“ทิปโก้”แก้เกมฟังก์ชันนัลดริงก์ ยกเครื่อง“ดาการะ”-ชะลอตัวใหม่


ASTVผู้จัดการรายวัน(3 สิงหาคม 2552)



กลับสู่หน้าหลัก

“ทิปโก้ –ซันโตรี่” ชะลอแผนปั้นฟังก์ชันนัลดริงก์ตัวใหม่ลงตลาด ทุ่ม 50 ล้านบาท ยกเครื่องดาการะใหม่ในไตรมาส 4 หวังปลุกปั้นให้ติดตลาด ก่อนสยายปีกบุกอาเซียน จ่อคิวเปิดตลาดฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย โอดเศรษฐกิจถดถอย ไข้หวัด 2009 ระบาด ลุ้นสิ้นปีนี้ยอดขายโต 2 หลัก จากรายได้ปีที่ผ่านมา 5,130ล้านบาท

นายวิวัฒน์ ลิ้มศักดากุล รองประธานและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ทิปโก้ฟูดส์ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลไม้ทิปโก้และฟังก์ชันนัลดริงก์ดาการะ เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มงบ 50 ล้านบาท รีลอนช์ฟังก์ชันนัลดริงก์ภายใต้แบรนด์ “ดาการะ” ใหม่ หลังจากทำตลาด 5-6 เดือนที่ผ่านมา แต่การตอบรับไม่ได้ดีมากนัก โดยจะมีการปรับรสชาติใหม่ และการสื่อสารที่สร้างการรับรู้ในง่ายมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไตรมาส 4

สำหรับแผนการทำตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์ ด้วยการเปิดสินค้าใหม่ๆ คงต้องชะลอจากแผนเดิมออกไปก่อนเป็นปีหน้านี้ เพราะบริษัทต้องการโฟกัสดาการะแจ้งเกิดก่อน เนื่องจากเป็นสินค้าฟังก์ชันนัลดริงก์ตัวแรก ที่เป็นการร่วมทุนระหว่างทิปโก้กับซันโตรี่ ผู้ประกอบการเครื่องดื่มในญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีเป้าหมายปั้นดาการะบุกตลาดอาเซียนในปีหน้านี้ อาทิ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย จากแผนที่บริษัทต้องการขยายตลาดในช่วง 3 ปี

“การทำตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์ในอาเซียน อย่างประเทศฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มองว่ามีความง่ายมากกว่าในประเทศไทย โดยเฉพาะในแง่ของการสื่อสารเมื่อเทียบกับไทยยังมีข้อจำกัดมากกว่า อีกทั้งพฤติกรรมผู้บริโภค ก็พร้อมยอมรับกับฟังก์ชันนัลดริงก์แล้ว อย่างไรก็ตามบริษัทมองว่าเทรนด์ตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์ ยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพในไทย แต่ยังอยู่ในช่วงเวลาสร้างตลาด”

นายวิวัฒน์ กล่าวว่า การทำตลาดกลุ่มน้ำผลไม้ บริษัทได้หันมามุ่งเน้นการจัดกิจกรรม ณ จุดขาย และ และปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่ให้มีความสะดุดตา เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดของทิปโก้ ด้วยการครองส่วนแบ่ง 49-51% ส่วนมาลี 17% และยูนิฟ 15% จากสถานการณ์ตลาดน้ำผลไม้แข่งขันการใช้กลยุทธ์ราคาอย่างรุนแรง และยังทำลายภาพลักษณ์น้ำผลไม้ และผู้บริโภคคุ้นเคยกับราคาจากการทำโปรโมชัน

“เราต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ เพื่อรองรับกับปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย หรือกระทั่งการแพร่ระบาดไข้หวัด 2009 ส่งผลให้คนลดกิจกรรมนอกบ้าน ส่วนสถานการณ์ตลาดต่างประเทศ ขณะนี้การส่งออกยังได้ราคาดีอยู่ แต่กำลังการซื้อหดตัว โดยเฉพาะในยุโรป แต่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง”

สำหรับกลุ่มเครื่องดื่มธัญพืชเนเจอร์ อัพ บริษัทได้เปิดตัวสินค้าผงสำเร็จรูปพร้อมดื่ม เพื่อขยายการดื่มภายในบ้าน หรือรูปแบบเครื่องดื่มชนิดร้อน จากปัจจุบันมีบรรจุภัณฑ์เป็นรูปแบบพร้อมดื่ม พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมเปิดตัว 2 รสชาติใหม่ เพื่อสร้างความหลากหลาย สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรก ไม่มีอัตราการเติบโต เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และรายได้ทั้งปีคงต้องรอลุ้นว่าจะเติบโตมากกว่า 10% ตามเป้าหมายหรือไม่ จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 5,130 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.