เมื่อประกิต ประทีปะเสนเป็นพ่อสื่อ


นิตยสารผู้จัดการ( พฤศจิกายน 2530)



กลับสู่หน้าหลัก

"ผมจำได้ว่าตั้งแต่ผมทำหน้าที่พ่อสื่อจับบริษัท 2 บริษัทมาแต่งงานกัน ไม่เคยได้เงินค่าธรรมเนียมเกิน 100,000 บาทเลย ในขณะที่ต่างประเทศหน้าที่พ่อสื่อนี้ทำเงินได้แต่ละครั้งอย่างต่ำไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ฯ ประกิต ประทีปะเสนเจ้าหน้าที่ระดับผู้ช่วยกรรมการใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ปัจจุบันคุมรายงานด้านสินเชื่อ ได้เล่าถึงความตอนหนึ่งจากประสบการณ์ของตนเองในการเป็น MERCHANT BANKER ที่เขานิยามเป็นภาษาไทยง่าย ๆ ว่า "พ่อสื่อ" ให้กับบรรดาสมาชิกและผู้สนใจที่เข้ามาร่วมสัมมนาหัวข้อเรื่อง "การรวมกิจการ/การซื้อกิจการ" จัดโดยบริษัท บี.เอ็ม.เอส. และ สโมสรผู้บริหารการเงิน (YOUTH FINANCIAL EXECUTIVE CLUB) เมื่อกลางเดือนตุลาคมนี้"

หน้าที่ "พ่อสื่อ" ในการรวมกิจการ หรือเข้าซื้อกิจการเป็นเรื่องที่ไม่ใช่จะทำได้ง่าย ๆ ต้องใช้ความรู้และความสามารถในการเจรจาอย่างมากกว่าจะสำเร็จ แต่เถ้าแก่ในวงการธุรกิจไทยไม่ค่อยจะเห็นคุณค่าเท่าไรนักและที่น่าเห็นใจอย่างมาก ก็คือเถ้าแก่มักจะตีค่าความยากลำบากนี้ในราคาถูก ๆ

ในหลายกรณี (CASE) ที่เกิดขึ้นเถ้าแก่มักจะแต่งงานกันเอง โดยไม่พึ่งพ่อสื่อ เหตุผลสำคัญก็เพราะไม่สิ้นเปลืองค้าใช้จ่าย !

ด้วยความที่เป็นคนที่มีพื้นเพการทำงานในสายงานหารายได้เข้าแบงก์มาโดยตลอด 11 ปี ประกิต ประทีปะเสน จึงมีประสบการณ์หลากหลายในการ DEAL กับพ่อค้าทุกระดับ และร่วงรู้ถึงสถานะการทำธุรกิจแต่ละประเภทได้ดีในฐานะที่เป็นผู้แทนของ "เจ้าหนี้" ที่มีหน้าที่คอยดูแล "ลูกหนี้" ไม่ให้ล้มหายตายจากไป

ในราย "ลูกหนี้" ที่เข็นไปไม่ไหวจริง ๆ ประกิตจะหาทางออกให้ โดยทำหน้าที่พ่อสื่อหาบริษัทที่แข็งแรงกว่า ส่วนใหญ่จะหามาจากกลุ่มลูกค้าของธนาคารไทยพาณิชย์เอง มาซื้อกิจการบริษัทลูกหนี้ที่มีปัญหา กรณีซอสโรซ่าเป็นตัวอย่าง ประกิตเป็นผู้ดูแลลูกหนี้รายนี้ด้วยยอดหนี้ประมาณ 80 ล้านบาท เมื่อโรซ่าประสบปัญหาเรื่องการเงินเนื่องจากการจ่ายเกินตัว และการรั่วไหลทางการเงิน อีกทั้งผู้บริหารมีความขัดแย้งกัน ประกิตเห็นว่าลักษณะของปัญหาเช่นนี้ยากต่อการแก้ไข จึงหาบริษัทในเครือเต็กเฮงหยูชื่อ เอสจีไอ เข้ามาซื้อกิจการในราคา 31 ล้านบาท

กล่าวกันในวงการ BANKER แล้ว ฝีมือแก้ปัญหาลูกหนี้รายนี้ของประกิตเยี่ยมยุทธ์จริงๆเพราะงานนี้ธนาคารไทยพาณิชย์ฟาดไปฟรี ๆ 31 ล้านบาท ขณะที่เจ้าหนี้รายอื่น ๆ เช่น บงล.สินเอเชีย และสหธนกิจไทยกำลังอยู่ในอาการงง ๆ เป็นไก่ตาแตก…แต่ประกิตไม่สนเพราะถือว่างานนี้ธนาคารไทยพาณิชย์ถือไพ่เหนือกว่าเจ้าหนี้รายอื่น ในฐานะเป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิ์

น่าเสียดาย งานพ่อสื่อรายนี้ ประกิตไม่ยักกะบอกกับ "ผู้จัดการ" ว่า ฟาดค่าธรรมเนียมเข้าแบงก์เกิน 100,000 บาท หรือเปล่า

นั่นแหละที่ควบคุมดูแลลูกหนี้รายนี้จำนวนมูลค่าหนี้ประมาณ 50 ล้านบาท ความที่บริษัทสยามอินซูเลเตอร์ของเสี่ยธีระ บุณยะโหตระ มีปัญหารผลการดำเนินงานนับว่าตั้งแต่เสี่ยธีระทะเลาะกับการไฟฟ้านครหลวง ฐานการไฟฟ้า ฯ ไม่ซื้อลูกถ้วยไฟฟ้าจากบริษัท แต่ไปซื้อจากจีนแดงแทนตั้งแต่นั้นมาเสี่ยธีระก็เลยถูกการไฟฟ้า ฯ ขึ้นบัญชีดำไว้เลย

สยามอินซูเลเตอร์ของเสี่ยธีระก็เลย "เสร็จ" มอดม้วยเพราะต้องพึ่งตลาดภายในจากการไฟฟ้า ฯ เป็นส่วนใหญ่ หนี้สินที่มีกับเจ้าหนี้บิมสินทธิ์อย่างธนาคารไทยพาณิชย์ที่ประกิตดูแลอยู่ก็เลยมีปัญหา

ถึงทุกวันนี้ประกิตต้องปวดหัวกับลูกหนี้รายนี้มาก เพราะพูดกันไม่รู้เรื่อง ประกิตงัดไม้เด็ดออกมาหากินอีก คือเป็นพ่อสื่อหาเสี่ยจากบริษัทอื่นมาให้เสี่ยธีระแต่งงานด้วย แต่ดูเหมือนเสี่ยธีระจะไม่ยอมเอาด้วยแถมสำทับลงไปอีกว่า "ไปแนะนำใครที่ไหนมาก็ไม่รู้" เจอลูกนี้เข้า ประกิตก็เลยปวดหัวหนักยิ่งขึ้นไปอีก

รายนี้เห็นที่บทบาทการเป็น "พ่อสื่อ" ของประกิตคงต้องรำกับเสี่ยธีระอีกหลายเพลง…ค่าธรรมเนียมเข้าแบงก์ยังไม่มีทีท่าจะได้เสียอีกด้วย!



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.