|

แอลจี ตั้งเป้าแซงหน้าโซนี่ ซัมซุง ปี 2010
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(13 กรกฎาคม 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
แอลจี อิเล็กทรอนิคส์ กิจการของเกาหลีใต้ที่หลายคนอาจจะลืมไปแล้ว ได้กลับมาเป็นที่สนใจของวงการตลาดโลกอีกครั้ง เมื่อผู้บริหารของแอลจี ประกาศว่าจะก้าวขึ้นแท่นความเป็นผู้นำในธุรกิจเครื่องใช้ภายในปีหน้านี้
ที่จริงแล้ว แอลจีในปัจจุบัน ก็มีตำแหน่งทางการตลาดที่น่าพอใจอยู่แล้ว ในฐานะของกิจการที่เป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านเครื่องไฟฟ้า พร้อมด้วยการให้บริการที่เพิ่มมูลค่าให้แก่ลูกค้า
เมื่อเร็วๆ นี้ แอลจีได้เปิดตัวโทรทัศน์ระบบคริสตัลเหลวที่ใช้ระบบเทคโนโลยีให้แสงสว่างที่ทันสมัย และพร้อมที่จะทำให้ยอดการจำหน่ายพุ่งขึ้นไปเป็น 5 ล้านเครื่องภายในปี 2010 นี้ ขณะที่ประมาณการเป้าหมายของตนว่าจะจำหน่ายโทรทัศน์แอลซีดีได้ไม่น้อยกว่า 18 ล้านเครื่องภายในปีนี้
การเติบโตอย่างเหลือเชื่อของการจำหน่ายโทรทัศน์ระบบแอลซีดี ได้ทำให้แอลจี อิเล็กทรอนิกส์ ก้าวขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกในด้านนี้ไปแล้ว เป็นรองก็แต่เพียงผู้ประกอบการจากบ้านเดียวกันคือ ซัมซุงเท่านั้น
การแซงหน้าและก้าวขึ้นไปบนแท่นของผู้นำอันดับ 2 ของโลกของทั้งซัมซุงและแอลจี คงทำให้เจ้าของตำแหน่งแชมป์เดิมอย่างโซนี่ของญี่ปุ่น ตกใจและหวาดหวั่นไม่มากก็น้อยเหมือนกัน
ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะว่าเศรษฐกิจของโลก ไม่น่าจะเอื้ออำนวยต่อการเติบโตของธุรกิจเครื่องไฟฟ้ามากนัก โดยเฉพาะความต้องการจากภาคครัวเรือนที่ทำท่าจะหดหายไปเรื่อย ๆ แต่แอลจีกลับมีความสามารถทางการตลาดที่ยอดเยี่ยม จนสามารถรักษาอัตราการเติบโตที่น่าพอใจและเป็นไปตามเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่อง
ยิ่งกว่านั้น การจำหน่ายโทรทัศน์ประเภทแอลอีดี ที่เคยมีสัดส่วนเพียงราว 2.6% ของการตลาดโทรทัศน์ประเภทแอลซีดีทั้งหมด ก็ถูกประกาศจากแอลจีว่าจะทำให้มียอดการจำหน่ายพุ่งขึ้นไปเป็น 20% ภายในปีหน้า และ 40% ในปี 2011
นักการตลาดส่วนหนึ่งเชื่อว่า แอลจีจะนำเอานโยบายด้านระดับราคามาเป็นส่วนหนึ่งของการแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดครั้งใหญ่นี้ เพราะปัจจุบันระดับราคาของโทรทัศน์รุ่นเก่ากับโมเดลใหม่ ๆ ยังแตกต่างกันมากราว 70-80% ทีเดียว
แต่ถ้าหากความแตกต่างของระดับราคาของรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ของตลาดโทรทัศน์ลดลงไปเหลือไม่เกิน 40% หรือว่าแทบไม่แตกต่างกันเลย เชื่อว่าน่าจะมีลูกค้ากระโดดเข้ามาซื้อโทรทัศน์รุ่นใหม่อย่างแน่นอน
ปัจจุบันตลาดโทรทัศน์ของโลกกลายเป็นประเภทแอลซีดีไปแล้ว โดยมีสัดส่วนรวมในราว 60% ของตลาดโทรทัศน์ทั่วโลก ขณะที่จอภาพประเภทแอลอีดีมีท่าทีว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นในตลาดโน้ตบุ๊กและคอมพิวเตอร์ โดยมียอดการจำหน่ายราว 2 ล้านเครื่องเทียบกับราว 120 ล้านเครื่องสำหรับโทรทัศน์ในระบบแอลซีดี
ผู้เชี่ยวชาญบางคนชี้ว่า การปรับตัวของแอลจี อิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้ น่าจะมีความเป็นไปได้ เพราะประการแรก แอลจีกำลังฉวยโอกาสที่บรรดาผู้ประกอบการคู่แข่งส่วนใหญ่พากันซึมเซา เผอเรอ และไม่มีโปรแกรมทางการตลาดใหม่ๆ ออกมาสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดเชิงรุกแบบไม่ให้ตั้งตัว เพื่อสร้างแรงดึงดูดและความสนใจของลูกค้าในตลาดโลก ทำการเรียกร้องความสนใจของลูกค้า
ประการที่สอง แอลจีได้ใช้เวลาในระยะ 4 ปีที่ผ่านมา ทำการผ่าตัดโครงการของธุรกิจใหม่ และตอนนี้น่าจะมีความพร้อมในการที่จะรุกตลาดโทรทัศน์โลก โดยไม่ได้มีความเสียเปรียบด้านต้นทุนการผลิต หรือทิ้งห่างจากผู้ประกอบการที่เป็นคู่แข่งขันรายอื่น ๆ รวมทั้งซัมซุงและโซนี่อีกต่อไป
ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่ผ่านมา แอลจีได้ปรับโครงสร้างต้นทุนให้ต่ำลง ดึงเอาผู้บริหารมือดีมาจากกิจการอื่นภายนอกเพื่อเสริมทัพทีมผู้บริหารภายในกิจการ และได้เพิ่มการลงทุนทางการตลาดมากมาย เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ของตน
ประการที่สาม ในช่วงเวลาที่ผ่านมาและในระยะเวลาอันใกล้ ๆ อย่างปีหรือสองปีนี้ น่าจะยังไม่มีแบรนด์ไหนในบรรดาคู่แข่งรายใหญ่ๆ ของแอลจี ที่จะแข็งแกร่งทางด้านการลงทุนในแบรนด์มาก จนทำให้มีความแตกต่างและหนีห่างจากแอลจีมากนัก
ดังนั้น การที่แอลจี ชิงเปิดตัวแนวทางการดำเนินธุรกิจแบบใหม่ที่เรียกว่า คอนเซปต์ สโตร์ ซึ่งเป็นการจัดรูปแบบการให้บริการที่ครบวงจร ที่มีผลิตภัณฑ์ทุกประเภทของแอลจี อิเล็กทรอนิกส์ให้บริการ น่าจะช่วยเป็นแรงสนับสนุนการเติบโตของยอดการจำหน่ายได้อีกทางหนึ่งด้วย
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|