|
เคทีซีจับมือบินไทยรีเทิร์นลูกค้า
ASTVผู้จัดการรายวัน(25 มิถุนายน 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
เคทีซีลั่นหวนเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน ระบุเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอ หลังยอดผิดนัดชำระเพิ่มขึ้น 1%จากสิ้นปี ล่าสุดจับมือการบินไทยคลอดแคมเปญ "แลก 1 บิน 2" หวังกระตุ้นยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่ม 30% ชี้ครึ่งปีหลังตลาดบัตรเครดิตมีแนวโน้มสดใสขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่มีสัญญาณฟื้นตัว
นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ภาพรวมของตลาดบัตรเครดิตน่าจะทรงตัว หรือเริ่มปรับตัวดีขึ้นจากในช่วงครึ่งแรกของปี ซึ่งก็เป็นตามภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ขณะที่กลยุทธ์การตลาดของเคทีซีในช่วงครึ่งปีหลังจะเน้นการขยายฐานบัตรเครดิตไปยังกลุ่มลูกค้าระดับบนมากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อีกทั้งเป็นกลุ่มที่มีกำลังในการใช่จ่ายค่อนข้างสูง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ถือบัตรเครดิตรอยัลออร์คิด พลัส ซึ่งเป็นบัตรที่เคทีซีได้ร่วมมือกับบริษัทการบินไทย
ล่าสุดเพื่อกระตุ้นให้ผู้ถือบัตรเครดิตรอยัลออร์คิด พลัส ของเคทีซี ที่มีอยู่เดิมกว่า 100,000 บัตร มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และลูกค้ารายใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่ม เคทีซีจึงร่วมกับการบินไทยจัดแคมเปญ"แลก 1 บิน 2" ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-30ก.ย.นี้ โดยเตรียมเงินไว้สำหรับแลกไมล์ รอยัลออร์คิด พลัส ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เพราะเชื่อว่าแคมเปญนี้จะได้รับความสนใจอย่างสูง โดยผู้ถือบัตรสามารถนำไมล์สะสมมาแลกบัตรโดยสารการบินไทย 1 ใบ บินได้ 2 คนทุกเส้นทางและทุกชั้นของการบินไทย ขณะที่สมาชิกใหม่ในกลุ่มเคทีซี-รอยัล ออร์คิด พลัส ใช้จ่าย 20,000 บาท ขึ้นไป รับทันที 20,000 คะแนนสะสม และรับคะแนนสะสมสูงสุดถึง 300,000 คะแนน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจากการออกแคมเปญในครั้งนี้ ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรจะเพิ่มขึ้น 30 %
"ปัจจุบันยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเคดิตทีซีรอยัลออร์คิด พลัส ต่อบัตรต่อเดือนอยู่ที่ 23,000 บาท ส่วนบัตรเคทีซี-รอยัลออร์คิด พลัส วีซ่า อินฟินิท และเวิลด์ มาสเตอร์การ์ด มียอดใช้จ่ายต่อบัตรต่อเดือนอยู่ที่ 130,000-150,000 บาท ในส่วนของลูกค้าใหม่ เชื่อว่าจะมาถือบัตรของเคทีซีมากขึ้น จากปัจจุบันต่อเดือนมียอดเพิ่มขึ้นเดือนละ10,000 บัตร"
อย่างไรก็ตาม จากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้นและแคมเปญที่ได้ทำร่วมกับการบินไทยในครั้งนี้ จะเป็นส่วนให้ยอดใช้จ่ายรวมมีการเพิ่มขึ้นมาก โดยทั้งปีน่าจะปรับขึ้นไปอยู่ที่ 100,000 ล้านบาท จากปีที่แล้วอยู่ที่ระดับ 96,000 ล้านบาท
สำหรับยอดผิดนัดชำระขณะนี้อยู่ที่ 4.4 % เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนประมาณ 1 % และคาดว่าสิ้นปีจะอยู่ที่ระดับ 5 % ซึ่งยังถือว่าเป็นระดับที่รับได้ และสิ้นปีนี้ผลการดำเนินงานของเคทีซียังมีกำไรสุทธิ เพียงแต่กำไรสุทธิจะปรับลดลงจากปีก่อน อย่างไรก็ตามในส่วนของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ที่ 2%
นายนิวัตต์กล่าวว่า ภายในสิ้นปีนี้ทางเคทีซียังมีแผนที่จะทำการออกหุ้นกู้อีก แต่ยังไม่ได้กำหนดวงเงินว่าจะอยู่ที่เท่าไหร่ ส่วนอายุหุ้นกู้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 3 ปี ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่นักลงทุนสนใจ.
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|