แคลิฟอร์เนีย ว้าว!!!ไม่ออก รายได้หด-ปัญหาบริการอื้อ


ASTVผู้จัดการรายวัน(20 กรกฎาคม 2552)



กลับสู่หน้าหลัก

แคลิฟอร์เนียร์ ว้าว วืดเป้ารายได้ต่อเดือนหดลงเหลือ 120 ล้านบาท จาก 150 ล้านบาท เหตุการเมืองทำพิษ ปีนี้มุ่งขายแพกเกจแบบสั้น เห็นมาร์จิ้นสูง ทั้งปีขอ 1,500 ล้านบาท หลังปีก่อน ทำได้ถึง 1,800 ล้านบาท จากทั้งหมด 10 สาขาในปัจจุบัน

นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะ ผู้ถือหุ้นใหญ่จำนวนกว่า 36.7% บริษัท แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียน หรือ CAWOW เปิดเผยว่า ช่วงปีที่ผ่านมา ในส่วนของแคลิฟอร์เนีย ว้าว ได้มีการทำตลาดและมุ่งเพิ่มสมาชิกอย่างเต็มที่ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดี แต่พบว่ามีปัญหาตามมาค่อนข้างสูง กล่าวคือ ส่วนหนึ่งของทีมการขาย จะมุ่งเรื่องการขายแพกเกจการให้บริการเกินจริง ส่งผลให้ลูกค้าอาจจะไม่ได้รับบริการตามที่กล่าวไว้ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาตามมา

แต่ขอยืนยันว่าแพกเกจที่จัดทำขึ้นเพื่อบริการลูกค้านั้น จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง หากลูกค้าซื้อตามแพกเกจและศึกษาดีแล้ว จะไม่มีทางเกิดปัญหาตามมา หรือมีการเลื่อนโปรแกรมการสอนออกไปแน่นอน ขณะเดียวกันทางบริษัทมีบุคลากรที่จะทำการสอน และแนะนำการออกกำลังกายมากพอที่จะให้บริการ จึงไม่น่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น ดังนั้นจึงขอให้สมาชิกและลูกค้าศึกษารายละเอียดแพกเกจการให้บริการให้ดีก่อน และหากยังเกิดปัญหาต่างๆตนยินดีรับฟังคำร้องและคำแนะนำ เพื่อจะได้นำไปแก้ไขปัญหาต่อไป

รวมไปถึงปัญหาเรื่องของหายจากตู้ลอกเกอร์ ถือเป็นอีกปัญหาที่ยอมรับว่ามีร้องเรียนเข้ามาค่อนข้างเยอะ ซึ่งทางบริษัทก็ได้เข้มงวดเรื่องความปลอดภัยดังกล่าวให้มากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถติดตั้งกล้องวงจรปิดได้ เพราะสถานที่ตรงนี้ ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งอาจจะไปละเมิดสิทธิ์ของลูกค้าบางรายได้

“การที่ทีมฝ่ายขายมุ่งขายแพกเกจออกกำลังกายครั้งนี้ อาจจะทำให้ได้ฐานลูกค้าที่กว้างมากขึ้น ดังนั้นสมาชิกที่เข้าบริการจึงมีหลากหลายตั้งแต่กลางถึงบน จึงทำให้อาจจะมีปัญหาเรื่องของหายบ้าง”

นายวิชา กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมรายได้ของแคลิฟอร์เนีย ว้าวนั้น ช่วงปลายปีที่ผ่านมา มีรายได้ลดลง สาเหตุสำคัญมาจากปัญหาทางการเมืองเป็นหลัก ส่งผลให้เฉลี่ยแต่ละเดือนที่จะต้องมีรายได้ประมาณ 150 ล้านบาท ลดลงเหลือ 120-123 ล้านบาทแทน โดยเฉพาะในช่วง3เดือนสุดท้ายของปีก่อนที่มีการปิดสนามบิน ซึ่งอัตรารายได้ตรงนี้ ปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่ โดยตัวเลขรายได้ของไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา ตกลง 2-3% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรกของปีก่อน ส่วนไตรมาสสองเริ่มดีขึ้น มีการเติบโต 10% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน สำหรับไตรมาสสาม ต้องดูสถานการณ์อีกครั้ง แต่น่าจะทำได้ดีขึ้น ส่วนภาพรวมทั้งปีน่าจะมีรายได้ที่ประมาณ 1,400-1,500 ล้านบาท ขณะที่ปีก่อน ทำได้ถึง 1,800 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ทางบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่ จากเดิมที่รุกหนักในส่วนของการขายแพกเกจแบบลองเทอม ซึ่งดูแล้วผลตอบรับหรือรายได้ที่กลับมาไม่ค่อยดี ปีนี้จะมุ่งการขายแบบดิวแทน หรือแบบระยะสั้น เพราะเห็นถึงกำไรที่ดีกว่า รวมถึงกลับมาเน้นในเรื่องของการให้บริการลูกค้าเป็นหลักมากยิ่งขึ้น ขณะที่การลงทุนขยายสาขานั้น จะไม่เน้นขอทำให้สาขาที่มีอยู่มีความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่านี้ก่อน ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 10 สาขา ขณะที่สาขาที่ 11 คือ ที่เอสพละนาด รัตนาธิเบศร์ จะเปิดให้บริการในช่วงปลายปีนี้


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.