3บริษัทจ่อคิวไอพีโอ6พันล้านคลังขายทหารไทยให้รายย่อย


ผู้จัดการรายวัน(18 กันยายน 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

3 บริษัทจ่อคิวระดมทุนจากประชาชนรวมถึง 5.7 พันล้านบาท เพื่อแต่งตัวเข้าตลาดหุ้นใหญ่-ใหม่ รวมถึงบมจ.ไทย โอเลฟินส์ ผู้ผลิตและจำหน่ายเอทีลีน และโพรพิลีน ในเครือปตท. บริษัท ไทยมิตซูวา (TMC) ผู้ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนพลาสติก สำหรับยานยนต์ ในเครือมิตซูวาจากญี่ปุ่น และบริษัท ฐิติกร ผู้ดำเนิน ธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ของไทย ขณะที่คลังพร้อมนำหุ้นแบงก์ทหารไทย (TMB) ที่ถือกระจายให้รายย่อย-นักลงทุน สถาบันเพิ่มหลังจองล้น ซึ่งจะทำให้สัดส่วนที่คลังถือหุ้นแบงก์อันดับ 6 ของไทยแห่งนี้เหลือ 40% ต้นๆ

นายสมหมาย ภาษี รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานคณะกรรมการทหารไทย เปิดเผยวานนี้ (17 ก.ย.) ว่าเขาหารือกับรัฐมนตรีคลัง ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ เกี่ยวกับกรณี ผู้ถือหุ้นรายย่อยธนาคารทหารไทยประสงค์จะใช้ สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน และต้องการซื้อหุ้นเพิ่มทุนจำนวนมากกว่าจำนวนสิทธิที่ได้รับจากการถือสัดส่วนหุ้นเดิม

รัฐมนตรีคลังเห็นด้วยในหลักการที่จะให้นำหุ้นที่กระทรวงการคลังมีสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน จำหน่ายนักลงทุนรายย่อย ตามที่ต้องการทั้งหมด

ส่วนกรณีนักลงทุนสถาบัน ที่แสดงความร่วมมือกับทางการ กรณีที่เดิมคาดว่า หากนักลงทุนรายย่อยไม่ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน นักลงทุน สถาบันจะรับซื้อแทนกระทรวงการคลัง เมื่อความ ต้องการใช้สิทธิเพิ่มทุนของนักลงทุนรายย่อยมาก ก็ไม่จำเป็นต้องรับซื้อ

แต่กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว เห็นว่าเพื่อแสดงถึงความร่วมมือที่ดี คลังจะนำหุ้นแบงก์ ทหารไทยสัดส่วนคลัง จำหน่ายให้นักลงทุนสถาบันที่แสดงความร่วมมือช่วยเหลือทางการครั้งนี้ด้วยแต่สัดส่วนจะเป็นเท่าไรจะพิจารณารายละเอียด และหารือในการประชุมคณะกรรมการธนาคารวันนี้ (18 ก.ย.)

"การที่นักลงทุนรายย่อยให้ความสนใจจำนวนมาก และกระทรวงการคลังเห็นด้วยในหลักการที่จะจัดสรรหุ้นให้ตามจำนวนที่ต้องการรวมหุ้นในธนาคารทหารไทยของกระทรวงการคลังลดลงจากเดิมที่หากใช้สิทธิตามสัดส่วนที่อยู่ที่ 49.84% เหลือประมาณ 40% กว่าเท่านั้น" นายสมหมายกล่าว

การประชุมคณะกรรมการธนาคารทหาร ไทยวันนี้ (18 ก.ย.) จะพิจารณารายละเอียดจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมด ซึ่งถือว่าการดำเนินเพิ่มทุนธนาคารทหารไทย สิ้นสุดกระบวนการ

3 บริษัทระดมทุนเกือบ 6 พันล้านบาท

บมจ. ไทยโอเลฟินส์ ผู้ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเอทีลีน และโพรพิลีน จะเสนอ ขายหุ้นนักลงทุนทั่วไปช่วงต้นพ.ย.นี้ จะเสนอขายหุ้นให้นักลงทุนต่างประเทศประมาณ 50% ของจำนวนหุ้นที่จะกระจาย โดยบริษัทหลักทรัพย์เมอร์ริล ลินช์ ภัทร เป็นที่ปรึกษาส่วนเสนอขาย ต่างชาติ

นางขนิษฐา สรรพอาสา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรีนีตี้ แอดไวซอรี่ 2001 ในฐานะที่ปรึกษาการเงินนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ กล่าวว่าบริษัท ไทยโอเลฟินส์ จะเป็นบริษัทแรกของหุ้นที่จะกระจายให้ประชาชนทั่วไป (IPO) ปีนี้ที่จะเสนอขายนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากระดมทุนขนาดใหญ่ ประมาณ 4.5 พันล้านบาท

โดยบริษัทหลักทรัพย์เมอร์ริล ลินช์ ภัทร เป็นที่ปรึกษาอีกรายจะนำข้อมูลเสนอนักลงทุน ต่างประเทศประมาณสัปดาห์สุดท้ายต.ค.นี้ ก่อน จะกำหนดราคาและจำนวนหุ้นที่จะเสนอขายครั้งนี้

ปตท.ถือหุ้นใหญ่

บริษัทไทยโอเลฟินส์ ทุนจดทะเบียน 5,850 ล้านบาท ราคาพาร์หุ้นละ 10 บาท 585 ล้านหุ้น ผู้ถือหุ้นได้แก่ บริษัท ปตท. 63% หลังขายหุ้นจะ ลดเหลือ 48% ยังมีบริษัทย่อยบริษัท ปูนซิเมนต์ ไทย บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย (TPI) บริษัท วีนิไทย เป็นผู้ถือหุ้นด้วย

วัตถุประสงค์ระดมทุนครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินใช้ลงทุนสร้างโรงงานเพื่อผลิตสาร MEG โครงการ EO/EG ซึ่งจะผลิตขวดแก้วใส่น้ำดื่ม โรงงาน ดังกล่าวคาดจะเสร็จปี 2549

"การขายหุ้นไทยโอเลฟินส์ คาดว่าจะได้รับ ความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากเป็นบริษัทขนาดใหญ่ อยู่ในกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีที่มีแนวโน้ม อยู่ในช่วงขาขึ้น เป็นรายแรกที่เสนอขายให้นักลงทุนต่างชาติปีนี้ ดังนั้น น่าจะได้รับความสนใจ จากนักลงทุนต่างชาติ"

เธอกล่าวว่า งวดครึ่งแรกของปี บริษัทผลิต เอทิลีนได้ 1.96 แสนตัน ผลิตโพรทิลีนได้ 1.17 แสนตัน และผลิตผลิตภัณฑ์พลอยได้ 2.29 แสน ตัน ยอดขายสุทธิ 9.18 พันล้านบาท เป็นสัดส่วน ประมาณ 96% ของรายได้รวมของบริษัท กำไรสุทธิถึง 946.6 ล้านบาท

ไทยมิตซูวาเตรียมนำหุ้นเข้า MAI

บริษัท ไทยมิตซูวา (TMC) ผู้ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับยานยนต์ จะเปิดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน และหุ้นสามัญเดิมรวม 7.98 ล้านหุ้น ให้ประชาชน ทั่วไปคาดเสนอขายระหว่าง 29-30 ก.ย.นี้ กำหนด ช่วงราคาหุ้น 11-13 บาท โดยบริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาการเงินและ แกนนำจัดจำหน่าย

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในเครือกลุ่มกิมเอ็งจากสิงคโปร์ ในฐานะที่ปรึกษาการเงิน และแกนนำจัดจำหน่าย เปิดเผยว่าบริษัท ไทยมิตซูวา จำกัด (มหาชน) คาดว่าจะเริ่มซื้อ-ขายในตลาดใหม่ราวต.ค.นี้ กำหนดช่วงราคาขายหุ้นระหว่าง 11-13 บาท คาด ว่าจะเปิดจองซื้อ 29-30 ก.ย. นี้

นายมนตรีกล่าวว่า แม้ตลาด MAI อาจไม่ได้รับความนิยมมากนักช่วงที่ผ่านมา แต่หุ้นหลาย ตัวตลาด MAI ก็ประสบความสำเร็จ เชื่อว่านักลงทุนสามารถแยกแยะความน่าสนใจลงทุนได้ด้วยปัจจัยพื้นฐาน หวังว่าหุ้นไทยมิตซูวาจะช่วยสร้างความคึกคักให้ตลาดใหม่มากขึ้น

เนื่องด้วยเป็นบริษัทศักยภาพเติบโตสูง ฐาน ธุรกิจแข็งแกร่ง และสินค้าที่ผลิตเป็นที่ต้องการของอุตสาหกรรม ฐานลูกค้าดี กำไรน่าพอใจ ปีที่ผ่านมา รายได้รวม 940 ล้านบาท กำไรสุทธิ 73 ล้านบาท

การระดมทุนครั้งนี้ จะชำระคืนเงินกู้ยืมที่บริษัทใช้ขยายโรงงานใหม่ที่จีน โดยร่วมทุนกับบริษัทแม่จากญี่ปุ่น จุดเด่นบริษัท คือดำเนินธุรกิจ ยาวนานถึง 15 ปี เติบโตต่อเนื่องมาตลอด ฐาน ลูกค้าบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรม เช่น แคนนอน โซนี่ ฮอนด้า ซูซูกิ เป็นต้น ผู้บริหารประสบ การณ์สูงในธุรกิจ อีกทั้งยอดขายชิ้นส่วนรถยนต์ ยังคงแนวโน้มเติบโตสูง บริษัทยังให้บริการครบวงจร เน้นผลิตสินค้าคุณภาพ ต้นทุนแข่งขันในตลาดได้

ทางด้านนายฮิโรชิ ยามาด้า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยมิตซูวา เปิดเผยว่า บริษัทเป็น บริษัทกลุ่มมิตซูวาจากญี่ปุ่น ก่อตั้งโดยบริษัท มิตซูวา อิเล็คทริค อินดัสตรี จำกัด ผู้ผลิตชิ้นส่วน พลาสติกชั้นนำ ประวัติดำเนินงานกว่า 40 ปีจาก ญี่ปุ่น

บริษัท ไทยมิตซูวา ก่อตั้งในไทยปี 2530 เพื่อผลิตชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุปกรณ์เครื่องเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ปัจจุบันการผลิตชิ้น ส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นรายได้ ส่วนใหญ่ของบริษัท

บริษัทฯ ผลิตชิ้นส่วนพลาสติกให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ที่ตั้งฐานผลิตในเมืองไทยเป็นหลัก อาทิ เจวีซี ชาร์ป แคนนอน โซนี่ แอลจี อีเล็กทริค ยอด ขายส่วนใหญ่กว่า 80% ขายให้ผู้ผลิตสินค้า ต้นแบบ (OEM) ชั้นนำ ที่มีฐานผลิตในไทย ซึ่งลูกค้า ผู้ผลิตสินค้าต้นแบบ (OEM) เหล่านี้ จะส่งออกสินค้าที่ผลิตได้ไปตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่

ตั้งแต่ปี 2543 บริษัทเริ่มเน้นขยายตัวด้านชิ้นส่วนรถยนต์และรถจักรยานยนต์มากขึ้น เนื่อง จากศักยภาพธุรกิจดังกล่าว แนวโน้มเติบโตสูง ปีที่ผ่านมา บริษัทรายได้จากชิ้นส่วนรถยนต์และ รถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นประมาณ 24% ของยอดขายทั้งหมด

คาดว่าจะสูงขึ้นปีต่อๆ ไป บริษัทฯ คาดว่า ด้วยศักยภาพบริษัทฯ จะสามารถขยายตลาดไปผู้ผลิตรถญี่ปุ่นรายใหม่ๆ ได้อีกด้วย

ฐิติกรร่วมแจม

บมจ. ฐิติกร บริษัทดำเนินธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ของไทย จะเสนอขายหุ้น ประชาชนทั่วไปราคาหุ้นละ 11 บาท หลังนักลงทุน สถาบันสนใจซื้อสูงถึง 10 เท่า โดยเสนอขายระหว่าง 23-24 ก.ย. นี้ 100 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 1 บาท และจัดสรรให้นักลงทุนสถาบัน 35 ล้านหุ้น

นางขนิษฐา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรีนีตี้ แอดไวซอรี่ 2001 ในฐานะที่ปรึกษาการเงินบริษัท กล่าวว่าบริษัทจะซื้อขายในตลาดหลัก ทรัพย์กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ ภายใน 2 ต.ค. นี้เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน

เนื่องจากเป็นบริษัทที่คาดมีอัตราเติบโตพอร์ตสินเชื่อปีนี้เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน ที่มีพอร์ต สินเชื่อ 3.8 พันล้านบาท ปีนี้บริษัทจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ทันทีประมาณ 3-4%

เธอคาดว่าช่วงต.ค.ภาวะการลงทุนตลาดหลักทรัพย์ไทยจะยังคงคึกคักต่อเนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่เติบโตดี ดอกเบี้ยตลาดเงิน ต่ำ เชื่อว่าครึ่งปีหลังมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันตลาด หุ้นไทยจะไม่ต่ำกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท

บริษัททุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท ชำระแล้ว 400 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาดธุรกิจสินเชื่อ เช่าซื้อรถจักรยานยนต์อันดับ 1 ที่ 37% การที่ดอกเบี้ยต่ำ ทำให้ฐานลูกค้ามากขึ้น

ปี 2545 บริษัทรายได้รวม 1.09 พันล้านบาท ไตรมาส 1/46 รายได้รวม 346 ล้านบาท กำไร สุทธิ 107 ล้านบาท บริษัทมีเงินกู้สถาบันการเงิน 3.3 พันล้านบาท หนี้สินต่อทุน 8 เท่า หลังขายหุ้นแล้ว หนี้สินต่อทุนจะลด



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.