บนดินแดนอันสงบริมฝั่งแม่น้ำแควน้อย สถานที่... ที่ ซึ่งประวัติศาสตร์อันยาวนาน
ได้พลิกผ่านไป กลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักร "แควน้อย ริเวอร์พาร์ครีสอร์ท"
ย้อนอดีตกลับไปเมื่อสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งหนึ่งแม่น้ำแควน้อย
เคยเป็นเส้นทางเสด็จประพาสต้น และท่ามกลางบรรยากาศของขุนเขา และสายน้ำบริเวณบ้านลุ่มสุ่ม
อำเภอไทรโยค ห่างจากอำเภอเมืองกาญจนบุรีประมาณ 35 กิโลเมตร ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการแห่งนี้ได้เคยเป็นที่ประทับแรมค้างคืนของพระองค์ท่านมาแล้ว
ลุล่วงถึงปี 2533 ได้มีนักพัฒนา ที่ดินกลุ่มหนึ่ง มองการณ์ไกลเล็งเห็นว่า
ณ จุดนี้มีศักยภาพอย่าง มาก ที่จะพัฒนาเป็นแหล่งพักผ่อนท่องเที่ยว เพราะนอกจากมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติ
ที่มีทั้งขุนเขาตะนาวศรี ที่ทอดตัวยาวเหยียดสลับซับซ้อนไปในหมู่แมกไม้ และลำน้ำแควน้อย
ที่ไหลเอื่อยอ้อยอิ่งทั้งปีแล้ว บริเวณ ใกล้เคียงยังแวดล้อมไปยังสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมาย
เช่น อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ สวนไทรโยค ถ้ำกระแซ ถ้ำเชลย และทางรถไฟสายมรณะ
ปี 2538 ภาวะเศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ยุคผันผวน พร้อมๆ กับการแข่งขันของรีสอร์ตริมน้ำ
ที่เกิดขึ้นมากมายในจังหวัดกาญจนบุรี ศรีนวล เสริมสัย ประธานกรรมการของบริษัทแควน้อยริเวอร์พาร์คคนปัจจุบัน
จึงได้ตัดสินใจซื้อหุ้นทั้งหมดมาบริหารงานเอง
ศรีนวล อดีตนักข่าวสาวคนหนึ่งของหนังสือ พิมพ์ "มาตุภูมิ" ได้มีส่วนร่วมกับโครงการนี้มาตั้งแต่ต้น
และมีความมุ่งมั่นอย่างมาก ที่จะพัฒนาโครงการรีสอร์ตพร้อมกับจัดสรร ที่ดินในโครงการขาย
ด้วยความเข้มแข็งอดทน เธอสามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ผ่านพ้นมาจนได้ จนกระทั่งวันนี้แม้สภาพการขาย
ที่ดินจะชะงักงันไปบ้าง แต่ดูเหมือนว่า ที่พักในรีสอร์ตของเธอจะถูกจองแน่นทุกเสาร์-อาทิตย์
การลงมาลุยงานเองในช่วงบุกเบิกตั้งแต่งานดูแลสวน การก่อสร้าง และงานของแม่ครัว
ทำให้สามารถควบคุมรายจ่ายไว้ได้ ไม่มีการรั่วไหล น่าจะเป็นจุดหนึ่งของความสำเร็จ
ในขณะเดียวกัน จุดขายของโครงการที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ
ของจังหวัดกาญจนบุรี อีกทั้งระยะทาง ที่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 200 กิโลเมตร
ล้วนมีส่วนทำให้โครงการนี้ยืนหยัดมาได้ในที่สุด
การเดินทางไปยังโครงการ นอกจากทางรถยนต์แล้ว สามารถสร้างบรรยากาศใหม่ๆ ด้วยการเดินทางโดยทางรถไฟ
ที่สถานีบางกอกน้อย ขบวนรถไฟสายธนบุรี-น้ำตก แล้วไปลง ที่สถานีลุ่มสุ่ม ซึ่งห่างจากโครงการเพียง
400 เมตร รถไฟจะออกจากสถานี 2 เที่ยว คือ เที่ยวไป เวลา 07.50 น. ถึงสถานีลุ่มสุ่ม
เวลา 12.20 น. และเวลา 13.45 น. ถึงเวลา 17.35 น. ส่วนเที่ยวกลับเวลา 06.05
น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 10.50 น. และเวลา 13.35 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 17.10 น.
เด็กๆ ในโลกยุคอินเทอร์เน็ต เมื่อมาถึง ที่นี่ อาจเรียกร้องขอดูรายการการ์ตูนเน็ทเวิร์คทางช่องยูบีซี
หรือขอสายต่อเล่นเกมกับทีวี เพื่อจะได้สนุกสนานกับเกมต่อสู้ ที่ฟาดฟันกันดุเดือด
ก็ต้องขอบอกไว้ก่อน ว่า ต้องผิดหวังแน่นอน เพราะ ที่นี่ไม่มี
แต่เมื่อเปลี่ยนไปร่วมกิจกรรมการล่องแพในลำน้ำ เด็กๆ จะสามารถจินตนาการได้ว่า
เข้าไปมีส่วนร่วมกับรายการที่มีสาระ อย่างเช่น Discovery Channal หรือ Animal
Planet เพราะสองข้างทาง ของลำน้ำแควน้อย เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ และฝูงนกแปลกๆ
สวยงาม ที่บินเหินฟ้าอยู่ไปมา และจะตื่นตามากขึ้นเมื่อล่องแพผ่านทางรถไฟสายมรณะ
ทางโครงการเคยทำการสำรวจพบว่า "กิจกรรมแคมป์ไฟ" เป็นจุดขายอีกอย่างของ ที่นี่
เกมหลายๆ เกม ที่เกิดขึ้น เพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลินนั้น ได้ฝึกให้ทุกคนกล้าคิด
กล้าทำ และกล้าแสดงออก ณ เวลา นั้น ใครจะมาจากไหน ตำแหน่งอะไร ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป
ทุกคนพร้อม ที่จะจับมือหัวเราะให้กันอย่างเต็มที่
พันตรีคธาวุธ ขจรกิตติยุทธ์ คือ หนึ่งในผู้นำกิจกรรมแคมป์ไฟ ชีวิตของคนคนนี้น่าสนใจทีเดียว
ทุกเย็นวันศุกร์เขาจะขับรถจากกองการบินกรมการขนส่งย่านดอนเมือง กรุงเทพฯ
ซึ่งเป็นที่ทำงานประจำ มาเข้าร่วมประชุมกับทีมงานของรีสอร์ต ที่พร้อมอยู่แล้ว
เพื่อเตรียมวางแผนรับมือกับแขกทั้งหมด
ในเช้าวันเสาร์ ก็ต้องตรวจตราความเรียบร้อยทั้งหมด ใกล้เ ที่ยงได้เวลาต้อนรับแขก
ที่ลงจากรถคันแล้วคันเล่าอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส และคอยบริการในเรื่องต่างๆ
จนกระทั่งส่งแขกลงกิจกรรมล่องแพในช่วงบ่าย 3 โมงเย็น
พลบค่ำ งานหนักของเขาเริ่มอีกครั้ง เมื่อต้องเป็นผู้นำในการเล่นเกมรอบกองไฟ
เป็นเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงหลังจากนั้น ก็อาจจะเข้าร่วมร้องเพลงคาราโอเกะไปจนถึงตี
2 ก่อน และรีบตื่นแต่เช้าในวันอาทิตย์ เพื่อดูแลแขก ที่เดินทางไปถ้ำเชลย
หรือร่วมเล่นเปตอง ปิงปอง แบดมินตันกับแขกคนอื่นๆ ที่ยังเหลืออยู่ ก่อน ที่จะไปดูแลความเรียบร้อยเรื่องอาหารเ
ที่ยง
ตกบ่ายผู้มาเยือนเริ่มทยอยกลับ บ่ายแก่ๆ คธาวุธจะมีการประชุมสรุปงานอีกครั้งกับทีมงาน
ก่อน ที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ เพื่อเตรียมตัวรับหน้าที่ของงานประจำในตอนเช้า
งานออฟฟิศ ที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ศรีนวลจะเป็นผู้รับผิดชอบหลักในเรื่อง
ของการทำตลาด คัดเลือกแขก ทำแผนโปรโมชั่นต่างๆ แต่เมื่อแขกถึง ที่พัก คธาวุธจะรับหน้าที่ต่างๆ
ต่อทันที ทั้งสองจะแบ่งแยกหน้าที่กันอย่างชัดเจน แต่จะรับบทบาทร่วมกันในความเป็นพ่อ
และแม่ของน้อง "แคว" หรือเด็กหญิงนวารี อายุ 5 ขวบ และน้อง "ภู" เด็กหญิงภูนัชชา
(แปลว่าแม่น้ำ ที่ไหล ผ่านภูเขา) วัย 3 ขวบ
ยามบ่ายสายน้ำในลำน้ำแควน้อยยังคงไหล อ้อยอิ่ง รอบๆ รีสอร์ตกลับคืนสู่ความสงบเงียบอีก
ครั้งหนึ่ง เมื่อแขกค่อยๆ ทยอยกลับ ในร้านอาหาร ริมแคว ไมค์คาราโอเกะได้กลับคืนสู่มือน้องแคว
น้องภูอีกครั้ง เอาล่ะ..ได้เวลา "พ่อขุน" กับ "แม่อี๊ด" ต้องเทคแคร์แขกคนสำคัญ
2 คนนี้บ้างแล้ว