|
ปกรณ์ปลื้มตลาดหุ้นไทยแข่งนอก พลาดเป้าเพิ่มบจ.ใหม่ชี้ศก.โลกซบ
ASTVผู้จัดการรายวัน(4 สิงหาคม 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
"ปกรณ์" ฟุ้งผลงาน 2 ปี รั้งประธานตลาดหลักทรัพย์ฯ แปลงสภาพตลาดหุ้นไทย เพิ่มขีดการแข่งขันตลาดหุ้นไทย ดึงเม็ดเงินต่างชาติเข้าลงทุน –แก้ไขปัญหา บล.ทีเอสเอฟซี กลับมาทำธุรกิจปกติได้ แม้พลาดเป้า"การเพิ่มบจใหม่ " อ้างได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบต่างประเทศหลังเศรษฐกิจโลกวิกฤต ลั่นเศรษฐกิจไทยฟื้นหรือไม่ดูตัวเลข ส่งออก ท่องเที่ยว การลงทุน อุปโภคบริโภค
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า จากการดำรงตำแหน่งประธานตลาดหลักทรัพย์ฯ 2 ปี ซึ่งจะครบวาระ 21 สิงหาคมนี้ โดยจะได้รับพิจารณาให้ต่ออีกวาระหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ซึ่งผลงานที่พอใจในช่วงดำรงตำแหน่งนั้น คือ การเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับตลาดหุ้นไทยเพื่อแข่งขันกับตลาดหุ้นต่างประเทศ ในการดึงดูดเม็ดเงินออมเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยโดยการแปลงสภาพของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งได้ร่วมมือกับ ก.ล.ต. ว่าจ้างที่ปรึกษาเข้ามาศึกษาคือ บอสตันคอนเซาท์ติ้ง กรุ๊ป ซึ่งมีการดำเนินงานตามขั้นตอน
ทั้งนี้ จากการจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทย ซึ่งมี นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานนั้นได้นำเรื่องการปฏิรูปของตลาดหลักทรัพย์ฯเป็น 1 ในมาตรการของแผนพัฒนาตลาดทุนไทย โดยเรื่องที่สำคัญคือการแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องในการแปลงสภาพตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นบริษัทจำกัด (มหาชน) ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ปรับโครงสร้างองค์กรแล้ว ซึ่งมีการแยกสายงานพัฒนาตลาดทุนออกจากการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์ฯทำให้การทำงานของ ตลท . มีเป้าหมายมากขึ้น
โดย ตลท. ได้ทำตามเป้าหมายที่วางไว้คือการลดค่าใช้จ่าย การเพิ่มรายได้ จากการปรับโครงสร้างองค์กร และส่วนตัวได้เสนอแนะต่อคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทยเรื่องการกำหนดแผนพัฒนาตลาดทุน 5 ปี ซึ่งจุดนี้ ตลท. ได้มีส่วนร่วมในเรื่องการดำเนินการดังกล่าว ส่วนการแก้ไขและปรับโครงสร้างทางการเงินและทุนให้กับบริษัทหลักทรัพย์(บล.)เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จำกัด (มหาชน)หรือ TSFC ซึ่ง ตลท. เป็นแกนนำในการแก้ไขปัญหา
"ตลท. ได้ใช้เงินในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนของTSFC 250 ล้านบาท ทำให้กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ1 โดยขณะนี้ TSFC สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจตามปกติได้แล้ว และทางธนาคารพาณิชย์ 5 แห่ง ได้มีการอนุมัติวงเงินกู้ให้รวม 3,000 ล้านบาท"นายปกรณ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามผลงานที่ไม่ประสบผลสำเร็จ คือการเพิ่มจำนวนบริษัทเข้ามาจดทะเบียนใน ตลท. ไม่ได้ตามเป้าหมาย เพราะได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกคือภาวะเศรษฐกิจโลก ภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ ทำให้ไม่เป็นไปตามที่ตลาดลหลักทรัพย์ฯหวังไว้ ซึ่งเศรษฐกิจไทยจะมีการฟื้นตัวหรือไม่นั้น จะต้องมีการดูตัวเลข การส่งออก ท่องเที่ยว การลงทุน การอุปโภคบริโภค ว่ามีการปรับตัวดีขึ้นหรือไม่ แต่จากที่รับฟังข้อมูลจากนางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะมีการปรับตัวดีขึ้นในหลายๆด้าน เพราะ เศรษฐกิจไทยขณะนี้ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก โดยชื่อว่านโยบายการเงิน และการคลังที่ออกมานั้นจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวได้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|