเป็นต้องใช้อย่างแน่นอนโดยเฉพาะงานเอกสาร หรือ เรื่องสัญญาต่างๆ ที่เป็นภาษาไทยทั้งหมด เมื่อลูกอ่านเขียนภาษาไทยได้คล่องระดับหนึ่ง จึงได้เริ่มมองหาโรงเรียนนานาชาติให้เรียน ซึ่งเธอมั่นใจว่าเป็นภาษาอังกฤษเองจะมีความสำคัญไม่แพ้กันในการติดต่อสื่อสาร เพื่อทำธุรกิจการงานกับโลกอนาคต

โดยบทบาททางด้านการงานของยูกิ เป็นงาน ที่ต้องก้าวทันโลก ทันเหตุการณ์ต่างๆ และ ที่สำคัญต้องก้าวทันแฟชั่นของโลก ที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา แน่นอน ว่าการเลี้ยงลูกค้า การเดินทางไปดูงานต่างประเทศเป็นเรื่องหนึ่ง ที่จำเป็น แต่เธอเล่าว่า จะเลือกไปงานกลางคืน และการเดินทางไปต่างประเทศสำหรับงาน ที่จำเป็น จริงๆ เท่านั้น

"ก็แปลกเหมือนกันนะคะ เราก็เป็นผู้หญิงทำงาน ต้องติดต่อธุรกิจ ทั้งวัน แต่เราสามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จในเวลากลางวันได้ ทั้งงานประชุม ทั้งเลี้ยงลูกค้าแต่ผู้ชายกลับยังต้องติดประชุมตอน เย็น และมีงานเลี้ยงลูกค้าต่อกลางคืน" เธอให้ความเห็นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

เมื่อสังคมของผู้ชายในเมืองไทยยังคงเป็นอย่าง นี้ แน่นอนบทบาทสำคัญในการเลี้ยงลูก จึงยังคงอยู่ ที่ ผู้หญิง ดังนั้น งานหนัก ที่บ้านอีกอย่างของเธอเมื่อมาถึงบ้านก็คือ ช่วยลูกทำการบ้าน

"ลูก 3 คน การบ้าน 3 อย่าง เราดูไม่ทันแน่ เครียดมากด้วย เพราะเรียนตามลูกไม่ทัน ตอนนี้เลย ต้องหาครูมาช่วยดูการบ้าน 2 คน อีกคนเรารับหน้าที่เอง ซึ่งไม่หนักมากนะ"

อย่างไรก็ตาม เธอบอกว่าโชคดี ที่หากติดประชุมหรือต้องเดินทางจริง จุลพยัพก็จะแปลงร่างเป็นคุณพ่อ ที่แสนดี กลับมาดูลูกๆ ทำการบ้านได้ทันทีเหมือนกัน และนั่นคือ กำลังใจสำคัญในการทำงานของเธออย่างแท้จริง