ในตอนค่ำของวันอังคารที่ 31 มีนาคม 2530 บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ร่วมเสริมกิจ
จำกัดได้จัดงานเลี้ยงใหญ่แก่ลูกค้าเพื่อแนะนำคณะกรรมการบริหารชุดใหม่อีกวาระ
งานเลี้ยงวันนั้นจัดขึ้นที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมโอเรียนเต็ล
คณะกรรมการบริหารทุกคนมากันพร้อมหน้าพร้อมตา ผู้ถูกรับเชิญซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าของบริษัทฯ
นับร้อย ๆ คนแออัดอยู่ในห้องแกรนด์บอลรูมจนดูเหมือนว่าห้องเล็กลงไปถนัด
บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ร่วมเสริมกิจ จำกัดนั้น มี ดร. อำนวย วีรวรรณ เป็นประธานกรรมการ
แต่วันนั้น ประธานกรรมการของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ร่วมเสริมกิจเข้ามาในงานทำหน้าที่ต้อนรับลูกค้าและแขกเหรื่ออยู่ได้เพียงชั่วครู่ก็กลับไป
คณะกรรมการบริหารซึ่งนำโดย ภุชฌงค์ วงศ์วสุ ประธานคณะกรรมการบริหารยืนเรียงแถวต้อนรับลูกค้าอยู่หน้าห้องแกรนด์บอลรูม
อย่างขมักเขม้น
และงานนี้คนที่เด่นที่สุดเห็นจะต้องยกให้กับ ชาตรี โสภณพนิช
ชาตรี โสภณพนิช ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาคณะกรรมการบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ร่วมเสริมกิจ
จำกัด แต่คืนนั้นเขาไม่ได้ทำหน้าที่เพียงที่ปรึกษาคณะกรรมการเสียแล้ว
เพราะชาตรี โสภณพนิช เดินตรวจงานตั้งแต่เริ่มงานยันงานเลิก เขาทำหน้าที่ต้อนรับขับสู้ไม่ปล่อยให้แขกเหรื่อยืนอยู่ในงานอย่างเหงาหงอย
ชาตรี โสภณพนิช ในคืนนั้นนำลูก ๆ ของตัวเองทุกคนเข้าร่วมในงานนี้ด้วย เขาถูกรุมล้อมด้วยผู้สื่อข่าวพร้อมช่างภาพจากที่ต่าง
ๆ ที่คอยติดตามถ่ายรูปแทบทุกฝีก้าว
งานเริ่มไปได้ครู่หนึ่งภายหลังจากที่ ดร. อำนวย วีรวรรณ กลับไปแล้ว ในขณะที่เขากำลังยืนคุยกับลูกค้ารายหนึ่ง
พนักงานของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ร่วมเสริมกิจคนหนึ่ง ก็เข้ามากระซิบอะไรบางอย่าง
ชาตรี โสภณพนิช เอียงหูฟัง พลางพยักหน้ารับ
ชาตรี โสภณพนิช เดินขึ้นเวทีด้วยใบหน้าที่ดูเหมือนอมยิ้มเสียงเซ็งแซ่ภายในห้องก็เริ่มเงียบลงเมื่อชาตรีเดินไปถึงกลางเวทีที่มีไมโครโฟนวางรออยู่
ภายหลังการกล่าวทักทายสวัสดีกับผู้คนภายในงานแล้วเขากล่าวว่า
"...มีหลายคนแปลกใจและถามผมว่างานนี้จัดขึ้นมาเพื่ออะไร ผมก็ขอตอบเสียตอนนี้เลยว่างานนี้จัดขึ้นเพื่อเลี้ยงลูกค้าครับ
ร่วมเสริมกิจไม่ได้เลี้ยงลูกค้ามานานแล้ววันนี้ก็เลี้ยงเสียเลย..."
ชาตรี โสภณพนิช ทำหน้าที่แจ้งวัตถุประสงค์การจัดงานนี้ขึ้นมาเสร็จสรรพ
"....พร้อมกันนี้ ผมก็อยากจะกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารชุดใหม่
ซึ่งหลายคนก็สงสัยว่า ทำไมต้องเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหาร ซึ่งผมคิดว่าเมื่อถึงเวลาช่วงหนึ่งก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง...คนบางคนก็ชราแล้วถึงเวลาเกษียณ...เลื่อนคุณสุจินต์
วงศ์ไพศาล ขึ้นเป็นรองประธานกรรมการแล้วให้ ดร. ชัยยุทธ ปิลันธ์โอวาท ขึ้นเป็นกรรมการผู้อำนวยการแทน..."
ชาตรี โสภณพนิชกล่าวเพิ่มเติม ตอบข้อสงสัยของหลาย ๆ คนที่ถามว่า การเลื่อนและเปลี่ยนตำแหน่งครั้งนี้มาจากข้อผิดพลาด
เรื่องโครงการเมืองใหม่เจ้าพระยา 2 และโครงการไดมอนด์ทาวเวอร์หรือไม่อีกด้วย
อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศรายชื่อกรรรมการบริหารชุดใหม่วันนี้ทุกคนอีกด้วย
"มันไม่ได้เป็นข้อผิดพลาดของใครหรอก เพียงแต่อยากให้คนหนุ่ม ๆ เข้ามาทำงานบ้าง
ดร. ชัยยุทธเขาก็เป็นคนเก่งคุณสุจินต์ปีนี้แกก็ 60 แล้วก็ถึงเวลาเกษียณเสียที
เขาก็มีประสบการณ์มาก ซึ่งมันก็เหมาะสมแล้ว" ชาตรี โสภณพนิช กล่าวเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าว
ภายหลังจากที่เดินลงมาจากเวทีแล้ว
ชาตรี โสภณพนิช เดินนำผู้สื่อข่าวไปตามโต๊ะที่วางอาหารต่าง ๆ ซึ่งวันนี้เป็นงานเลี้ยงแบบค็อกเทลเขากล่าวสัพยอกหยอกล้อกับผู้สื่อข่าวดูเสมือนว่าคำตอบบางคำตอบเป็นคำตอบเล่น
ๆ
ในขณะที่ยืนคุยให้ผู้สื่อข่าวหลายคนได้หัวเราะกันอยู่นั้นก็มีฝรั่งชายหญิงสองคนเดินผ่านมา
ทั้งสองใส่กางเกงขาสั้น เสื้อยีนเก่า ๆ รองเท้าผ้าใบขาด ๆ
"นี่ลูกค้ารับเชิญของร่วมเสริมกิจ หรือฮะ" คนหนึ่งถาม
"เฮ่ย ไม่ใช่ (หัวเราะ) เอ่อ ดีแฮะ ฝรั่งมันไม่รู้เรื่องก็เดินเข้ามาเที่ยวด้วย
ดูซิ (หัวเราะ)" ชาตรี โสภณพนิช กล่าว
คืนนั้นชาตรี โสภณพนิช เดินเข้าทักทายลูกค้าของร่วมเสริมกิจเกือบทุกคน
เขาคล้องแขนลูกสาวยืนให้ช่างภาพถ่ายรูป
ลูกสาวของชาตรี โสภณพนิช คือสาวิตรี โสภณพนิช ซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารและผู้จัดการฝ่ายหลักทรัพย์ร่วมเสริมกิจอยู่ด้วยนั้น
ก็ดูเด่นเป็นพิเศษไม่แพ้ผู้พ่อ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเพราะเธอเป็นลูกสาวของชาตรี
โสภณพนิชหรือเปล่า ทุกครั้งที่เธอเดินไปต้อนรับลูกค้า หน้าห้องแกรนด์บอลรูมพร้อมกรรมการบริหารคนอื่น
ๆ ดูเหมือนเธอจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากลูกค้า จนบางครั้งท่าทีที่เคอะเขินของเธอก็ถูกแสดงออกมาอย่างแจ่มชัด
เมื่อถูกบางคนพูดหยอกล้อ
ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้ว ถึงแม้ว่าชาตรี โสภณพนิช จะดำรงตำแหน่งในบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์แค่ตำแหน่งที่ปรึกษาคณะกรรมการบริษัท
แต่จริง ๆ แล้วเขาคือเจ้าของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ร่วมเสริมกิจอย่างไม่ต้องสงสัย
และจึงไม่น่าแปลกที่คืนวันนั้น ชาตรี โสภณพนิช ทำหน้าที่ต้อนรับขับสู้เอง
เป็นทั้งคนให้ข่าวสารเกี่ยวกับการเปลี่ยนตำแหน่งผู้บริหาร และแม้แต่โฆษณาบนเวที
จนกระทั่งงานเลิก
ชาตรีคืนนั้นแสดงตัวโอ่อ่าเปิดเผยอย่างไม่มีที่ติจริง ๆ