ไทยถูกญี่ปุ่นขึ้นแบล็คคันทรี่งดมาเที่ยวเหตุปัจจัยลบเพียบ


ASTVผู้จัดการรายวัน(14 กรกฎาคม 2552)



กลับสู่หน้าหลัก

นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นยี้ประเทศไทย ขึ้นทำเนียบเป็น แบล็ค คันทรี งดเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ชี้เหตุจากปัจจัยลบรุมเร้าต่อเนื่อง ทั้งการเมือง และ การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ระบุตอนนี้ตลาดสุดหงอย ภาพรวมทั้งปีจำนวนนักท่องเที่ยวติดลบกว่า 50% จากปีก่อน หรือไม่ถึง 5 แสนคน จี้ ภาครับและททท.เร่งกู้ภาพลักษณ์ประเทศ จัดแฟมทริปดึงความเชื่อมั่นคืนก่อนถึงไฮซีซั่นสิ้นปีนี้

นายเอนก ศรีชีวะชาติ ประธานสมาคมท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวจากประเทศญี่ปุ่นที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทยปีนี้ น่าจะลดลงจากปีก่อนไม่น้อยกว่า 50% มีมีจำนวนรวมทั้งปีเพียง 500,000 คน จากทุกปีตลาดนี้จะเดินทางเข้ามาประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 1,000,000 คน

ทั้งนี้เพราะปัจจัยลบที่กระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยที่มีมา อย่างต่อเนื่อง ทั้งปัญหาการเมือง และ การระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่พบผู้ติดเชื้อและตายเพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้ชาวญี่ปุ่นมองประเทศไทยเป็นเดสติเนชั่นที่ไม่น่าเดินทางมาท่องเที่ยว หรือ แบล็ค คันทรี

จากเหตุผลดังกล่าว ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศญี่ปุ่นที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย ผ่านบริษัทนำเที่ยวช่วงครึ่งปีแรกมีเพียง 200,000-300,000 คน เท่านั้น ส่วนไตรมาสที่ 3 นี้ คงไม่เดินทางมาแน่นอน จากข่าวการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 เพราะเกรงว่าจะเข้ามาติดเชื้อ ดังนั้น จึงต้องรอว่ารัฐบาลจะควบคุมการระบาดและหยุดจำนวนผู้ติดเชื้อได้ทันในไตรมาส 4 หรือไม่ ถ้าสามารถทำได้ อาจทำให้ชาวญี่ปุ่นหันกลับมาเที่ยวประเทศไทยเหมือนเดิม

“ที่ผ่านมาชาวญี่ปุ่นมองประเทศไทยเป็นไวท์ คันทรี หรือหากมีสถานการณ์บ้างเล็กน้อยก็มองเป็นแค่ เกรย์คันทรี แต่ครั้งนี้ เขามองเราเป็นแบล็ค คันทรีไปแล้วคือหมายความว่าเป็นเมืองที่ไม่น่าจะมาท่องเที่ยวแล้วในช่วงนี้ เพราะมีปัจจัยลบมากมาย ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและหน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งกู้ภาพลักษณ์การท่อง เที่ยวของประเทศไทยให้ฟื้นกลับมาโดยเร็วที่สุด พร้อมกับเปลี่ยนมุมมองให้ชาวญี่ปุ่นมองประเทสไทยเป็นไวท์ คันทรี เหมือนเดิมโดยเร็ว เพราะตลาดนี้จัดเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพ ที่มีการใช้จ่ายสูงด้วย”

อย่างไรก็ตาม ต้องการให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) หันมาให้ความสำคัญทำตลาดเชิงรุกและกู้ภาพลักษณ์ประเทศไทยในตลาดญี่ปุ่นอย่าง เร่งด่วน เช่น ช่วยเป็นเจ้าภาพจัดแฟมทริป เชิญตัวแทนบริษัทนำเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น 3-4 พันคน เข้ามาสำรวจเส้นทางในประเทศไทย เพื่อให้เขาได้มาเห็นความจริงว่าประเทศไทยยังเป็นเดสติเนชั่นที่น่าท่อง เที่ยว มีความปลอดภัย และไม่มีความวุ่นวายใดเกินขึ้นแล้ว มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย พร้อมกับประสานไปยังการบินไทย ขอตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ

ส่วนผู้ประกอบการจะหารือกับภาคเอกชน และ สมาคมโรงแรมไทย เพื่อขอห้องพักราคาพิเศษด้วย โดยต้องเริ่มโครงการให้ได้ภายในเดือน ก.ค.-ก.ย.นี้ เพื่อให้บริษัทนำเที่ยวสามารถกลับไปจัดทำแพกเกจขายทัวร์มาประเทศไทยได้ทันไฮ ซีซั่นปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ซึ่งหากไม่รีบดำเนินการจะทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสทางการแข่งขันด้วยเช่นกัน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.