เจ้าหนี้TPIเมินข้อเสนอลดดบ.


ผู้จัดการรายวัน(19 กันยายน 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

คณะกรรมการเจ้าหนี้ เมินข้อเสนอผู้บริหารแผนฯทีพีไอ ที่ขอลดการจ่ายดอกเบี้ย ลงกว่า 100 ล้านบาท/เดือน จากเดิมที่ต้องชำระประมาณ 320 ล้านบาทหรือ 8 ล้านเหรียญ แม้จะยื่นข้อเสนอทยอยจ่ายดอกเบี้ยย้อนหลังจนถึงเม.ย. อ้างไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะไม่ปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูกิจการ แถมยังไม่รับปากปล่อยเครดิตไลน์ 80 ล้านเหรียญภายในเดือนนี้ตามที่ทีพีไอร้องขอด้วย

วานนี้ (18 ก.ย.) คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) (TPI) โดยมีพล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ เป็นประธานฯ ได้ลงนามสัญญาว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน คือ บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ Morgan Stanley Dean Witter Asia (Singapore) วงเงิน 5 ล้านเหรียญสหรัฐ และบริษัทที่ปรึกษาทางเทคนิค คือ บริษัท เอบีบี จำกัด วงเงิน 1.1 ล้านเหรียญ

นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธาน เจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในการหารือร่วมกับคณะกรรมการเจ้าหนี้เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ทางผู้บริหารแผนทีพีไอได้เสนอที่จะชำระดอกเบี้ยให้เจ้าหนี้ในกลุ่ม Tier1 งวดก.ย. พร้อมดอกเบี้ยย้อนหลัง นับจากบริษัทฯระงับการจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้มาตั้งแต่เดือนเม.ย. 2546 ในช่วงที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เป็นผู้บริหารแผนฯชั่วคราว

ผู้บริหารแผนทีพีไอได้เสนอขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยจ่ายลงจากเดิมที่ต้องชำระในอัตรา MLR+2% หรือประมาณเดือนละ 8 ล้านเหรียญสหรัฐ (320 ล้านบาท) เพื่อให้บริษัทไม่มีปัญหาสภาพคล่องและทำให้การบริหารงานสะดวกขึ้น เช่น หากจะชำระดอกเบี้ยในอัตรา MLR ทีพีไอต้องชำระดอกเบี้ยเดือนละ 230 ล้านบาท ลดลงไปเกือบ 100 ล้านบาท

ทั้งนี้ ทีพีไอได้เตรียมที่จะชำระดอกเบี้ยจ่าย ในงวดแรกเริ่ม สิ้นก.ย. นี้ พร้อมดอกเบี้ยค้างจ่าย 2 เดือน คือ ก.ค.-ส.ค. 46 งวดถัดไปจะจ่ายดอกเบี้ยของเดือนต.ค. พร้อมดอกเบี้ยค้างจ่ายเดือนมิ.ย. 46

งวดเดือนถัดไป จ่ายดอกเบี้ยของเดือนพ.ย. และดอกเบี้ยค้างจ่ายพ.ค. 46 และงวดธันวาคม ก็จะจ่ายดอกเบี้ยพร้อมดอกเบี้ยค้างจ่ายเดือนเม.ย. 46 เนื่องจากหนี้ทีพีไอมีทั้งหมด 2,800 ล้านเหรียญสหรัฐ มีหลายสกุลเงิน ดังนั้นการขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะมีความแตกต่างกันไป ซึ่งยังไม่ทราบว่าเจ้าหนี้จะเห็นด้วยหรือไม่

นายปกรณ์ กล่าวต่อไปว่า ทีพีไอยังได้ขอให้คณะกรรมการเจ้าหนี้ปล่อยเงินทุนหมุนเวียน (เครดิตไลน์) จำนวน 80 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากได้ระงับการปล่อยเงินทุนหมุนเวียน มาตั้งแต่นายประชัยได้รับแต่งตั้งให้เข้ามาเป็น ผู้บริหารแผนชั่วคราวเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา คาดว่าเจ้าหนี้จะอนุมัติให้วงเงินดังกล่าวในเดือนนี้ เพื่อนำมาเป็นเงินทุนในการสั่งซื้อวัตถุดิบ ทำให้บริษัทฯมีสภาพคล่องและรายได้เพิ่มสูงขึ้นเพียงพอที่จะจ่ายดอกเบี้ย

เจ้าหนี้ยังไม่ปล่อยเครดิตไลน์

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการเจ้าหนี้ กล่าวว่าทางทีพีไอได้เสนอขอปรับลดการจ่ายดอกเบี้ยเจ้าหนี้ในกลุ่ม Tier 1 ลงจากเดิมจ่าย MLR+2% ลงเหลือ MLR-1% โดยระบุว่าบริษัทมีเงินสดไม่เพียงพอ โดยดอกเบี้ยส่วนต่างที่ค้างไว้จะมาพิจารณาภายหลังจากที่ปรึกษาฯศึกษาแก้ไขแผนฟื้นฟูฯเสร็จแล้ว แต่คณะกรรมการเจ้าหนี้เห็นว่า ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะไม่ปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูกิจการรวมทั้ง การขอปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลงในแต่ละสกุลเงินมีความไม่เท่าเทียมกัน จึงให้ทีพีไอกลับไปทำข้อเสนอมาใหม่ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น

ส่วนการปล่อยเครดิตไลน์ จำนวน 80 ล้าน เหรียญสหรัฐนั้น ทางคณะกรรมการเจ้าหนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะปล่อยกู้ภายในก.ย.นี้ เนื่องจากเห็นว่ากระชั้นชิดมาก เพราะต้องขอความเห็นชอบจากเจ้าหนี้อื่นๆ จึงให้ทีพีไอไปศึกษาว่ามีช่องทางอื่นนอกเหนือจากการขอวงเงินเครดิตไลน์

"ทีพีไอได้เสนอขอให้คณะกรรมการเจ้าหนี้ปล่อยเครดิตไลน์ เพื่อนำมาใช้ซื้อวัตถุดิบ ซึ่ง จะทำให้บริษัทฯมีรายได้เพียงพอที่จะนำมาชำระคืนดอกเบี้ยในอัตราที่เสนอนั้น แต่เจ้าหนี้ต้องการภาพที่ชัดเจนกว่านี้ เช่น การให้เงินหมุนเวียน ดังกล่าว ทำให้ทีพีไอมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น สร้างรายได้เพิ่มขึ้นเท่าไร รวมถึงความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ยด้วย ซึ่งคณะกรรมการเจ้าหนี้จะทำหนังสือถึงทีพีไอเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องดังกล่าวในวันศุกร์นี้"

อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหนี้ยังไม่ปล่อยสินเชื่อ เงินทุนหมุนเวียน เชื่อว่าทีพีไอจะนำกระแสเงินสด ในบริษัทฯที่มีอยู่ มาสั่งซื้อน้ำมันดิบแทน ทำให้ตัวเลขการจ่ายดอกเบี้ยที่เสนอต้องลดลงมา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสภาพคล่อง

ขีดเส้นได้ข้อสรุป 3 เดือน

นายพละ สุขเวช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่ากำหนดระยะเวลาให้ที่ปรึกษาเข้ามาทำงานโดยให้ข้อสรุปภายใน 3 เดือน ซึ่งที่ปรึกษาทั้ง 2 ด้านจะทำงานควบคู่กันไป หลังจากนั้นจะพิจารณาว่าด้านเทคนิคจะมีการปรับปรุงอย่างไรให้กิจการทีพีไอที่มีทั้งโรงกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมี ปรับปรุงสร้างรายได้ผลตอบแทนให้ดีที่สุด โดยที่ปรึกษาทางการเงินจะนำเรื่องเทคนิคมาประกอบการพิจารณาการปรับปรุงด้าน การเงิน

หลังจากนั้นคณะผู้บริหารแผนฯจะนำเรื่องทั้งหมดมาทำแผนฟื้นฟูกิจการ เพื่อนำไปเจรจากับเจ้าหนี้ต่อไป

นายพละ กล่าวว่า โรงกลั่นทีพีไอวางแผนการกลั่นนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-ธันวาคมนี้ เฉลี่ยประมาณ 1.45 แสนบาร์เรลต่อวัน โดยในเดือนสิงหาคมบริษัทมีกำไรก่อนหักค่าดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและภาษี (EBITDA) สูงสุดนับตั้งแต่ทีมผู้บริหารแผนฯเข้ามาบริหารงาน อยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในเดือนพฤศจิกายนนี้ โรงกลั่นทีพีไอจะหยุดซ่อมบำรุงชั่วคราว ทำให้กำลังการกลั่นลดลง ซึ่งในปีที่แล้วที่มีการซ่อมบำรุงโรงกลั่น ผลิตเพียง 6 หมื่นบาร์เรล/วัน ดังนั้นในเดือนตุลาคมนี้ โรงกลั่นทีพีไอจะเดินเครื่องสูงกว่า 1.5 แสนบาร์เรล/วัน



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.