มิตซูบิชิ วีเอส-2000วิดีโอโปรเจคเตอร์หัวหอกใหม่ของกันยงวัฒนา


นิตยสารผู้จัดการ( กันยายน 2530)



กลับสู่หน้าหลัก

ย่ำค่ำวันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม ห้องวิภาวดีบอลล์รูม เอ-บี โรงแรมไฮแอท เซ็นทรัลพลาซ่า ดูคึกคักเป็นพิเศษ แขกเหรื่อเกือบครึ่งพัน ทยอยกันเข้ามาในงานแนะนำ "มิตซูบิชิ วีเอส-2000 วิดีโอ โปรเจคเตอร์ และจอบิ๊กสกรีน ขนาด 200 นิ้ว" ของบริษัทกันยงวัฒนา ตัแวทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทมิตซูบิชิ อิเลคทริค

เดินเข้าไปในห้องวิภาวดีบอลล์รูม 2 ห้องประกบกัน ซ้ายมือตั้งไว้ด้วยโทรทัศน์หลายขนาดแน่นอนเป็นผลิตภัณฑ์ของ"มิตซูบิชิ" ตัวที่เป็น "พระเอก" ของกลุ่มโทรทัศน์ก็คือ โทรทัศน์ขนาดจอ 37 นิ้ว พร้อมเครื่องเสียงอย่างดี กระหึ่มไปเกือบครึ่งห้อง

มองไปที่บริเวณขวามือของห้อง เห็นจอ "บิ๊กสกรีน 200 นิ้ว" ขนาดมหึมาติดผนังห้องถัดจากบิ๊กสกรีน ประมาณ 9 ฟุต เป็นวีเอส-2000 วิดีโอโปรเจคเตอร์ "พระเอกตัวจิรง" ของงานขนาดใหญ่ขนาด 2 คนยกหนักถึง 150 กิโลกรัม

"นี่เป็นวิดีโอโปรเจคเตอร์ที่ดีที่สุดในโลกตอนนี้เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น เพราะวิดีโอโปรเจคเตอร์โดยทั่วไปจะมีข้อเสียอยู่ที่ความคมชัดและความสว่าง คือ ภาพไม่ค่อยชัดและไม่สว่างเท่าที่ควร แต่วีเอส-2000 สามารถลบจุดบอดนี้ได้ เพราะมิตซูบิชิได้ทุ่มเทพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องทำให้วีเอส-2000 มีความคมชัดด้วยระบบ OPTICAL COUPLING SYSTEM ที่ใส่ SILICONE เข้าไประหว่างภาพและเลนส์ ขจัดแสงสะท้อน ทำให้ภาพคมชัดถึง 300%" ประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัท กันยงวัฒนา บอก "ผู้จัดการ" วันเปิด PRESS CONFERENCE

"จุดเด่นของวีเอส-2000 คือ สามารถขยายจอภาพได้ตั้งแต่ 120 นิ้ว - 200 นิ้ว โดยที่ความคมชัดและสว่างเหมือนกับต้นฉบับ ด้วยประสิทธิภาพที่มีการพัฒนาการสูงสุด หลอดภาพใหญ่ถึง 13 นิ้ว ซึ่งเป็นหลอดภาพที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำงานร่วมกันถึง 3 หลอด ผ่านเลนส์แบบ HIGH SPEED ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 9.6 นิ้ว ช่วยขยายความสว่างของแสงได้มากกว่าถึง 650 ลูเมนส์ 3.5 เท่าของหลอดภาพขนาด 7 นิ้ว แบบเก่าที่ใช้กันอยู่ทั่วไป" กรรมการรองผู้จัดการฝ่ายการตลาดโอ่คุณสมบัติของ "วีเอส-2000"

"ระบบการปรับโฟกัสแบบ ELECTROMAGNETIC เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ วีเอส-2000 ภาพคมชัดเหนือกว่ายี่ห้ออื่น นอกจากนี้ ยังใช้เครื่องเสียงระบบเซ็นเซอร์ราวน์ได้ พรุ่งนี้คุณก็คอยดูคอยฟังก็แล้วกัน ว่ามันจะมันส์แค่ไหน พูดไปตอนนี้ก็ไม่เห็นความมันส์" ทศพร อร่ามรัศมีวาณิชย์ ผุ้จัดการฝ่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า กล่าวเสริม พร้อมกับท้าทายให้ "ผู้จัดการ" ไปชมประสิทธิภาพของผลิตภัรพ์ไฮเทคตัวใหม่ของกันยงวัฒนา

งานเริ่มเปิดเมื่อทศพร อร่ามรัศมีวาณิชย์ ขึ้นไปเกริ่นนำตามด้วยมิสเตอร์เอช. อิตะ กรรมการรองผู้จัดการบริษัทกันยงวัฒนา ฝ่ายบริหาร โดยพูดเป็นภาษาญี่ปุ่น มีล่ามแปลเป็นภาษาไทย จบลงด้วยการพูดถึงคุณสมบัติของสินค้าตัวใหม่ ความเป็นมาที่นำเข้าโดยประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการฝ่ายการตลาด

หลังจากนั้น ก็เป็นการโชว์ประสิทธิภาพของ วีเอส-2000 และจอบิ๊กสกรีน 200 นิ้ว พร้อมเครื่องเสียงขนาดมหึมา กระหึ่มไปทั้งห้องวิภาวดีบอลล์รูม ด้วยความตื่นเต้น ทึ่งกับประสิทธิภาพจากภาพและเสียง ประกอบกับความมันส์ระดับ 5 ดาวของภาพยนตร์สามเรื่องที่นำมาเสนอเฉพาะช่วงมันส์ ๆ 2001 : SPACE ODYSSEY ท็อปกัน และแฟล็ชแดนซ์

ออกจะเป็นการเปิดตัวที่ค่อนข้างจะลงทุนมากเกินไป สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ "ในงานพรุ่งนี้เราไม่ได้หวังว่าจะขายได้มาก ขายได้เครื่องนึงก็ถือว่าดีมากแล้ว เพราะในอเมริกาหรือญี่ปุ่นเองก็ขายได้ไม่เท่าไหร่ อีกอย่างก็คือ ใครจะซื้ออีกประมาณ 3-5 เดือนจึงจะได้ของเพราะว่าเราจะรวมออเดอร์จากหลายประเทศแล้วจึงจะลงมือผลิต" ประพนธ์บอกกับ "ผู้จัดการ"

ประพนธ์ ยังบอกกับ "ผู้จัดการ" อีกว่าที่นำเอาผลิตภัณฑ์ตัวนี้เข้ามาเพราะ "เพื่อไม่ให้ล้าหลัง เพื่อให้รู้ว่าเราก็ทันสมัยเหมือนกัน"

ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของกันยงวัฒนานี้ ที่ขายยากเพราะว่าราคาสูง เฉพาะตัววีเอส-2000 วิดีโอโปรเจคเตอร์ก็ตกเครื่องละ 1,750,000 บาท กับจอบิ๊กสกรีนอีก 110,000 บาท ตัวปรับจากระบบ NTSC (ระบบของสหรัฐฯ) มาเป็นระบบ PAL ของไทยก็อีก 172,000 บาท นี่ยังไม่รวมระบบเครื่องเสียงอีกหลายแสนและตัวเครื่องควบคุมเบ็ดเสร็จก็ตกสองล้านกว่าบาท

นอกจากมิตซูบิชิ วีเอส-2000 วิดีโอโปรเจคเตอร์ และบิ๊กสกรีน 200 นิ้ว แล้วกันยงวัฒนายังให้ความสำคัญกับการแนะนำโทรทัศน์ขนาดจอใหญ่ คือ 28 นิ้ว - 37 นิ้วอีกด้วย

เพราะเมื่อเอ่ยถึงบริษัทมิตซูบิชิแล้ว เกือบทุกคนจะนึกถึงบริษัทที่ขายสินค้าทุกชนิดตั้งแต่ "ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ" กลุ่มบริษัทมิตซูบิชิ เป็นบริษัทที่มีกิจการแทบทุกชนิดจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร ธนาคารมิตซูบิชิ ก็ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก จากการจัดอันดับโดยนิตยสาร "ยูโรมันนี่" ปีล่าสุด

มิตซูบิชิ ยังได้แตกแขนงมีบริษัทต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ ที่บริษัท MITSUBISHI MOTOR จัดการอยู่ ทางด้านอุตสาหกรรมเคมีก็มีบริษัท MITSUBISHI CHEMICAL INDUSTRIES นอกจากนี้ ยังมีบริษัทที่แตกแขนงออกไปยังกิจการต่าง ๆ มากมาย เช่น MITSUBISHI GAS CHEMICAL, MITSUBISHI HEAVY INDUSTRIES ที่ติดอันดับ 22 จาก "FORTUNE" เล่มล่าสุด MITSUBISHI OIL, MITSUBISHI RAYON MITSUBISHI PETROCHEMICAL, MITSUBISHI ENGINEERING & SHIBLDG และ MITSUBISHI METAL

ทางด้านผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า มีบริษัทมิตซูบิชิอิเล็กทริค ซึ่งใหญ่เป็นอันดับที่ 48 จากการจัดอันดับของ FORTUNE ด้วยยอดขาย 9,401,584,000 ดอลลาร์ สินทรัพย์ 10,321,047,000 ดอลลาร์ รายได้สุทธิ 120,985,000 ดอลลาร์ และจ้างงานถึง 71,479 คน

สำหรับในเมืองไทย บริษัทกันยงวัฒนาเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่ผู้เดียวในประเทศไทย และยังมีบริษัทกันยงอิเล็กทริคแมนูแฟคเจอริ่ง ผลิตและส่งออก พัดลม เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ และตู้เย็น เป็นบริษัทร่วมทุนกับญี่ปุ่นกันยงวัฒนามียอดขายในปีที่แล้ว 885,45,000 บาท เป็นรองก็เพียงแต่บริษัทซิว เนชั่นแนล เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส เท่านั้น และในด้านกำไร กันยงมาเป็นที่สาม 25,716,000 บาท รองจากบริษัทซิว เนชั่นแนล เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส เจ้าเก่า และบริษัทซิวในเครือเดียวกันเท่านั้น

ถึงแม้ว่ากันยงวัฒนาจะอยู่ในอันดับต้น ๆ ของกิจการประเภทเดียวกัน แต่ยอดขายและกำไรก็ห่างจกอันดับหนึ่งอยู่มาก "ที่สำคัญก็คือ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวทำเงินให้กับกันยงฯ ไม่ใช่โทรทัศน์แต่เป็นเครื่องปรับอากาศและพัดลม โทรทัศน์นั้นมียี่ห้อเนชั่นแนลเป็นเจ้าตลาดอยู่ กันยงเองเขาก็อยากจะทำตลาดโทรทัศน์ เพราะเป็นตลาดที่จะเป็นตัวทำเงินให้บริษัทมาก ถ้าสามารถแย่งมาร์เก็ตแชร์มาได้ แต่การที่จะไปชิงส่วนแบ่งการตลาดจากเจ้าตลาดเดิมไม่ใช่ของง่าย โดยเฉพาะเจ้าตลาดเดิม คือ "เนชั่นแนล" ผู้ไม่ยอมสยบต่อกลยุทธ์ทุกรูปแบบ" แหล่งข่าวตั้งข้อสังเกต

"กันยงวัฒนาจึงต้องเข้าไปเล่นตลาด โทรทัศน์เครื่องใหญ่ คือ ใหญ่กว่าขนาด 14 นิ้ว และ 20 นิ้ว นั่นคือ เขาจะไปเล่นตลาด 28 นิ้ว - 37 นิ้ว แต่การที่จะทำให้คนเชื่อถือในคุณภาพโทรทัศน์ของมิตซูบิชิ กันยงก็ต้องสร้างภาพพจน์ว่า มิตซูบิชินั้น "ปราดเปรื่องเรื่องเทคโนโลยี" เรียกว่าต้องทำให้คนทั่วไปรู้ว่า ในด้านเทคโนโลยีมิตซูบิชิไม่เป็นรองใคร และออกจะล้ำหน้ากว่ายี่ห้ออื่นด้วยซ้ำ เขาถึงได้ลงทุนนำเอา มิตซูบิชิ วีเอส-2000 วิดีโอโปรเจคเตอร์ และจอบิ๊กสกรีน 200 นิ้ว เข้ามาและเปิดตัวอย่างใหญ่โต ซึ่งถ้าดูแล้วสำหรับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตัวนี้แล้ว บอกเลยว่า ขายได้ตัวนึงก็นับว่าเก่งมากแล้ว แสดงว่าการลงทุนในครั้งนี้ไม่คุ้มถ้าดูเฉพาะวิดีโอโปรเจคเตอร์" แหล่งข่าวแสดงเหตุผล

"แต่คุณอย่าลืมว่า ปลายปี เขาจะนำเอาโทรทัศน์เครื่องขนาดจอใหญ่เข้ามา ก็อย่างที่คุณเห็นแล้วนี่ว่า เขาได้ให้ความสำคัญกับโทรทัศน์ขนาดจอ 37 นิ้วมาก ในงาน PRESS CONFERENCE วันที่ 13 ส.ค. เขาก็กล่าวถึงบ่อย วันเปิดตัวเขาถึงกับให้เครื่อง 37 นิ้ว เป็นพระรองของงาน หรือว่าเป็นพระเอกในหมู่โทรทัศน์ก็ได้เรียกว่า ถ้ากลยุทธ์นี้ของกันยงวัฒนาสำเร็จก็ต้องบอกว่า งานคุ้มค่ากับที่ลงทุน คุณว่าจริงไหม" แหล่งข่าวตบท้ายด้วยการถาม "ผู้จัดการ"

อย่างนี้จะเรียกว่า มิตซูบิชิ วีเอส-2000 วิดีโอโปรเจคเตอร์ เป็นหัวหอกระดับไฮเทค ของกันยงวัฒนาเห็นจะไม่ผิดไปจากความจริงนัก



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.