|
เปิดเกณฑ์แปรรูปNBTแปลงสู่องค์การมหาชน
ASTV ผู้จัดการรายวัน(10 กรกฎาคม 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
“สาทิตย์” พร้อมลุย แปลงสภาพช่อง 11 หรือ NBT สู่องค์การมหาชน เผยหากนายกฯไฟเขียว เดินหน้าได้ทันทีไม่เกิน ส.ค.นี้แน่นอน เชื่อเริ่มต้นอาจมีอุปสรรค แต่มั่นใจคนในช่อง11พร้อมสนับสนุน ล่าสุดช่อง11 ปรับผังรายการรับไตรมาส3แล้ว ยังคงสาระที่เข้าถึงง่าย นำเสนอในรูปแบบที่แตกต่างมากขึ้น
นายสาทิตย์ วงษ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นโยบายในการปฏิรูปสื่อ โดยเฉพาะในส่วนของช่อง11หรือเอ็นบีทีนั้น ที่ต้องการให้เป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์การมหาชนนั้น ล่าสุดจากการที่มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลและดูความเป็นไปได้ของการปฏิรูปสื่อ ภายหลังจากที่มี พ.ร.บ.จัดสรรคลื่นความถี่เข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว จะมีความเป็นไปได้อย่างไร
ล่าสุดทางคณะกรรมการชุดนี้ ได้ส่งเรื่องดังกล่าวที่เกี่ยวกับการแปลงช่อง 11 สู่องค์การมหาชน มาแล้วเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและดูรายละเอียด ซึ่งพบว่าแนวทางที่จะทำให้ช่อง11 กลายสภาพเป็นองค์การมหาชนนั้น มีอยู่ 3 ระดับ คือ ระดับที่ 1.ต้องดูในดูเรื่องของการบริหารองค์กรและงบประมาณว่าจะแปลงสภาพได้อย่างไร เพราะปัจจุบัน ช่อง11 เป็นหน่วยงานหนึ่งที่อยู่ภายใต้กรมประชาสัมพันธ์ และเป็นหน่วยงานที่สร้างรายได้เข้ากรมประชาสัมพันธ์ ปีละกว่า 120 ล้านบาท โดยมีการจัดสรรเพียงบางส่วนนำกลับมาบริหารช่อง11เท่านั้น จะเห็นได้ว่าหากกรมประชาสัมพันธ์ ต้องสูญเสียรายได้ตรงนี้ไป จะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก ดังนั้นต้องมีการจัดการตรงนี้ให้ดี เพราะเป็นเรื่องของผลประโยชน์
นอกจากนี้ในส่วนของทรัพย์สินของช่อง 11 ต้องนำกลับมาดูให้ครบ ต้องจัดการเรื่องทรัพย์สินให้ดี โดยเฉพาะสถานีส่งของช่อง 11 ทั่วประเทศ มีถึง 8 สถานี ส่วนพนักงานก็มีทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ซึ่งบางคนก็อาจจะสูญเสียผลประโยชน์และอาจต่อต้านบ้าง แต่เชื่อว่าภาพรวมแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาในการแปลงสภาพช่อง 11 สู่ องค์การมหาชนต่อไป
2.หลังจากที่มีการจัดการเรื่องต่างๆแล้ว ช่วงเวลาที่เริ่มแปลงมาสู่ความเป็นองค์การมหาชนนั้น จะต้องให้องค์กรนี้มีการบริหารจัดการโดยไม่ขึ้นตรงกับหน่วยงานใดทั้งสิ้นสักระยะหนึ่งก่อน จึงจะเข้าสู่ระดับ 3. คือการเป็นองค์การมหาชนอย่างแท้จริง ที่ปราศจากอำนาจทางการเมืองเข้าแทรกแซง
อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการชุดนี้ ยังได้นำเสนอแนวทางในการให้งบสนับสนุนต่อองค์การมหาชนนี้ไว้ด้วยที่ 700 ล้านบาทต่อปี โดยเป็นจำนวนเงินที่ตั้งขึ้นไว้ก่อน ซึ่งยังไม่ได้ศึกษาตัวเลขที่แท้จริงที่ควรจะใช้
นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้การแปลงสภาพช่อง 11 จะต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. นี้ ตนจะเร่งหาแนวทางให้เรียบร้อย พร้อมนำเรื่องดังกล่าวเสนอกับนายกรัฐมนตรีให้เห็นชอบต่อไป คาดว่า ภายในสิ้นเดือนส.ค. จะสรุปเรื่องดังกล่าวจบ และพร้อมเดินหน้าปฏิรูปแปลงสภาพช่อง 11 ได้แน่นอน
อย่างไรก็ตาม ช่อง 11 ในวันนี้ ยังคงเดินหน้าพัฒนารูปแบบรายการที่นำเสนอสู่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยตามนโยบายที่วางไว้ คือ จะต้องมีการปรับผังรายการทุกๆ 3 เดือน ล่าสุดสำหรับผังรายการประจำเดือน ก.ค.-ก.ย. ก็ยังจะเน้นเรื่องของการนำเสนอรายการที่มีสาระ ในรูปแบบรายการที่นำเสนอที่แตกต่างไปจากเดิม โดยยังคงความเป็นช่องเพื่อการศึกษาและการประชาสัมพันธ์ภาครัฐอยู่ ทั้งนี้ในแง่ของการโฆษณา ยังสามารถทำได้เพียงในรายการข่าวกีฬาเช่นเดิม
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|