SNCมั่นใจปีนี้รายได้เข้าเป้า20% เร่งบริหารต้นทุนคุมค่าใช้จ่ายหวังมาร์จิ้นสูง


ASTVผู้จัดการรายวัน(4 สิงหาคม 2552)



กลับสู่หน้าหลัก

เอส เอ็น ซี มั่นใจปีนี้รายได้เข้าเป้า 20% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 4 พันล้านบาท ขณะกำไรโตระดับ 40% จากผลงานครึ่งปีแรกออกมาสวย เหตุธุรกิจ OEM ฟื้นลูกค้าขยายดันกำลังผลิตเพิ่มเป็น 50% แจงบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบ สินค้าคงคลังและค่าใช้จ่ายหวังมาร์จิ้นพุ่ง พร้อมปันผลหุ้นละ40 สต.

นายสามิตต์ ผลิตกรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SNC เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปี 52 จะเติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้ 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 4,000 ล้านบาท ในส่วนของกำไรคาดว่าจะเติบโต 40% จากปีก่อนที่ 99 ล้านบาท โดยช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทมีผลประกอบการที่ดีรายได้ 3,000 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 72 ล้านบาท โดยรายได้หลักปีนี้มาจากธุรกิจสินค้าสั่งผลิต (OEM) อีกทั้งการบริหารจัดการด้านต้นทุนได้ดีขึ้น โดยไตรมาสแรกที่ผ่านมามีอัตรากำไรขั้นต้น(Gross Profit Margin)อยู่ที่ 5% และไตรมาส 2 ขยับเป็น 6% คาดครึ่งปีหลังอัตรากำไรขั้นต้นน่าจะดีขึ้นจากการบริหารความเสี่ยงวัตถุดิบทองแดงและสินค้าคงคลังได้ดีขึ้น

ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของบริษัทแบ่งเป็นการผลิตเครื่องทำความเย็นกว่า 90% ธุรกิจ OEM 60-70% ผลิตอะไหล่ประมาณ 20% ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ 5% และผลิตชิ้นส่วนอื่น ๆ 1-2% ปัจจุบันการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 40-50% ลดจากปีก่อนที่ใช้อยู่ 70% ขณะธุรกิจ OEM ปีนี้ใช้กำลังการผลิต 50% เพิ่มจากปีก่อนที่ใช้กำลังผลิตเพียง 10% และการผลิตชิ้นส่วนท่อทองแดงปีนี้ใช้กำลังการผลิต 50% ลดจากปีก่อนที่ใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 70%

สำหรับปีนี้บริษัทคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 90 ล้านบาท สำหรับธุรกิจผลิตสิ้นส่วนพลาสติก ซึ่งจะทยอยติดตั้งเครื่องจักร และมีฐานลูกค้าเป็นลูกค้าเดิมทั้งในส่วนของแอร์บ้าน เครื่องซักผ้า และตู้เย็น คาดเริ่มดำเนินการได้ปลายปีนี้ และตั้งเป้ารายได้ส่วนธุรกิจดังกล่าวปีหน้าประมาณ 200 ล้านบาท หรือ 5% ของรายได้รวม

" เราบริหารความเสี่ยงวัตถุดิบทองแดงเป็นอย่างดี เพราะจะช่วยลดผลกระทบเรื่องราคาและลดสต๊อกสินค้า โดยไตรมาส 4 ที่ผ่านมาเราขาดทุนจากทองแดงประมาณ 40 ล้านบาท ปีนี้เราคาดว่าจะบริหารได้ดีขึ้น และไม่น่าจะขาดทุน และราคา Spot ทองแดงปัจจุบันอยู่ที่ 5.4 พันเหรียญต่อตัน จึงคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้น่าจะดีขึ้น จากการลดค่าใช้จ่าย คุมต้นทุนและรุกงานต้นน้ำมากขึ้นและอยู่ระหว่างการมองหาช่องทางการลงทุนเพิ่ม "นายสามิตต์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม บริษัทประเมินแนวโน้มอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศที่ยังดีอยู่ โดยพบว่าแอร์บ้านส่งออกสูง บริษัทคาดว่าน่าจะได้ออเดอร์เพิ่มขึ้นจากลูกค้าเดิมในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมูลค่าทั้งหมดของกลุ่มการผลิตเครื่องปรับอากาศทั้ง 5 โมเดล อยู่ที่ 4-5 แสนเครื่อง หรือคิดเป็นมูลค่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทผลิตเพียง 4 โมเดล คาดน่าจะได้รับจ้างเพิ่มขั้นอีก 1 โมเดล

สำหรับการซื้อหุ้นคืน 14 ล้านหุ้นนั้น บริษัทคาดว่าจะได้ข้อสรุปปีนี้ว่าจะขายคืนในรูปแบบใด หากมีผู้ร่วมทุนที่ดีเข้ามาและราคาเป็นไปตามเป้าหมาย ก็อาจจะพิจารณา โดยปัจจุบันยังไม่ได้มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ

พร้อมกันนี้คณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลอัตราหุ้นละ 0.40 บาท กำหนดจ่ายวันที่ 28 สิงหาคม 52 และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 17 สิงหาคม 52


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.