”ไลอ้อน”ทุ่ม300ล.ปรับซัปพลายเชน 'เปา'ส่งสูตรซักผ้ากลางคืนไม่ง้อแดด


ASTVผู้จัดการรายวัน(23 มิถุนายน 2552)



กลับสู่หน้าหลัก

ไลอ้อน ทุ่ม 80 ล้านบาท ระเบิดนวัตกรรมผงซักฟอกเปาซิลเวอร์ นาโน สูตรซักกลางคืนไม่ง้อแดด ขานรับเซกเมนต์ผงซักฟอกขจัดกลิ่นอับโตพรวด หวังทะลวงคนรุ่นใหม่-คนเมืองชีวิตเร่งรีบ ลั่นกวาดแชร์เพิ่ม 5% จาก 12% รั้งอันดับ 2 ทิ้งห่างแอคแทค พร้อมเดินหน้าเท 300 ล้านบาท ปรับปรุงซัพพลายเชน การผลิต รองรับฐานการผลิตสินค้าส่งออกแทนญี่ปุ่น นำร่อง 3กลุ่มสิ้นปีรายได้ 9,000 ล้านบาท

นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผงซักฟอกเปา เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มงบ 80 ล้านบาท เปิดตัวผงซักฟอกเปาซิลเวอร์ นาโน นวัตกรรมใหม่สูตรซักกลางคืนไม่ง้อแดด เพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ที่มีชีวิตประจำวันเร่งรีบ และด้วยสภาพภูมิอากาศประเทศไทยมีฝนตกชุก การซักผ้าเกิดปัญหาด้านกลิ่นอับโดยบริษัทได้นำร่องวางจำหน่าย 1 ขนาด 1,000 กรัม ราคา 92 บาท ใกล้เคียงกับผงซักฟอกชนิดอื่นๆ

"ในช่วงที่ผ่านมานโยบายสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ในครัวเรือน บริษัทมุ่งเน้นนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ เปาซอฟท์ หรือผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือกระทั่งนวัตกรรมแก้ปัญหากลิ่นอับของผ้าหรือเปาเฮยาบูชิ และล่าสุดสูตรซักกลางคืน เพื่อตอบสนองคนรุ่นใหม่และคนเมืองซึ่งพบว่ามีการซักผ้ากลางคืนเพิ่มมากขึ้น"

ทั้งนี้ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา พบว่าเซกเมนต์ผงซักฟอกขจัดกลิ่นอับ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง กระทั่งปัจจุบันมีสัดส่วน 10% และปีนี้คาดว่ามีการเติบโต 10% เนื่องจากพบว่าผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าดังกล่าวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเซกเมนต์ขจัดคราบพื้นฐานสัดส่วน 50-60% เซกเมนต์ซักผ้าขาว 20% และสำหรับผ้าสี 10% ขณะที่ตลาดผงซักฟอกมูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาทช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเติบโต 5-6% และคาดว่าทั้งปีโต 6% เท่ากับปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตที่ดีในท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอย

บริษัทได้เตรียมโฆษณาประชาสัมพันธ์ครบวงจร ผ่านทางโทรทัศน์ และกิจกรรมส่งเสริมการขาย ตั้งเป้าทั้งปีมีส่วนแบ่งเพิ่ม 4-5% จากปัจจุบันส่วนแบ่งคอร์ปอเรต 12% เพื่อรั้งอันดับ 2 ของตลาด จากปัจจุบันบริษัทคาโอ สลับกันเป็นอันดับ 2 ของตลาด ส่วนผู้นำตลาดบรีส ครองส่วนแบ่งกว่า 50% ส่วนรายได้รวมของบริษัททั้งปีตั้งเป้า 9,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา 8,400 ล้านบาท แบ่งเป็น ส่งออก 10%และในประเทศ 90%

นายบุญฤทธิ์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทได้ทุ่มงบ 300 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงระบบซัพพลายเชน และระบบการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยได้ทยอยใช้งบ 150 ล้านบาท ปรับปรุงในช่วงครึ่งปีแรก และคาดว่าครึ่งปีหลังใช้ 150 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อรองรับตลาดภายในประเทศและการเป็นฐานส่งออกสินค้ากลุ่มยาสีฟัน แปรงสีฟัน และน้ำยาล้างมือคิเรอิ คิเรอิ เนื่องจากไลอ้อน ญี่ปุ่นมีนโยบายหยุดผลิตสินค้าบางกลุ่ม และให้พันธมิตรทางธุรกิจผลิตสินค้าป้อนตลาดให้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทส่งออกสินค้าไปประเทศญี่ปุ่นสัดส่วน 10%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.