|
ทีวีไดเร็คสยายปีกโฮมชอปปิ้งทุ่ม60ล.ผนึกเคเบิล-ดาวเทียม
ASTVผู้จัดการรายวัน(16 มิถุนายน 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
ทีวีไดเร็ค สยายปีก ลุยโฮมชอปปิ้งเต็มรูปแบบ ทุ่ม 60 ล้านบาท ผนึกเครือข่ายเคเบิล ทีวีดาวเทียม เปิดช่องใหม่ ทั้งวัน ประเดิมกลางปีนี้ มั่นใจโกย 140 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีนี้ ส่งผลทั้งปีโต 10% ทะลุ 1,250 ล้านบาท
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจไดเร็คมาร์เก็ตติ้งหรือการตลาดแบบตรง เปิดเผยว่า บริษัทฯได้รุกช่องทางการขายใหม่ด้วยการเปิดตัว “โฮมชอปปิ้ง” โดยลงทุนประมาณ 60 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนทางด้านอุปกรณ์และฮาร์ดแวร์ 10 ล้านบาท และลงทุนด้านผลิตรายการและค่าขึ้นสัญญาณกว่า 50 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในกลางปีนี้ โดยจะเปิดตัวช่องแรกในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้
ทั้งนี้บริษัทฯจะร่วมมือกับทางผู้ประกอบการเคเบิลเทีวีและในระบบทีวีดาวเทียมในการใช้ช่องสัญญาณเพื่อดำเนินงานช่องโฮมชอปปิ้ง ซึ่งในช่วงแรกนี้ อยู่ระหว่างการเจรจากับทางผู้ประกอบการเครือข่ายเคเบิลกว่า 4-5 ราย และจะเปิดตัวเป็นทางการเครือข่ายแรกในวันที่ 30 มิถุนายนนี้
รูปแบบรายการแบ่งออกเป็น 3 เฟส โดยเฟสแรกเป็นรายการแนะนำสินค้าหรือ Infomercial จากฟรีทีวีที่ผ่าน กบว. แล้วมาออกอากาศ เฟสที่ 2 เริ่มทำ Home Shopping อย่างครบวงจรและสมบูรณ์แบบ ทั้งสินค้าและบริการต่างๆ ที่สามารถสั่งได้จากที่บ้าน เช่น การจัดส่งดอกไม้ สำนักกฎหมาย ทนายความ แอร์ไลน์ ปรึกษาเรื่องทรงผม ส่วนเฟสที่ 3 เป็นการทำ Live Show โดยจะเริ่มตั้งแต่วันละ 1 ชั่วโมง ถึง 4 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งขึ้นอยู่กับความพร้อมทุกด้าน
โดยบริษัทฯมีพันธมิตรที่เกี่ยวกับสินค้าและบริการประมาณ 400 ราย แบ่งเป็นของบริษิทฯเองประมาณ 60% และของซัปพลายเออร์ 40% โดยสินค้าหลักๆที่ทำรายได้ดีคือ สินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ เพราะมีมาร์จิ้นสูง
สำหรับเงื่อนไขในการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกันนั้น เจ้าของสินค้าและบริการ ต้องเสียค่าการตลาด ค่าส่วนแบ่งการขาย และค่าผลิตรายการ ทั้งนี้มูลค่าเท่าใดขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า และสถานะของสินค้า หากเป็นสินค้าใหม่ล่าสุดก็อีกแบบหนึ่ง ส่วนสินค้า มือหนึ่งและ Dead Stock หรือสินค้า Clearance ก็ต่างกันไป
“รุปแบบใหม่นี้น่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้เราขยายฐานทางการตลาดมาก ซึ่งปัจจุบันเรามีฐานลูกค้ากว่า 9 แสนราย และมีการซื้อซ้ำเฉลี่ย 1.35 ครั้งต่อคนต่อปี ขณะที่การออกอากาศผ่านเคเบิลทีวีนั้นจะมีกลุ่มคนดูมากกว่า 2 ล้านครัวเรือนที่รับชมได้ จากเดิมที่เราก็มีรายการผ่านทางฟรีทีวีอยู่แล้ว 4 ช่อง คือ 3, 5, 7 และ โมเดิร์นไนน์” นายทรงพลกล่าว
นายทรงพลกล่าวด้วยว่า ถึงแม้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยจะอยู่ในช่วงขาลงว่า “เราไม่เคยมองว่าเป็นเศรษฐกิจขาขึ้นหรือขาลง เพราะการทำการตลาดเจาะจงเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) นั้น ไม่ได้เกี่ยวกับเศรษฐกิจว่าจะเป็นช่วงไหนขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสในการที่ต้องทำทั้ง ส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) ที่เพิ่มขึ้น และสัดส่วนของกระเป๋าเงินลูกค้า (Share of Wallet) ให้มากขึ้น ตั้งแต่การเตรียมการขาย การเตรียมทีมบริหารสินค้า ทีมผลิตรายการด้วยการนำเสนอความเป็นครีเอทีฟ
จากช่องทางใหม่นี้มั่นใจว่าบริษัทฯจะสามารถทำรายได้มากกว่า 70 ล้านบาทในครึ่งปีนี้ และตั้งเป้าหมายรายได้ 1 ปีแรกของการดำเนินงานที่ 140 ล้านบาท ขณะที่ตั้งเป้าหมายรายได้รวมปีนี้ไว้ที่ 1,250 ล้านบาท หรือเติบโต 10% จากปีที่แล้วที่มีประมาณ 1,150 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้แต่ละช่องทางมีดังนี้ 1.ทางสื่อทีวี เคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียม 50% 2.ไดเร็คมาร์เก็ตติ้ง ผ่านคอลล์เซ็นเตอร์ ไดเร็คเมลล์ ประมาณ 30% 3.ช่องทางค้าปลีก 20%
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|