เอสซีจี-โฮมเวิร์คปรับช่องทางขายสร้างจุดต่างโมเดลหน้าร้านรูปแบบใหม่


ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(6 กรกฎาคม 2552)



กลับสู่หน้าหลัก

วัสดุก่อสร้างเผยโฉมร้านค้ารูปแบบใหม่ เอสซีจีชู 'เอสซีจี เอ๊กซ์พีเรียนซ์' ขึ้นแท่นค้าปลีกวัสดุก่อสร้างแนวใหม่ นำไอทีผสานบริการข้อมูลสินค้าหวังชิงยอดขาย ฟากโฮมเวิร์คเปิดโมเดลสาขาใหม่ที่ราชพฤกษ์ ดึงท๊อปส์-เพาเวอร์บาย-ร้านค้าย่อยเสริมความครบครันของพื้นที่

การแข่งขันเพื่อช่วงชิงยอดขายในธุรกิจวัสดุก่อสร้างเริ่มเห็นภาพที่ชัดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงกำลังซื้อชะลอตัว การใช้โปรโมชั่นเป็นเพียงกลยุทธ์ระยะสั้นเท่านั้น แต่การตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าคือแก่นหลักที่สำคัญกว่า นำไปสู่การปรับตัวไปใช้วิธีการขายใหม่ๆ

ซึ่งเอสซีจีในฐานะผู้นำตลาดวัสดุก่อสร้างได้มองเรื่องนี้เป็นกลยุทธ์ระยะยาวไว้อยู่แล้ว โดยมองว่า จุดเริ่มต้นของการขายไม่ใช่แค่การกล่าวอ้างว่าเป็นสินค้าคุณภาพ แต่จะต้องทำให้ลูกค้ามีความรู้ในตัวสินค้า และนำไปติดตั้งอย่างถูกต้อง จึงจะไม่เกิดปัญหาในการใช้งานตามมาในภายหลัง

หลังจากเอสซีจีเดินกลยุทธ์ 'Home Solution' ปรับโฉมร้านโฮมมาร์ทให้ตอบสนองกลยุทธ์การขายสินค้าพ่วงบริการที่สามารถตอบโจทย์บ้านทั้งหลังได้แล้ว การเดินหน้าเปิดตัว 'เอสซีจี เอ๊กซ์พีเรียนซ์' ก็เป็นกลยุทธ์ต่อเนื่องที่นำมาใช้ โดยหวังสร้างความต่างของรูปแบบการขายวัสดุก่อสร้าง ใช้นวัตกรรมด้านไอทีมาผสมผสาน เพื่อให้ความรู้ด้านวัสดุก่อสร้างและให้คำปรึกษาเรื่องบ้านกับผู้บริโภคเป็นหลักมากกว่าเน้นเรื่องยอดขาย ในขณะที่ร้านโฮมมาร์ทจะเน้นการขายสินค้า และเจาะกลุ่มผู้รับเหมาหรือคนทั่วไปที่มีความรู้ด้านการก่อสร้างอยู่แล้ว และต้องการอัพเดตวัสดุรายการใหม่ๆ

เอสซีจี เอ๊กซ์พีเรียนซ์ตั้งอยู่บนพื้นที่ 4 ไร่ ถ.ประดิษฐ์มนูญธรรม ภายในโครงการคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ มีพื้นที่ภายในอาคารรวม 6,200 ตร.ม. โดยจะแบ่งพื้นที่เป็นโซนสินค้าต่างๆ เช่น กระเบื้องหลังคา ฝ้าและผนัง ห้องน้ำ รวมทั้งมีห้องสมุด บูธหมอบ้าน ให้คำปรึกษาเรื่องบ้าน ตามจุดต่างๆ ภายในเอสซีจี เอ๊กซ์พีเรียนซ์จะติดตั้งจอคอมพิวเตอร์แบบทัชสกรีน เพื่อให้ข้อมูลและความรู้ด้านวัสดุก่อสร้างแก่ผู้มาใช้บริการ ใช้งบลงทุนกว่า 400 ล้านบาท เจาะกลุ่มเจ้าของบ้าน นักเรียน นักศึกษาและผู้ที่ต้องการความรู้เรื่องบ้าน โดยคาดว่าหลังจากร้านค้าต่างๆ ในคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์เปิดให้บริการพร้อมกันในไตรมาส 4 จะช่วยดึงทราฟฟิกเข้ามา และสร้าง Words-of-Mouth ต่อกันไปในระยะยาวได้

ขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจจัดจำหน่าย เครือซิเมนต์ไทย กล่าวว่า เอสซีจี เอ๊กซ์พีเรียนซ์เป็นโมเดลใหม่ของธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ปรับปรุงเรื่องช่องทางการขายที่เน้นการให้ความรู้ลูกค้าจากการสำรวจว่าความต้องการของลูกค้าคืออะไร โดยที่นี่จะใช้แนวคิดแบบเว็บไซต์ขายหนังสือชื่ออะเมซอน คือ ไม่มีหน้าร้านและไม่มีสต็อกสินค้า แต่มีการนำเสนอสินค้าที่หลากหลาย ไม่จำกัดจำนวนบนพื้นที่ออนไลน์ จึงไม่มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ขาย สามารถใช้หน้าร้านขนาดเล็กได้ และเมื่อได้รับคำสั่งซื้อก็จะส่งไปยังตัวแทนจำหน่ายที่ใกล้ที่สุด นอกจากนี้คีย์สำคัญของการเปิดศูนย์นี้ คือ เป็นช่องทางตรงสำหรับเปิดรับข้อมูลความต้องการของลูกค้า เพื่อนำมาใช้พัฒนาสินค้าใหม่ๆ ต่อไป

หลังจากนี้จะมีการขยายศูนย์ขนาดเล็กรูปแบบดังกล่าวไปในทำเลต่างๆ และต่อยอดเป็น Virtual Store ผ่านช่องทางออนไลน์ ลูกค้าสามารถหาข้อมูล ปรึกษาปัญหาบ้าน สั่งซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ได้ เสมือนมาใช้บริการที่ศูนย์ฯ ด้วยตัวเอง

ด้านบริษัท ซีอาร์ซี เพาเวอร์ รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เจ้าของธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน 'โฮมเวิร์ค' ก็มีการปรับตัวเรื่องช่องทางขายเช่นกัน โดยเปิดตัวสาขาที่ 8 ที่ราชพฤกษ์ โดยเป็นสาขาสแตนอโลนแห่งแรกที่มีท็อปส์ มาร์เก็ตอยู่ในพื้นที่เดียวกัน รวมทั้งมีโซนเพาเวอร์บายและร้านค้าต่างๆ บริเวณพลาซ่าบนพื้นที่รวม 38,000 ตร.ม.

และได้จัดกลุ่มสินค้าให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้นบนพื้นที่ขายที่ใหญ่ขึ้น สามารถเลือกซื้อได้ง่าย ในรูปแบบ One Stop Shopping เช่น การจัดโชว์สินค้าแบบ Shop in Shop, สุขภัณฑ์มีการจัดโชว์เป็นแบรนด์และซีรีส์, แผนกพื้นไม้และกระเบื้องตกแต่งที่มีพื้นที่ใหญ่ขึ้นถึง 1,000 ตร.ม. และแผนก Kitchenware รวมภาชนะเครื่องใช้ในครัวเรือน สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มบ้านหลังใหม่ได้ และความครบครันของสินค้าและร้านค้าจะช่วยดึงยอดคนเข้าสาขาต่อวันได้มาก

โดยมั่นใจว่าในพื้นที่ราชพฤกษ์เป็นย่านที่มีกำลังซื้อสูง แม้เศรษฐกิจจะหดตัวลงแต่ก็ยังมีดีมานด์ เห็นได้จากยอดบ้านสร้างเสร็จจดทะเบียนที่เพิ่มขึ้น เป็นบ้านเดี่ยวถึง 50% มีจำนวนผู้อยู่อาศัยมากกว่า 1 แสนครัวเรือน หรือมากกว่า 1 ล้านคน ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายเจาะกลุ่มลูกค้าบ้านใหม่ 60%

บ้านเก่าที่ต้องซ่อมแซม 25% ที่เหลือเป็นผู้รับเหมา ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการซื้ออย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้ายอดขาย 60 ล้านบาทต่อเดือน คืนทุนภายใน 3-5 ปี ส่วนแผนการลงทุนอื่นๆ จะมีการทยอยรีโนเวทสาขาต่างๆ เดินหน้าขยายสาขาใหม่เพิ่ม และจะเพิ่มสัดส่วนสินค้านำเข้าจากจีนเข้ามาขายมากขึ้น เพื่อสร้างความหลากหลายของสินค้าในร้าน

โดยจะเน้นสินค้าที่มีคุณภาพดีและมีฟังก์ชั่นแตกต่างจากสินค้าที่ผลิตในไทย เช่น อุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านทั่วไป กระเบื้องเซรามิค สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.