|

“วิกฤติ” เครื่องพิสูจน์ความเป็นมืออาชีพ
โดย
สุภัทธา สุขชู
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( กรกฎาคม 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
ถ้าสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ เป็นเสมือนเสาหลักแห่งเครือเซ็นทารา ชาวเยอรมันเลยวัยแซยิดที่มักยืนเคียงข้างเขาในงานสำคัญของเครือ ก็น่าจะเปรียบได้กับฐานรากของเชนโรงแรมไทยแบรนด์นี้
เกิร์ด เค. สตีบ กรรมการผู้จัดการใหญ่ โรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา อยู่กับสุทธิเกียรติมาจนถึงวันนี้ ก็เกือบ 2 ทศวรรษ ทว่า ระยะเวลาที่ยาวนานคงไม่ได้ทำให้เจ้าสัวแห่งตระกูลจิราธิวัฒน์คนนี้เชื่อมั่นในตัวเขา มากไปกว่าความเป็นมืออาชีพและผลงานที่ผ่านมา
ทั้งชีวิตและสายเลือดของเกิร์ดอยู่กับธุรกิจโรงแรม เพราะพ่อแม่ของเขาก็ทำงานโรงแรม เริ่มงานโรงแรมครั้งแรกเมื่อปี 2507 โดยเคยทำงานอยู่กับเชนโรงแรมยักษ์ใหญ่ของโลก อย่างฮิลตันและแอคคอร์ นานกว่า 25 ปี
ความถนัดของเกิรด์ขณะทำงานให้เครือแอคคอร์ คือการบริหารโรงแรมเปิดใหม่ๆ ทั้งในแอฟริกา, สิงคโปร์, อเมริกา, จีน และยุโรป จนกระทั่งปี 2533 แอคคอร์ ได้ส่งเขามาเป็น GM เพื่อบริหารโรงแรม โซฟิเทล เซ็นทรัล ลาดพร้าว
จากที่เคยคิดว่าจะอยู่แค่ 1-2 ปี แต่แล้วเขาก็ยอมทิ้งเชนใหญ่และโลกกว้าง เพื่อมาเซตอัพเชน "เซ็นทรัล" ซึ่งในเวลานั้นมีเพียงโรงแรมแห่งเดียว ยังไม่มีแม้กระทั่ง Corporate Office
"ตอนที่แอคคอร์ถามว่าสนใจจะมาทำงานที่เมืองไทยไหม ผมก็ตกลงเพราะชอบที่นี่มาก พอคุณสุทธิเกียรติบอกว่าจะขยายธุรกิจ อยากให้ผมมาช่วยบุกเบิก ผม ก็ตกลง เพราะคิดว่าคงสนุกดีที่จะมีอิสระในการบริหารเหมือนเป็นเจ้าของเอง"
สองสิ่งแรกที่เกิร์ดทำก็คือ วางยุทธศาสตร์แบรนด์เซ็นทรัลให้เป็นแบรนด์สำหรับโรงแรม 4 และ 5 ดาว พร้อมกับพัฒนากลยุทธ์ในการพัฒนาธุรกิจตามวิสัยทัศน์ของสุทธิเกียรติ
"เมื่อก่อนเซ็นทรัลพัฒนาขึ้นมาจากการใช้โอกาสเป็นกลยุทธ์ คือ เมื่อมีใครมาเสนอขายโรงแรม ดีลดีเซ็นทรัลก็ซื้อ อีกรายมาเสนอก็ซื้อ แต่หากจะพัฒนาแบรนด์ให้เป็นเชน มันต้องมีสิ่งที่เรียกว่าวิสัยทัศน์และการวางแผนกลยุทธ์"
จากโรงแรมแห่งแรกที่ลาดพร้าว วันนี้ เครือเซ็นทารามีโรงแรม 18 แห่ง และกำลังจะเพิ่มขึ้นเป็น 24 แห่งในต้นปีหน้า
ตลอด 19 ปีในการบริหารโรงแรมที่เมืองไทย เกิร์ดเผชิญทั้งวิกฤติโลกที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมไทยและวิกฤติภายในเมืองไทยเอง ทั้งปัญหาเศรษฐกิจและปัญหา การเมืองหลายครั้งหลายคราว
"หลังเหตุกาณ์สึนามิ เราสร้างคู่มือจัดการความเสี่ยงสำหรับพนักงาน แต่ละวิกฤติ จัดการต่างกันไป แต่อย่างปิดสนามบินเป็นเรื่องที่ไม่เคยเจอ วิกฤติเศรษฐกิจทั่วทั้งโลกครั้งนี้ก็ไม่ยังเคยเกิดขึ้น และที่ทุกอย่างดูแย่เพราะทุกปัญหามาเกิดพร้อมกัน ก็เป็นสิ่งใหม่ ที่ต้องมานั่งพิจารณา"
หลังจากภาพลักษณ์ประเทศไทยเสียหายไปด้วยหตุการณ์จลาจลช่วงสงกรานต์ ในฐานะนักการโรงแรมมืออาชีพที่คลุกคลีในสังคมไทยมานาน เกิร์ดได้เขียนคำแนะนำในการกระตุ้นนักท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศและกอบกู้ธุรกิจโรงแรมไทยให้ฟื้นตัว แล้วฝากสุทธิเกียรติส่งไปถึงนายกรัฐมนตรี
ส่วนเขาเองระหว่างนี้ก็ออกพบปะบริษัททัวร์ยักษ์ใหญ่ในต่างประเทศและสื่อมวลชน ต่างชาติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาทำบ่อยขึ้นมากในช่วง 2-3 ปีนี้
"จริงๆ แค่การเมืองไทยสงบ อยู่เฉยๆ นักท่องเที่ยวก็มาแล้ว ไม่ต้องเสียแรงผลักดันกันมากขนาดนี้" ดูเหมือนเกิร์ดจะเข้าถึงต้นตอของวิกฤติ ธุรกิจโรงแรมไทยที่เรื้อรังในช่วงนี้
ในวันหน้า เมื่อเกษียณจากกลุ่มเซ็นทารา เกิร์ดก็หวังว่าจะได้ใช้บทเรียนจากวิกฤติที่เผชิญมานับครั้งไม่ถ้วนเพื่อให้คำปรึกษาแก่วงการโรงแรม
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|