เจฟฟรีย์ อาร์.อิมเมลต์ ผู้นำคนใหม่ของจีอี

โดย รุ่งมณี เมฆโสภณ
นิตยสารผู้จัดการ( มกราคม 2544)



กลับสู่หน้าหลัก

หลังจากอึมครึมมานาน ทุกอย่าง ก็กระจ่างชัด

เมื่อจอห์น เอฟ. เวลช์ จูเนียร์ (John F. Welch Jr.) หรือ ที่รู้จักกันดีในนามแจ็ก เวลช์ (Jack Welch) เบอร์ หนึ่งของจีอี (GE - General Electric Co.) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้บริหาร ที่ทรงอิทธิพลสูงสุดในยุคนี้ได้ประกาศตัวทายาท

เขาผู้นั้น คือ เจฟฟรีย์ อาร์. อิม เมลต์ (Jeffrey R. Immelt)

เวลช์ประกาศการวางมือมาตั้งแต่ เมื่อปีค.ศ.1994 ซึ่งทำให้เกิดการคาด เดากันไปต่างๆ นานาว่าใครกันหนอ ที่จะ มาแทน ที่เขา ตามกำหนดเดิมเวลช์จะเกษียณในเดือนเมษายน ปี 2001 แต่แล้วหลังจาก ที่จีอีไปซื้อกิจการของฮันนี เวลล์ (Honeywell) ก็เกิดเงื่อนไขใหม่ขึ้นมาว่า เวลช์จะต้องดูแลจีอีต่อไปจน ถึงสิ้นปี 2001

ไม่มีใครทราบมาก่อนว่า บอร์ดของจีอีจะประชุมตัดสินใจเลือกผู้ที่จะมาทำหน้าที่แทนเวลช์กันเมื่อไร แต่แล้วจู่ๆ ในช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า เวลช์ก็เรียกประชุมบอร์ดในเย็นวันหนึ่งโดยเป็นการประชุมกันทางโทรศัพท์ และใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็ได้ข้อสรุป ว่าเป็นอิมเมลต์ ประธาน และซีอีโอของ GE Medical Systems หรือ Gems

อิมเมลต์ผู้นี้ในพจนานุกรมของเขา ไม่มีวลีว่า "ทำไม่ได้"

เรื่อง ที่อิมเมลต์ได้รับการกล่าวขวัญถึง หลังจาก ที่เขาได้รับการวางตัวให้เป็นทายาทของเวลช์ก็คือ เรื่อง ที่เมื่อตอนต้นปีนี้ หลังจาก ที่อิมเมลต์ได้รับรายงานว่า Gems พลาดโอกาสเซ็นสัญญามูลค่าหลายล้านเหรียญสหรัฐกับโรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่ง เขาพูดเรียบๆ เพียงแค่ว่า ปล่อยให้เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นไม่ได้ ว่าแล้วก็บินไปพบกับผู้บริหารระดับสูงของโรงพยาบาลแห่งนั้น ด้วยตัวเอง และโดยไม่ลดราคาลงแม้แต่เหรียญเดียว อิมเมลต์ได้เสนอบริการ และเงื่อนไขพิเศษชนิด ที่ผู้ที่ไม่เห็นด้วยก็ไม่อาจปฏิเสธได้...

ในที่สุด Gems ก็ได้สัญญาดังกล่าวไว้ในมือ!

คนที่รู้จักทั้งเวลช์ และอิมเมลต์บอกว่า 2 คนนี้มีวิธีทำงานต่างกัน

เวลช์มักจะชอบเขียนบันทึกถึงผู้ใต้บังคับบัญชา ขณะที่อิมเมลต์ชอบ ที่จะยกหูโทรศัพท์ เวลช์บอกว่าเขานั้น โฉ่งฉ่าง ขณะที่อิมเมลต์นุ่มนวลกว่า

อย่างไรก็ตาม ในความต่างก็มีความเหมือน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความ จำหรือสติปัญญาอันแหลมคม แต่อิมเมลต์เป็นคนที่ไม่ชอบใช้พระเดช ซึ่งจุดนี้เอง ที่ทำให้เขาเป็นชื่นชอบของ เพื่อน ร่วมงาน และผู้คนมักจะเอาใจช่วยเขาเสมอให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ไม่เหมือนบางคนที่มีแต่คนสาปแช่ง!

แม้อิมเมลต์จะพูดจาดีมีมารยาท แต่เขาก็ดูมีพลัง

อิมเมลต์ วัย 44 ปี สูง 6 ฟุต 4 นิ้ว ผมสีน้ำตาล ที่ดกเต็มศีรษะเริ่มแซมด้วยสีดอกเลา รูปร่างใหญ่โตล่ำสันแบบนักฟุตบอล อาจกล่าวได้ว่ากีฬาเป็น ส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา

เจฟฟ์ อิมเมลต์ โตมาในย่านชน ชั้นกลางของ Cincinnati พ่อของเขาทำงานกับ GE Aircraft Engines อยู่นานถึง 38 ปี ในฐานะผู้บริหารระดับกลาง อิมเมลต์เป็นลูกคนเล็กในจำนวนลูกชาย 2 คนของครอบครัว เขาเป็นเด็ก เรียนดี ที่หลงใหลในกีฬาฟุตบอลอย่างมาก อิมเมลต์เป็นนักฟุตบอลของมหา วิทยาลัยระหว่างเรียน ที่ดาร์ตมัท (Dart-mouth College) ซึ่ง ที่นี่เขาเรียนวิชาเอกทางด้านคณิตศาสตร์ประยุกต์ และได้เป็นประธานของ Phi Delta Alpha

ระหว่างหยุดภาคฤดูร้อนอิมเมลต์ไปทำงานกับฟอร์ดมอเตอร์

เมื่อจบจากดาร์ตมัทแล้ว เขาทำงานกับ Procter & Gamble อยู่ช่วงสั้นๆ ก่อน ที่จะไปเรียนต่อทางด้านบริหารธุรกิจ (M.B.A.) ที่ฮาร์วาร์ด ในยุคที่คำว่า "ยัปปี้" กำลังระบาด และช่วง นั้น บรรดาสถาบันการเงิน และบริษัทที่ปรึกษาต่างๆ ได้พากันทุ่มเงินเดือนจำนวนมหาศาลซื้อตัวบรรดานักศึกษาระดับครีมทางด้านบริหารธุรกิจ -- แต่อิมเมลต์เลือกจีอี!

เพื่อนเก่าจากฮาร์วาร์ดของอิมเมลต์คนหนึ่งก็คือ เจมส์ ไดมอน (James Dimon) ประธานของ Bank One Corporation

ในปี 1983 หลังจาก ที่ทำงานกับจีอีอยู่ 1 ปีเขาก็ไปดำรงตำแหน่งผู้จัดการ ฝ่ายขายของ GE Plastics ที่นั่นเอง ที่อิมเมลต์ได้พบกับ เพื่อนร่วมงานสาวน้อยชื่อแอนเดรีย อัลเลน (Andrea Allen) หลังจากพบกันไม่นานอัลเลนก็ได้ย้ายไปชิคาโก แต่ทั้งคู่ก็ยังคงติดต่อ กันอย่างสม่ำเสมอ และตัดสินในใช้ชีวิตร่วมกันในปี 1986 หนึ่งปีถัดมาครอบครัว อิมเมลต์ก็ได้ลูกสาว-ซาราห์ (Sarah) และแอนเดรีย อิมเมลต์ก็ตัดสินใจออกจากงานมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว

อิมเมลต์พูดถึงภรรยาว่า เธอทำให้ชีวิตของเขาสมดุล

ในปี 1989 อิมเมลต์ ย้ายไปอยู่ GE Appli-ances รับผิดชอบทางด้านลูกค้าสัมพันธ์ และด้าน การตลาด ก่อน ที่จะกลับไป ที่ GE Plastics อีกครั้ง และขึ้นเป็นผู้จัดการทั่วไป ที่นี่ในปี 1992 จนกระทั่งได้รับการแต่งตั้งให้ไปเป็นประธานของ Gems ในปี 1997

Gems ภายใต้การนำของอิมเมลต์ ปรากฏว่ายอดขายพุ่งขึ้นถึง 75 เปอร์เซ็นต์ -- เรียกได้ว่า Gems รุ่งเรืองในอุ้งมือของเขา

สำหรับความเหมือนของอิมเมลต์ และเวลช์ยังมีอีก นอกเหนือจากเรื่องของสติปัญญา ที่พูดถึงไปแล้วข้างต้น... ทั้งคู่รักกีฬา ชอบคุยกับลูกค้า และชอบเล่าเรื่องตลกแบบร้ายกาจปานกัน รวมทั้งยังชอบสอนหนังสือแก่ เพื่อนร่วมงานเหมือนกันอีกด้วย ส่วนสิ่งที่ทั้งอิมเมลต์ และเวลช์ทนไม่ค่อยได้เหมือนๆ กันก็คือ พิธีรีตองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ขั้นตอนในที่ทำงาน การแต่งกาย และมารยาท...

แม้เวลช์จะบอกว่า อิมเมลต์ไม่ต้องพิสูจน์อะไรกับใครอีกแล้ว แต่นักสังเกตการณ์เชื่อว่าอิมเมลต์ยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เพื่อพิสูจน์ทั้งต่อวอลสตรีต และบอร์ดของจีอีเอง ว่าเขาเหมาะสมกับการเป็นทายาทแจ็ก เวลช์ ผู้ ซึ่งทำให้ยอดขายของจีอีพุ่งจากปีละ 2 หมื่น 5 พันล้านเหรียญสหรัฐเป็น 1 แสน 7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่รู้จักอิมเมลต์ดีเชื่อว่า คนที่ไม่ได้ทำงานด้วยปากอย่าง เขาต้องทำได้!

ชีวิตของเจฟฟ์ อิมเมลต์เวลานี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการงานกับชีวิตครอบครัว ...60 เปอร์เซ็นต์ของเวลาในชีวิตของเขาจะมีแต่งาน แม้วันที่ไม่เร่งรีบที่สุด อิมเมลต์ก็จะทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึงทุ่มตรง เวลา ที่นอกเหนือจากงาน เขาจะอุทิศให้กับภรรยา และซาราห์ลูกสาวคนเดียว ที่ตอนนี้อายุ 13 ขวบ

อิมเมลต์จะอ่านหนังสือโดยเฉลี่ย สัปดาห์ละเล่ม ส่วนใหญ่จะเป็นนวนิยาย หรือไม่ก็ประวัติบุคคล ที่น่าสนใจ สำหรับเรื่องการออกกำลังกาย เขาจะออกกำลัง ที่ห้องยิม ที่บ้านทุกเช้า และพยายาม ที่จะใช้ห้องยิมของโรงแรม เวลา ที่เขาต้องเดินทาง กีฬาโปรดของเขา ตอนนี้คือ กอล์ฟ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นกีฬาโปรดของแจ็ก เวลช์เช่นกัน

เมื่ออิมเมลต์มานั่ง ที่สำนักงานใหญ่ของจีอี ที่แฟร์ฟิลด์ (Fairfield) แล้ว เวลช์คิดว่าจะได้เล่นกอล์ฟกับอิมเมลต์หรือไม่ เรื่องนี้เวลช์บอกกลั้วหัวเราะว่า...

"ก่อนอื่น เจฟฟ์จะต้องไปพัฒนา ฝีมือให้ดีขึ้นกว่านี้ก่อน!"

คงสนุกไม่หยอกหรอกค่ะ ถ้าได้ดูคนคู่นี้ประมือกัน!



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.