| |
นักลงทุนจองซื้อหุ้นTTCLเฮ ปิดเทรดวันแรกเหนือจอง7%
ASTVผู้จัดการรายวัน(17 มิถุนายน 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
หุ้นโตโย-ไทยฯ ฝ่ามรสุมเทรดวันแรกเหนือจอง 0.29 บาท หรือเพิ่มขึ้น 6.82% ผู้บริหารมั่นใจยืนเหนือจองจนปิดตลาดจากความโดดเด่นของธุรกิจรับเหมาฯที่ครบวงจร สภาพคล่องทางการเงินแกร่ง และงานในมือเกือบพันล. ด้านที่ปรึกษาการเงินฯ ชี้แม้มีปัจจัยต่าง ๆ กดดันแต่ยังเปิดเทรดเหนือจองถือว่าน่าพอใจและหุ้นเหมาะลงทุนระยะยาว
วานนี้ ( 16 มิ.ย.)หุ้น TTCL ของ บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)เข้าเทรดวันแรกวานนี้พบว่าราคาหุ้นเปิดตลาดเหนือราคาจองที่ 4.48 บาท เหนือราคาจองที่กำหนดไว้ 4.25 บาท และไต่ขึ้นไปแตะที่ระดับสูงสุด 4.80 บาท ของซื้อขายช่วงเช้า ขณะที่ช่วงบ่ายราคาหุ้นค่อย ๆ ปรับต่ำลงก่อนปิดตลาดที่ราคา 4.54 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.29 บาท คิดเป็น 6.82% โดยปรับขึ้นสูงสุดระหว่างวัน 4.80 บาท ต่ำสุด 4.36 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 147.99 ล้านบาท
นายสุวิทย์ มโนมัยยานนท์ ผู้อำนวยการและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและสัญญา TTCL เปิดเผยว่าการเปิดซื้อขายหลักทรัพย์วันแรกถือเป็นบริษัทแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)ในปีนี้ และรู้สึกยินดีที่ราคาหุ้นสามารถเปิดซื้อขายเหนือราคาจองได้
โดยมั่นใจว่าราคาหุ้นของ TTCL จะสามารถยืนในระดับเหนือจองได้จนกระทั่งปิดการซื้อขาย แม้แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงนี้จะผันผวนสูง เพราะวันก่อนหน้าดัชนีตลาดฯ ปรับลดลงถึง 2% จากความแข็งแกร่งของธุรกิจเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นที่ประกอบธุรกิจประเภทเดียวกัน ซึ่งจุดเด่นของอยู่ที่การเป็นบริษัทรับเหมาฯที่ให้บริการ Integrated EPC ครบวงจรเป็นบริษัทเดียวในไทยขณะนี้
นอกจากนี้ บริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินสูงปัจจุบันมีกระแสเงินสดอยู่ที่ 4,000 ล้านบาทและธุรกิจคู่แข่งน้อยราย และมีต้นทุนการดำเนินงานถูก ถือเป็นโอกาสดีในการสร้างช่องทางการเติบโตของธุรกิจ และยังมีความโดดเด่นในการทำกำไร เมื่อปี2551 บริษัทมีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) 46% ถือว่าโดดเด่นที่สุดในอุตสาหกรรม
ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่างานในมือ (Back Log) 9,300 ล้านบาท และจะทยอยเข้าประมูลงานประกวดราคาอีกมูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาท โดยส่วนใหญ่บริษัทจะได้รับงานประมาณ 33%
นายไพบูลย์ นรินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า TTCL เปิดเทรดวันแรกถือว่าราคาออกมาเป็นที่น่าพอใจ เพราะช่วงนี้ภาวะตลาดค่อนข้างผันผวน ประกอบกับช่วงเปิดตลาดเช้าดัชนีฯ ปรับลดลง ภายใต้ปัจจัยต่างๆที่เข้ามากดดันแต่ราคาเปิดเทรดเหนือจองถือว่าเป็นที่น่าพอใจ และรูปแบบธุรกิจของบริษัทต่างจากธุรกิจอื่นจึงเหมาะแก่การลงทุนระยะยาว
โดยประเมินแนวโน้มภาพรวมของตลาดทุน หลังจากที่เม็ดเงินต่างชาติไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และช่วงหลังอัตราค่อนข้างสูง ส่งผลกดดันตลาดหุ้นไทยให้ผันผวนอย่างรุนแรงและรวดเร็ว โดยเบื้องต้นประเมินว่าช่วง 1 เดือนหลังจากนี้ดัชนีตลาดฯ จะยังไม่ปรับลดลงอย่างรุนแรง แต่มีโอกาสปรับลงแตะที่ระดับ 500 จุด ได้ช่วงไตรมาส 3 นี้ 52 แต่ปัจจัยที่น่าจับตามองขณะนี้คือการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่อาจมีขึ้นช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายนนี้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|