|
พันธบัตรรัฐกระเทือนเงินฝากแบงก์'กรุงศรี-กรุงเทพ-นครหลวง'ออกโปรโมชั่นยื้อ
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(6 กรกฎาคม 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
พันธบัตร 5 หมื่นล้านจ่อคิวขาย 13-21 กรกฎาคม ดอกเบี้ย 4% ผู้บริหารเงินลงทุนเชื่อหมดเกลี้ยง ดึงเงินฝากไหลออกจากแบงก์ได้ไม่น้อย จนแบงก์กรุงศรี กรุงเทพและนครหลวงต้องออกโปรโมชั่นพิเศษดึงลูกค้าบางส่วนไว้ พร้อมให้คำแนะนำสำรวจตัวเองก่อนซื้อ
กำหนดการเสนอขายพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็ง ปีงบประมาณ 2552 อายุ 5 ปี วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท ระหว่าง 13-21 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 4% ต่อปี กลายเป็นตัวกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเริ่มขยับอัตราดอกเบี้ยขึ้นมาบ้าง
หลังจากที่พระราชกำหนดกู้เงินผ่านทั้ง 2 สภา รัฐบาลเดินหน้าเสนอขายพันธบัตรให้กับประชาชน บรรดาธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเริ่มขยับอัตราดอกเบี้ยขึ้น ด้วยบัญชีเงินฝากประจำพิเศษแบบขั้นบันได
เริ่มกันที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ออกบัญชีเงินฝากประจำพิเศษ KRUNGSRI MAX STEP มีให้เลือก 2 ช่วงเวลา คือ 9 เดือน ดอกเบี้ย 1-3 เดือนแรก 0.75% ช่วง 4-6 เดือน 1% และ 7-9 เดือน 1.5% อีกบัญชีหนึ่งคือ 15 เดือน โดย 1-3 เดือนแรก 0.75% ช่วง 4-6 เดือน 1% ระหว่าง 7-9 เดือน 1.25% และ 10-12 เดือน 1.75% ช่วงท้าย 13-15 เดือน 2.25% เปิดให้ฝากระหว่าง 1-31 กรกฎาคม 2552 เงินฝากขั้นต่ำ 5 หมื่นบาทรับดอกเบี้ยทุก 3 เดือน
ตามมาด้วยธนาคารกรุงเทพกับเปิดบัญชีฝากประจำ Step Plus 18 เดือน รับดอกเบี้ยเงินฝากประจำเพิ่ม 0.25% ต่อปี ทุกๆ 6 เดือน ด้วยเงินฝากเริ่มต้นตั้งแต่ 50,000 บาท พร้อมรับดอกเบี้ยสูงสุด 1.50% ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน- 20 กรกฎาคม 2552 ดอกเบี้ย 6 เดือนแรก 1% และ 6 เดือนหลัง 1.25% ช่วง 13-16 เดือน 1.5%
ธนาคารนครหลวงไทยมีให้เลือก 2 บัญชีคือฝากประจำพิเศษชื่นใจ 8 เดือนดอกเบี้ย 1-5 เดือนแรก 1% ส่วน 6-8 เดือน 1.6% อีกบัญชีเป็นฝากประจำ 15 เดือนดอกเบี้ย 1-10 เดือนแรก 1.25% อีก 11-15 เดือนหลัง 2.25% จ่ายดอกเบี้ยเป็นรายเดือน รับฝากระหว่าง 22 มิถุนายน-17 กรกฎาคม 2552
แหล่งข่าวจากธนาคารนครหลวงไทยกล่าวว่า โปรดักส์เงินฝากดังกล่าวทำขึ้นเพื่อดึงลูกค้าของเราให้อยู่กับเรา รวมถึงเชิญชวนลูกค้าจากที่อื่นให้มาใช้บริการเงินฝากของเราได้ เนื่องจากได้มีการศึกษาถึงระยะเวลาสิ้นสุดของบัญชีเงินฝากของธนาคารอื่น ๆ มาเป็นองค์ประกอบในการออกผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้เรายังพิจารณาจากสภาพแวดล้อมอื่นเช่นการเสนอขายหุ้นกู้ของภาคเอกชนและพันธบัตรรัฐบาลที่กำลังจะออกมาด้วย
'เราตั้งเป้าหมายว่าน่าจะระดมเงินฝากได้ไม่น้อยกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ขณะนี้มียอดฝากเข้ามาแล้วกว่า 8 พันล้านบาท และมีความเป็นไปได้สูงว่าอาจจะได้ยอดสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพราะถ้าพิจารณาถึงอัตราผลตอบแทนที่เสนอให้นั้น ทางนครหลวงไทยให้ผลตอบแทนสูงกว่าธนาคารอื่น'
หมดเกลี้ยงแน่
ผู้บริหารเงินลงทุนภาครัฐรายหนึ่งกล่าวว่า ต้องยอมรับว่าพันธบัตรรัฐบาลที่ดอกเบี้ย 4% นั้นเป็นที่สนใจของตลาดมาก คาดว่าวงเงิน 5 หมื่นล้านบาทนั้นคงไม่เพียงพอต่อความต้องการ แม้จะแบ่งขายให้กับผู้สูงอายุก่อนในช่วง 13-14 กรกฎาคม วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาทก็ตาม
ด้วยดอกเบี้ย 2 ปีแรกที่ 3% ปีที่ 3 ให้ 4% และปีที่ 4-5 ให้ 5% เงินเริ่มต้นซื้อที่ 1 หมื่นบาทขึ้นไม่ไม่เกิน 1 ล้านบาท นับว่าเป็นผลตอบแทนที่สูงกว่าบัญชีเงินฝากของธนาคารพาณิชย์อยู่มาก และการที่แบงก์ต้องกลับมาเล่นบัญชีเงินฝากประจำพิเศษนั้นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากพันธบัตรรัฐบาล
แบงก์เองก็เจอศึกหลายด้าน ทั้งการดึงเงินฝากจากกองทุนรวมพันธบัตรเกาหลีที่เกือบทุกบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมเสนอขายกันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงหุ้นกู้ของบริษัทเอกชนที่เสนอขายก่อนหน้านี้มาหลายเดือน รวมถึงพันธบัตรรัฐบาลล็อตนี้ที่อัตราดอกเบี้ยสูงน่าดึงดูดใจมาก
โปรโมชั่นดอกเบี้ยพิเศษนี้ยังเป็นอีกตัวล็อกหนึ่งของธนาคารที่ต้องการล็อกเงินฝากของผู้ออมไว้เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยต้นทุนต่ำ เนื่องจากแนวโน้มของดอกเบี้ยนั้นมีอยู่ในช่วงขาขึ้น
สำหรับคำแนะนำสำหรับตัวเลือกของเงินฝากที่มีให้เลือกในเวลานี้ ผู้มีเงินออมต้องสำรวจตัวเองและตอบคำถามให้ได้ว่า มีเงินออมจำนวนหนึ่งที่ไม่ต้องการใช้ในช่วง 5 ปีจากนี้ไปหรือไม่ หากไม่จำเป็นต้องใช้พันธบัตรออมทรัพย์ถือเป็นคำตอบที่คุ้มค่าที่สุด
หากจำเป็นต้องใช้บางส่วนก็อาจเลือกซื้อเพียงจำนวนหนึ่ง ที่เหลือหากยังจำเป็นต้องพึ่งพาสถาบันการเงินก็เลือกว่าจะฝากประจำแบบ 8-9 เดือนหรือ 15-18 เดือนดี แต่โดยเฉลี่ยแล้วผลตอบแทนอยู่ที่ไม่เกิน 1.59%
ส่วนพันธบัตรรุ่นต่อไปนั้นเชื่อว่าต้องมีอย่างแน่นอน หากประชาชนซื้อไปหมดแล้วก็ยังมีผู้ที่รอซื้ออย่างกลุ่มบริษัทประกันหรือบริษัทอื่น ๆ ที่พร้อมจะซื้ออีก ส่วนทิศทางอัตราดอกเบี้ยนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับภาวะตลาดว่าผลตอบแทนในตลาดพันธบัตรเป็นเท่าไหร่ รัฐบาลก็จะบวกเพิ่มเข้าไปอีก 15% เพราะส่วนนี้คือภาษีที่จะต้องถูกหัก
เชื่อว่าโอกาสที่ดอกเบี้ยจะขยับไปมากกว่านี้คงเป็นไปได้ยาก อีกทั้งคณะกรรมการนโยบายการเงินเองก็อาจคงไว้ที่อัตราเดิมที่ 1.25% ไปอีกระยะหนึ่ง ดังนั้นพันธบัตรล็อตที่ 1 หรือ 2 นั้นอัตราผลตอบแทนคงไม่แตกต่างกันมาก
หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าเงินฝากพิเศษของ 3 ธนาคารนั้นระยะเวลาสิ้นสุดการรับฝากจะเลยเวลาที่พันธบัตรจำหน่ายไปแล้ว ส่วนหนึ่งถือเป็นการรองรับกับผู้ที่พลาดหวังจากการซื้อ ที่อาจหมดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นเรื่องดีว่าอย่างน้อยก็ยังมีแหล่งเงินฝากที่อุ่นใจรองรับที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากปกติ
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|